Second Life Of A Dreamer (ชีวิตที่สองของคนช่างฝัน)
ณ.ห้องแห่งหนึ่งเป็นเหมือนห้องทำงานที่พหนังมีรูปออกแบบรถยนต์ เครื่องรถยนต์ โครงสร้างต่างๆ รวมถึงรูปออกแบบเครื่องยนต์ของเครื่องบินตัดลงที่โต๊ะทำงานได้มีรายงานที่เขียนชื่อโครงการว่าชุบชีวิตสัตว์แห่งนภาและได้มีภาพวาดที่ออกมาจากรายงานเป็นโครงซ่อมเครื่องบินโบราณมีแล้วใต้กระดาษได้เขียนว่า my dream แล้วก็เกิดเสียงพูดขึ้น
บ้าเอย…เล่มรายงงานอยู่ไหนเนี้ย
มีเสียงคนทีกำลังรีบร้อนกำลังเดินเข้ามาและได้ทำการเปิดประตูห้องทำงานอย่างรีบร้อน
อยู่นี้ๆเองเล่มรายงาน
แล้วเข้าก็ได้ยิบเล่มรายงานใส่กระเป๋าสะพายแล้วเขาก็ได้ตรวจดูของในกระเป๋าว่าได้ลืมรึเปล่าอย่างรีบร้อนแล้วเขาทำการตรวจสอบระว่างได้เดินออกนอกห้องในเวลาเดียวกันแล้วเขาได้ก็เดินไปอยู่ที่หน้าประตูแล้วเขาตรวจเสร็จในระเดินไปหน้าประตูทางออกจากบ้านแล้วได้ออกจากบ้านพร้อมล็อคประตูหน้าบ้านแล้วก็ไปขึ้นรถของเขาเพื่อที่จะไปทำงาน เขาได้ยกแขนซ้ายขึ้นมาเพื่อมาดูเวลา
แย่ล่ะสายแล้วนี้มันสายมาก กำลังที่จะเกินเวลาประชุมกับพิพิธภัณฑ์ที่มาจ้างงานกับบริษัทเรานี้ว่าตอนนี้ 8:12 น. เริ่มประชุมตอน 8:20 น.
เขาได้วางกระเป๋าไปไว้ที่เบาะรถทางขวามือแล้วออกรถกระบะไปทำงานน
[ ในระหว่างทางที่เขากำลังไปทำงาน ]
เสียงโทรศัพดังขึ้นมาเป็นเพลง seven Nation Army version :Battlefield1
เขาขวานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าที่ว่าางไว้ที่เบาะขวามือแล้วเขาขวานหาไม่เจอ เขาจึงได้หันหน้าไปดูกระเป๋าเขาสักพักในระหว่างขับรถในทันใดนั้นเขาได้ขับรถไปชนกับรถขันข้างหน้าอย่างจังในขณะที่เขากำลังตื่นตระหนก เขาได้เสียงเหมือนน้ำไหลออกมาอย่างรวดเร็วน้ำนั้นได้ตกลงมาที่กระโปรงหน้ารถของเขามันสีเหลืองมีกลิ่นเหม็นเหมือนน้ำมัน เขาคิดว่ารถชนด้วยคงไม่ใช้รถขนส่งน้ำมันหลังจากได้มองมอง
บ้าเอย..พอจะเกิดเรื่องแย่ๆที่มันก็เกิดขึ้นพลัวดเดียวเลย..บ้าเอย..
เขาได้พยายามเปิดประตูทางฝังเขาเพื่อออกจากรถแต่จากที่เขาได้ชนรถขนส่งน้ำมันอย่างจังมันทำให้โครงสร้างรถย์ของได้รับความเสียหายโดยการที่โครงสร้างรถได้ปีปตัวรถทำให้มันแน่นขึ้นเลยเปิดประตูไม่ไออก
บ้าเอยเปิดไม่ออก ทางขวาก็เปิดไม่ออกบ้าเอยรู้งี้ซื้อรถเก๋งมาใช้ ดีกว่า!!!
