ข้ามองออกไปในความมืดนอกหน้าต่าง แลดูวังเวงและเงียบเหงา แต่…มันไม่อาจกัดกร่อนซ่อนในหัวใจข้าได้ คืนนี้เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่ข้าต้องออกไป เพราะได้ข่าวจากนายกองเซียวว่า ในคืนนี้จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มโจร นายกองเซียวเอง สั่งเพิ่มเวรยามในการป้องกันให้หนาแน่นขึ้น ตามบ้านที่เป็นจุดเสี่ยง ต่างมีการคุ้มกันเฝ้าดูตลอดเวลา และตัวข้าเองจะออกไปช่วยอีกแรง
ข้ากระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศ กระโจนขึ้นบนหลังคาเยี่ยงนกที่โผบิน เห็นหลังคาบ้านอยู่ริบๆ…ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างทาง ข้าจะแวะตรวจดูซึ่งความเรียบร้อยของบ้านหลังนี้สักหน่อย มันก็เป็นหน้าที่ของข้าเช่นกัน ข้าค่อยๆแง้มเปิดแผ่นกระเบื้อง…แผ่นเดิมออกอย่างช้าๆ ร่างหนุ่มของชงเหลิงกำลังเปลือยกายว่างเปล่า ยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าจะอาบน้ำเป็นแน่ มันเป็นเหมือนภาพวาดของชายร่างงดงาม รันจวนชวนให้ข้าต้องมองอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว ชงเหลิงนอนแช่น้ำท่าทางสบายใจ มีการฮำเพลงนิดหน่อย เท่าที่ข้าได้ยิน หึๆ…ข้าวางแผ่นกระเบื้องกลับเข้าไปแบบเดิม แล้วลอยตัวผ่านอากาศที่ดำมืดสลัวจากมา
ข้าวนเวียนตรวจดูรอบๆพื้นที่ ที่อาจเป็นจุดเสี่ยงอย่างที่นายกองเซียวบอกข้าไว้ และตอนนี้ก็ใกล้เวลาจวนจะตีสามแล้ว ข้าไม่เห็นร่องรอยใดๆ ข้าวนกลับมาที่บ้านนายกองเซียว ที่กำลังคร่ำเคร่งกับการสั่งงานทหารตรวจตราอยู่ เมื่อสบโอกาสที่เค้าอยู่คนเดียว ข้าจึงลอบเข้าไป
นายกองเซี่ยว “คุณหนู…”
ชุนฮวา “คืนนี้แน่หรือ ท่านนายกอง”
นายกองเซี่ยว “ขอรับ ข้ามั่นใจว่าคืนนี้แน่ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน นี่คือปัญหาขอรับ”
ชุนฮวา “งั้นคืนนี้ ข้าจะตรวจตราจนถึงรุ่งสางแล้วกัน”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าทหารวิ่งดังเข้ามา ข้ารีบลี้พรางตัวขึ้นไปแอบอยู่บนหลังคาตามเดิม แล้วส่องดูเหตุการณ์จากทางด้านบน
ทหาร “แย่แล้วขอรับท่านนายกอง มันเข้าจู่โจมแล้วครับ ที่บ้านอดีตนายทหารที่อยู่ไม่ไกลจากจวนเจ้าเมืองครับ”
ใจข้าเดาได้ว่ามันคือที่ใด ใจข้ามันรีบเร่งไปก่อนแล้ว จนร่างกายทำตามหัวใจสั่งไม่ทัน ข้าหงุดหงิดที่ร่างกายข้า มันเชื่องช้าไม่ได้ดังที่ใจคิด…ชงเหลิง ข้ามาถึงจากด้านบนหลังคา เห็นทหารมากมายรุมล้อมพวกโจรนั้นไว้ในบ้านของชงเหลิง ข้าจำเป็นต้องดึงผ้าคลุมหน้าออก เพื่อให้ทหารแยกออกได้ว่าข้าเป็นใคร และกระโดดเข้าไปช่วยจับโจร มันมีประมาณยี่สิบคนได้ นายกองเซียวพาทหารควบม้ามาสมทบ เค้าได้ลงมือเข้ามาช่วยจับกุมด้วยตัวเองเช่นกัน มีหนึ่งคนที่กระโดด ทำท่าจะหลบหนีขึ้นมาทางหลังคา ข้าเข้าสกัดมัน จนหล่นลงไปกองกับพื้น ทหารมากมายที่รุมล้อมอยู่ด้านล่าง กดมันลงกับพื้นจนดิ้นหลุดไปไม่ได้อีก และจนในสุดท้าย ก็ได้เข้าควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดทุกคน ด้วยกำลังที่มากกว่า ข้าเห็นว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงรี่เข้าไปหาตัวชงเหลิงด้านในบ้าน เสียงร่ำร้องไห้ดังมากระทบหูข้าอย่างชัดเจน ข้าเดินตามเข้าไปดูโดยทันที ชงเหลิงนอนจมกองเลือด หายใจรวยริน สะลึมสะลืออยู่ แต่ยังไม่สิ้นลมหายใจ ข้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีก จนมองเห็นชงเหลิงได้อย่างชัดเจน ข้าเปิดเผยเรือนผมออกให้รู้ว่าข้าเป็นหญิง ทหารที่เห็นข้าต่างทำความเคารพ ครอบครัวชงเหลิงเอง เมื่อเห็นทหารเรียกข้าว่าคุณหนู ก็รู้ได้ทันทีว่าข้าเป็นใคร ทั้งสองท่านต่างก็ให้ความเคารพต่อข้า อย่างสุภาพ
