บทที่ 2

วันถัดมาผมเริ่มตรวจสอบสกิลต่างๆของผม และเจอสกิลหนึ่งที่น่าจะใช้ประโยชน์ได้มาก สกิลนี้คือ สกิลอัญเชิญไร้ขีดจำกัด

สกิล : อัญเชิญไร้ขรดจำกัด

รายละเอียด : สกิลนี้สามารถอัญเชิญสิ่งใดก็ได้ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต และสามารถอัญเชิญสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงให้ออกมาได้

สกิลทำให้ผมมีความคิดที่จะเริ่มสร้างกองทัพจากต่างโลกผมพึ่งได้อัญเชิญสิ่งต่างๆมากมายออกมา

ตัวอย่างเช่น

นี้คือ squid dreadnought มันคือยานรบที่มีความคิดของตัวเองเป็นกึ่งสิ่งมีชีวิตและเครื่องจักร

นี้คือยานบัญชาการประจำตัวของผมที่ดป็นจักรพรรดิและเหล่า 5 lord มีชื่อว่า Emperor

kirov ใช้เป็นยานตรวจการ

Killer warship เป็นยานโจมตีหนัก

Super dreadnought เป็นยานทำลายล้าง สามารถยิงถล่มอาณาจักรหนึ่งให้หายได้ในพริบตา

ส่วนทางทะเล

เรือประจัญบานชั้น Tyrant ทรราชแห่งท้องทะเล

เรือบรรทุกอากาศยานเบาชั้น sea surpant

เรือบรรทุกอากาศยานชั้น Extinct จะใช้เป็นเรือธงในการรบทางทะเล และ การบุกยึดทางชายฝั่ง

เรือประจัญบานชั้น Supreme Lead เป็นเรือประจำตัวองค์จักรพรรดิ

เรือดำน้ำชั้น silence เป็นหน่วยสอดแนวและลอบโจมตีทางทะเล

ส่วนทางอากาศยาน

นี้คือเครื่องบินขับไล่รุ่น Soul

เครื่องสอดแนวและจู่โจมรุ่น Freak

ทางบก

หุ่นจู่โจมรุ่น Mark1

หุ่นทหารราบรุ่น Killer soldier

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้างต้นของกองทัพทั้งหมด และยังมีทหารราบที่เป็นเผ่าปิศาจอีกมากมาย ในตอนนี้กองทัพของผมมียานรบ เรือ เครื่องบิน จำนวนเกินแสนไปแล้วทีแรกกะจะเรียกมาน้อยๆแต่ภาพในหัวมันดันนึกไปถึง

ภาพลักษณ์แบบมาเป็นกองทัพซะได้เลยมีผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ ในตอนนี้กองทัพของผมนั้นจะบอกว่าแกร่งสุดในโลกนี้ก็ไม่มีใครคัดค้าน เผลอๆจะแกร่งเกินด้วยซ้ำ เพราะจากที่สำรวจมานั้นโลกใบนี้มีอารยธรรมพอๆกับยุคกลาง การรบก็ยังคงใช้ดาบเป็นหลัก แต่โลกนี้มีเวทมนต์เข้ามาเสริม และมีปืนใหญ่ที่ใช้ในการยิงเวทย์ให้รุนแรงกว่าปล่อยออกจากคนโดยมีความรุนแรงพอจะทำลายกองทหารขนาด10-20คนได้แต่ไม่สามารถยิงทะลุกำแพงหินหรือเหล็กที่หนามากได้ แต่บางคนที่เชี่ยวชาญเวทย์มาก ก็ยิงได้แรงกว่าปืนใหญ่เวทย์อีกโดยจอมเวทย์ที่เก่งที่สุดในโลกนี้สามารถยิงเวทย์ทำให้กำแพงเมืองเป็นรูได้แต่ในปัจจุบันจอมเวทย์คนนั้นเสียชีวิตไปเมื่อ500ปีก่อน ในปัจจุบันยังไม่มีใครที่สามารถยิงเวทย์มนต์ได้รุนแรงขนาดนั้นอีก โดยปกติแล้วคนในโลกนี้จะใช้เวทย์ได้ทุกคน โดยแต่ละคนจะมีธาตุที่ตนถนัด โดยเวทย์แบ่งออกเป็น 6 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลมไฟ แสง ความมืดคนส่วนมากจะถนัดธาตุเดียวแต่ก็มีบางคนใช้ได้มากกว่า 1 ธาตุ แต่ยังมีเวทย์ที่ไม่มีธาตุนั้นคือเวทย์ว่างเปล่า เวทย์ว่างเปล่ามักจะเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล เวทย์ว่างเปล่าคือการใช้พลังเวทย์โดยตรงโดยไม่แปรเป็นธาตุใดๆ แต่ก็มี เพียงส่วนน้อยของเหล่าจอมเวทย์ที่จะใช้ได้ เวทย์ว่างเปล่าขแงแต่ละคนจะต่างกันออกไป เช่น เวทย์อัญเชิญก็จัดเป็นเวทย์ว่างเปล่า เวทย์ตรวจสอบ เวทย์พันธะสัญญาก็เช่นกัน แต่พวกเวทย์เสริมพลังนั้นไม่ถูกจัดให้อยู่ในธาตุใดแต่ก็ไม่จัดให้อยู่ในเวทย์ว่างเปล่าเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้คือพื้นฐานเวทย์ของโลกนี้

หลังจากอัญเชิญพวกนั้นออกมา ก็เริ่มมีการจัดการพื้นที่เพื่อเอาพวกนั้นไปเก็บในเขตทหาร และจัดการกำลังพลต่างๆให้เข้าประจำการตามจึดที่กำหนดเพื่อเตรียมแผนบุกยึดอาณาจักรต่างๆในอนาคต ในโลกนี้มีอาณาจักรมากมายหลายร้อย แต่มีมหาอำนาจเด่นๆคือ จักรวรรดิพารูเดียส ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเขตปิศาจอีกฝั่งทวีป และนั้นคือเป้าหมายของผมที่จะบุกยึด

ในตอนเย็นวันนั้นผมก็ได้เคลียงานทั้งหมดเสร็จและเดินมาที่หน้าต่างดูทิวทัศน์ของเมืองหลวงแห่งนี้

เมืองนี้คือเมืองที่ผมเนรมิตขึ้นมาใหม่ด้วยสกิลของผม ผมมองออกไปแล้วพูดพึมพำ ฉันจะนำพาที่นี้สู่ความยิ่งใหญ่เอง

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***