แล้วเขาก็ได้หันไปดูกระจกหลังของรถตัวเองใช้แล้วกระจกรถย์เขาจึงพยายามที่จะหาของในรถยนต์ของเขาที่จะมาทำลายกระจกหลังในระหว่างที่กำลังหาของเขาได้ยินเสียงเหมื่อนไฟจะเริ่มลุกจากฝากระโปรงหน้ารถไฟเริ่มลามตามน้ำมันที่ลนออกมาและเริ่มที่จะไหลไปทีตัวรถขนน้ำมัน
บ้าเอย บ้าเอย บ้าเอย วันนี้มันวันเฮงสวยชัดๆเลยวันแย่ๆ บ้าจริง
ในทันใดนั้นคนที่ขับรถขนส่งน้ำได้ลงมาพร้อมกลับถังดับเพลิงแล้วรีบลงทำการดับไฟแต่ยิ่งดับยังไงก็ดับไม่ทันชายคนนั้นได้หันมาพูด
ผมขอโทษผมคงไม่สามารถช่วยคุณได้แล้วล่ะ ผมขอโทษจริงๆ
แล้วเขาก็รีบวิ่งหนีออกห่างจากจุดที่เกิดอุบติเหตุ
บ้าจริง แม่งเอ้ย…….เหอ….คงไม่รอดไหนๆก็จะถึงแก่กรรมแล้วดูรายงานดีกว่า
เหอออออ เสียด้ายจริงอุสาได้งานดีๆ แล้วงานที่จะทำให้เราได้ไปลองซ่อมเครื่องบินโบราณ
เขาได้เปิดไปที่ล่ะหน้าว่าได้ว่าเครื่องบินแต่ล่ะลำที่จะต้องซ่อมมีลำไหนที่โดดเด่นบาง
อ่านี้ไงที่ฉันสนใจเครื่องบินของ เรด บารอน เสียดายจริงๆ เขียนไดอารี่สั่งเสียหน่อยดีกว่า
“สวัสดีสำหรับคนที่มาอ่านในหน้านี้ผมกำลังเขียนอยูาในรถที่เปิดไม่ออกผมว่าวันที่ท้องฟ้าสดใสผม เออผมชื่ออีริก ม็าก ผมทำงานให้กับบริษัท IRON เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์และตอนนี้ผมกำลังไปทำงานสายและผมกำลังประสบพบเจอกับอุบัติที่กำลังเสียชีวิต ถ้าผมไม่รอดฝากเอาไดอารี่นี้ไปให้พ่อกับแม่ฉันด้วยบอกกับพวกเขาว่าผมรักพวกท่านเสมอถึงแม้ว่าปีที่แล้วที่ฉลองงานปีใหม่กันผมไม่ได้ไปหาพวกท่านตั้งแต่นั้นก็ตามผมรักพวกท่านเสมอ ส่วนเจอน้องอย่างเจขอบให้ตั้งใจเรียนแล้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ล่ะอย่าทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ
พี่ขอโทษพี่เสีย ลาก่อน”
แล้วเขาก็ได้เอาไดอารี่ไปซ่อนในพื้นที่ที่จะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
“เสียงโทรศัพสายเข้าอีกครั้ง”
อีริกได้โยกตัวและเอือมมือขวาไปจับโทรศัพที่กโดยที่เขากำลังมองไฟที่กำลังลุกแรงขึ้นเลือยๆ
อีริก:ไงเอดว่าไงเพื่อน
เอด:ว่าไงบ้าอะไรล่ะอีริกนายอยู่ไหนเนียนายมีประชุมที่ต้องเขาน่ะรู้รึเปล่า
อีริก:ก็อยากไปอยู่หรอกแต่เกิดอุบัติเหตุว่ะ ฮ่าๆ
เอด:แล้วเป็นไงบ้าง
อีริก:เหอ….ตอนนี้ฉันออกจากรถไม่ได้แล้วไฟกำลังลุกถ่วนรถฉันอยู่
เอด:เห้ยรีบออกมาจากรถกระบะของนายเดียวนี้น่ะโว้ยเร็วๆเข้า ถุบกระจกแล้วออกมาส่ะเร็วลอย
อีริก:นายลืมไปแล้วหรอว่ากระจกที่นายพาฉันไปแต่งรถในตอนนั้นมันกำลังฆ่าฉันเนี้ย แล้วฉันพยายามแล้วบ้าเอยแต่งมานึกว่ามันจะช่วยฉันตอนเวลาเกิดอุบัติเหตุจะทำให้รอดแต่ไหนมันถึงกลับมาฆ่าฉันเองว่ะเนี้ย
เอด:ออกมาจากรถเวรนั้นส่ะเดียวนี้เลยออกมาได้แล้ว
อีริก:คงไปไม่ได้แล้วว่ะ….