ชุนฮวา “ส่งคนไปรับท่านหมอ…มาให้เร็วที่สุด”
ทหาร “ ขอรับคุณหนู”
ท่านแม่ของชงเหลิง “ขอบคุณ คุณหนูเจ้าค่ะ…ฮือๆ”
ท่านแม่ของเค้าร้องไห้ ปริ่มใจจะขาดน้ำตาแทบเป็นสายเลือด น่าเวทนายิ่งนัก ท่านพ่อของเค้าหน้าซีดไม่มีสีเลือด ดูกังวลกับอาการของชงเหลิงมากเหลือเกิน และเฝ้ามองดู ลูกชายคนเดียวอยู่ตลอดเวลา ข้าเดินเข้าไปข้างๆเตียง จ้องมองใบหน้าของชงเหลิง
ชุนฮวา “เป็นอย่างไร ท่านสหาย จิตรกรพเนจร…”
เค้ามีปฏิกิริยากับคำพูดข้า เค้าหันมามองข้าแล้วยิ้มอ่อนๆ
ชงเหลิง “ข้าขอคุยกับสหายสักครู่ ท่านพ่อท่านแม่”
ท่านพ่อของเค้าพยักหน้า แล้วดึงผ้ามาห่มกายเค้าไว้ แล้วทั้งสองคนก็ออกไปรอหมอที่ด้านนอกห้อง
ท่านพ่อของชงเหลิง “ข้าน้อยออกไปรอท่านหมอด้านนอกขอรับ”
ข้าพยักหน้าให้ เป็นท่าที ที่แสดงความเข้าใจของข้า ข้าหันกลับมามองชงเหลิง แล้วนั่งลงช้าๆ เป็นครั้งแรกที่ได้จ้องมองหน้าเค้า ได้นานเช่นนี้
ชงเหลิง “ท่านเองหรือที่ช่วยข้าไว้ คุณหนูชุนฮวา”
ข้ายิ้มพร้อมทั้งพยักหน้าให้เค้าเบาๆ
ชุนฮวา “รีบหายเถอะ ข้ามาเพราะมีเรื่องให้ท่านช่วย ตามที่ได้รับปากข้าเอาไว้”
ชงเหลิงทำท่าทางเหมือนอยากยิ้มออกมากว้างๆ ตามปกติวิสัยของเค้า แต่ด้วยไม่มีเรี่ยวแรง จึงได้เห็นแค่สีหน้าที่ยิ้มไหวเพียงมุมปากเท่านั้น
ชงเหลิง “ข้าเกรงว่าจะทำไม่ได้เสียแล้ว ข้าขอโทษ…ขอรับ”
ใบหน้าเค้าแสดงถึงความสิ้นหวัง เหมือนเตรียมใจรับมันเสียแล้ว ข้าเอามือไปกุมมือเค้าไว้เบาๆ แล้วค้างไว้แบบนั้น
ชุนฮวา “เจ้าต้องมีชีวิตต่อไป…ชงเหลิง”
เค้าส่ายหัวอย่างสิ้นแล้วซึ่งกำลังวังชา แล้วส่งสายตาที่ข้าเฝ้าแอบมองมาหลายวัน…กลับมาที่ข้า
ชงเหลิง “ข้ารู้ตัวแล้ว…ว่าคงไม่ไหว”
ชุนฮวา “อย่าพูดเช่นนั้น ทุกคนมีความหวังอยู่ รวมทั้ง…ข้าเองด้วย พยายามมีชีวิตอยู่เถอะ…ชงเหลิง”
ชงเหลิงยิ้มและพยายามถอนหายใจออกมา ทั้งๆที่แทบไม่มีเสียงให้ได้ยิน แปลเปลี่ยนสายตา ที่จับจ้องมองมาที่ข้าอย่างไม่กระพริบ เหมือนกับว่าไม่เคยพบ สบสายตากับสตรีผู้ใดมาก่อนเลย
ชงเหลิง “ท่านงดงามถึงเพียงนี้ ข้าคงไร้วาสนาแล้ว”
คำพูดนั้นของชงเหลิง บัดนี้…มันกัดกร่อนซ่อนในหัวใจข้าได้เสียแล้ว ข้าได้ยินเสียงหมอมาถึงด้านหน้าประตูพอดี ข้ารีบเดินไปเปิดประตูอย่างเร่งด่วน ด้วยรู้ถึงสถานการณ์ ให้รีบเข้ามาช่วยชีวิตคน ท่านพ่อท่านแม่ของชงเหลิงเข้ามาเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ท่านหมอตรวจดูอาการ และกำลังให้การรักษาอยู่อย่างร้อนใจด้วยเช่นกัน ข้ายืนไกลออกไป แต่ทว่าสายตาของเราสองคนยังมองสบกันอยู่ ชงเหลิงเค้ากำลังยิ้มด้วยสีหน้ามีความสุขที่สุด บนใบหน้าซีดเผือด อย่างที่ข้าไม่เคยได้เห็นมาก่อน ท่านหมอถอนหายใจยาวพร้อมทั้งส่ายหน้าเบาๆ มันทำให้ข้ารู้ถึงอาการบาดเจ็บของชงเหลิงได้ในทันที แม้ท่านหมอจะไม่พูดอะไรเลยก็ตาม ข้ายิ้มตอบกลับชงเหลิงไป และเค้าเองรับรู้ได้เช่นกัน เค้าผล็อยหลับตาพริ้มลง…
ข้ากลับบ้านด้วยการเดินมาเงียบๆในความมืดเพียงลำพัง พร้อมด้วยหยดน้ำตา มันหลั่งไหลบนใบหน้าที่เงียบสงบของข้า ชงเหลิง…เค้าออกเดินทางพเนจรไปเสียแล้ว…จิตรกรของข้า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 62
Comments
mama
อ่านเก็บคะแนน เม้นท์สะสมแต้ม...
2022-02-05
0