เอด:เห้ย
ตู้ม
อิริก:อ็ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
.
.
.
.
.
อิริก:อ็ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
อิริกเขาเป็นคนวัยทำงานแท้ๆแต่เขาได้กลัวจนร้องลั่นจนกระทั้งเวลาได้ผ่านไปสักพัก เขาได้ลืมตามองดูตัวเขาเองว่าสำรวจร่างกาย แล้วเขาก็พบว่า
อิริก:ตัวเราไม่เป็นอะไรเลยนี้ว่า ทำไหมรอบตัวเรามันมืด มืดมากๆเลย มองอะไรไม่เห็นเลยนอกจากตัวเรา ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนตัวเรากำลังลอยอยู่เลย
อิริกเขาในตอนนี้กำลังเวียงตัวเองไปมาในพื้นที่อ้างว่างอันมืดมิด ทันใดนั้นในเสียวพริบตาเดียวพื้นที่รอบทั้งหมดในรอบตัวอิริกได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และแล้วตัวอีริกได้ร่วงลงมา
อิริก:เห้ย อะไรเนี้ย
ตุบ
อิริก:ไม่เจ็บเลย ทั้งๆที่พึงตกลงมานั้นเนีย
???:นี้เจ้าจิตรวิญญาณ
อิริกได้หันไปมองรอบๆเพื่อหาสิ่งที่ได้เรียกเขา
อิริก:เออ เห้ย!!! อะไรเนี้ย ( มันเป็นเหมือนก้อนกลมๆที่มันมีรังมีที่ไม่รัศวงกลมกว้างมากสักเท่าไหลเป็นเหมือนก้อนกลมๆเล็กที่มีสี ดำ และมีลักษณ์เหมือนระอองฝุ่นที่วนไปรอบตัวของมันเอง )
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:สวัสดีเจ้าจิตวิญญาณ เราคือส่วนหนึ่งจากแกนแท้เรา ตอนนี้กายเจ้าได้สูญสิ้นไปแล้วเหลือแต่เพียงของจิตรวิญญาณของตัวเจ้าเอง ในตอนนี้เจ้ากำลังอยู่ต่อหน้าข้าและข้าผู้ที่นี้มีหน้าที่เพียงนำจิตรวิญญาณของเจ้ามาอยู่ต่อหน้า คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ จะทำหน้าที่ตัดสินเจ้าเอง
อิริก:เออผมพูดไม่ออกเลย ผมกำลังตกใจจากที่ผมพึ่งตายมาเมื่อกี้ ขอผมทำใจแปปหนึ่ง
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ยิ่งเร็วยิ่งดีจิตน่ะวิญญาณ
.
.
.
.
.
อิริก:มาผมเตรียมใจแล้ว
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ดีงั้นข้าจะเริ่มอธิบายกระบวนการของจิตวิญญาณที่เจ้าจะต้องกระทำ เจ้าในตอนนี้เป็นเพียงแค่จิตรวิญญาณการที่เจ้าจะกลับไปมีชีวิตใหม่อีกเจ้าต้องผ่านการ ตอบรับจาก “คำบรรยัดแห่งแก่นแท้” เมือได้การตอบรับจากคำบรรณยัดแล้วมันจะนพาาจิตรวิญญาณของเจ้าไปยังสถานที่ ที่จิตรวิญญาณของเจ้าเหมาะสมกับที่นั้นๆ ถ้าเจ้าไม่ถูกตอบรับจากคำบรรณยัด คำบรรณยัดจะนำจิตรวิญญาณของเจ้าไปทำการย่อยสลาย
อยู่ดีๆ ก็มีแผ่นสลักหินขนาดใหญ่ขึ้นมาจากอยู่ด้านหลังเจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีสีดำ
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ไม่ต้องตกใจไปเจ้ามนุษย์ด้านหลังข้าตอนนี้คือ “คำบรรยัดแห่งแก่นแท้” จงจำไว้เจ้ามนุษย์ตราบใดที่เจ้ามีจิตรวิญญาณที่มีค่ามากพอกับเจ้าจะกลับมามีชึวิต อีกรอบ ในเรื่อง..
อิริก:แล้วผมสามารถกลับไปที่โลกเดิมได้ไหม
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:โดยทางจิตรวิญญาณของเจ้าได้มาสู่เส้นทางแห่งการวงเวียนของจิตรวิญญาณมันก็มีโอกาศที่เจ้าจะสามารถกลับไปในที่เจ้าจากมาได้ แต่เจ้าจะไม่ได้ที่รับลองจิตรวิญญาณอันเก่าของเจ้าคืนเจ้าจะต้องไปอยู่ในที่รับลองทางจิตรวิญญาณอันใหม่แทน แต่ก็มีโอกาศน้อยอยู่น่ะที่จะได้กลับไปโลกเดิมของเจ้า เอาล่ะมาต่อกัน ในเรื่องของข้อกรรมหนดของ คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ นั้นสิหน้าข้าก็ไม่รู้
อ้าว นี้คุณไม่รู้หรอ
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:นั้นสิน่ะ เอาเป็นว่าถ้าเจ้าได้สำผัส คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ ถ้ามันเปล่งประกายขึ้นมาเจ้าผ่าน ถ้าไม่เปล่งประกายจิตรวิญญาณของเจ้าก็จะเข้าสู้การย่อยสลาย เอาล่ะเจ้าพร้อมรึยังเจ้าจิตวิญญาณถ้าเจ้าพร้อมจงมาสัมผัส คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ ส่ะ
ในทันใดนั้นได้มีรังสีสีดำได้มารอมรอบตัวผมมันบังคับให้ผมไปจับก้อนหินบ้านั้น
อิริก:หยุดน่ะ ได้โปรดหยุด อยาบังคับฉันเลย เออๆยอมแล้วเดี่ยวจะไปจับเองเพราะฉะนั้น อย่าบังคับฉัน
อิริก:ในที่สิ้นสุดผมก็ได้ไปจับก้อนหินแห่งคำบรรยัดแห่งแก่นแท้ จนได้…….. มันได้เลื่องแสงสว่างออกมา มันต้องอย่างนี้อย่างน้อยๆ ก็ได้มีโอกกาศกลับไปใช้ชีวิต
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:อย่าพึงดีใจไปเจ้ามนุษย์ ถึงแม้เจ้าจะได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งแต่ก็ใช้ว่าจะมีโอกาศมากพอที่จะได้ไปในที่เจ้าออกมาได้ ข้าข้ออวยพรข้อให้เจ้าโชคดี
ทันใดนั้น แผ่นสลักคำบรรยัดแห่งแก่นแท้ได้แยกออกเป็นสองส่วนระหว่างตรงกลางได้เปิดออกแล้วได้ดูดจิตรวิญญาณของอิริกเขาไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments