เบญจมาศสีชมพู

เบญจมาศสีชมพู

#1

เสียงจ็อกๆ จอกแจ็ก ดังมาจากธารน้ำ ที่ส่งแสงระยิบระยับ เพราะต้องแสงจันทร์ในคืนเดินเพ็ญ มันไหลเรื่อยเอื่อยๆมา ถึงจะมีเสียงดังมาจากการกระทบของผิวน้ำกับซอกหินบ้าง แต่มันกลับทำให้รู้สึกว่า…ช่างสงบยิ่งนัก

ข้าชุนฮวา…ข้านั่งเล่นอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ดวงโตแสงนวลผ่อง ที่ลอยอยู่ด้านบนเหนือหัว ต้นท้อต้นใหญ่ที่ออกดอกผลิบานสะพรั่ง ให้ข้าได้มีที่นั่งแอบอิงฟังเสียงน้ำไหล ใกล้ๆมือข้านั้น มีทั้งอาหารเครื่องดื่มพร้อมสรรพ ให้ข้าได้นั่งชมทิวทัศน์นี้อย่างสบายใจ

แซกๆ… เอ๊ะ!…นั่นเสียงฝีเท้าของใครกัน ข้าไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด แค่ข้ากำลังสงสัยเท่านั้นเอง ข้าพลันยืนขึ้น กวาดสายตามองหาที่มาของเสียงนั้น

ชุนฮวา “นั่นใคร ใครอยู่ตรงนั้น “

ไม่ได้มีคำตอบใดๆ หลุดรอดออกมาจากเงาดำสูงใหญ่ ที่พอจะมองเห็นได้ลางๆนั้น ร่างนั้นเดินเข้ามาหาข้าอย่างช้าๆ เหมือนไม่ได้มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด เป็นข้าเองที่ต้องถอยออกไปด้านหลัง …เสียทันที

ชายแปลกหน้า ท่าทางเป็นกังวล “ ข้าขออภัย ข้าเป็นขันทีรับใช้ขอรับ”

ที่แท้ก็ขันทีนั้นเอง มันทำให้ความสงสัยของข้าได้คลายลงแต่ไม่ทั้งหมด เพราะด้วยที่แห่งนี้ แม้แต่ขันทีเองก็ไม่อนุญาตให้เข้ามา

ชุนฮวา “ที่นี่…แม้แต่ขันที่ก็ห้ามเข้ามิใช่รึ”

ขันที ทำท่าเลิกลัก “ข้า…ข้า…แอบเข้ามาที่นี่เป็นประจำขอรับ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายที่ภายนอก ข้า…ข้ารู้ว่าห้ามเข้า แต่ที่นี่ไม่ค่อยมีใคร ข้าก็เลย…”

เป็นอย่างนี้นี่เอง ในวังแห่งนี้มีกฎระเบียบและวินัยที่เคร่งเครียด คงไม่แปลกที่จะเสาะหาสถานที่ปลีกวิเวก หลีกเลี่ยงจากผู้คนและกฎระเบียบพวกนั้น เช่นเดียวกันกับ…ข้า

ชุนฮวา “ข้าเข้าใจแล้ว แค่ครั้งนี้เท่านั้นที่ข้าจะปล่อยไป แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีก ข้าแจ้งองครักษ์วังแน่”

ขันทีทำท่าโล่งใจ “ขอบคุณ…ขอรับ”

ขันทีผู้นั้น ถอยหลังกลับไปในความมืด ทำที…ทำท่าทางจะออกไป ดูแล้วก็ช่างน่าสงสาร ข้าเองต่างหากมั้งที่มารบกวนเค้า เค้าคงจะอยู่ในวังมานานแล้ว แต่ตัวของข้าเพิ่งมาได้ไม่กี่วัน

ชุนฮวา “ไหนไหนเจ้าก็มาแล้ว มานั่งชมจันทร์เป็นเพื่อนข้าสิ”

ขันทีผู้นั้นทำท่ารีรอ เหมือนกำลังครุ่นคิดตัดสินใจอยู่ แต่สุดท้ายเค้าก็ยอมก้าวเท้าเดินเข้ามา

ขันทีท่าทางลังเล “ข้านั่งได้จริงหรือขอรับ”

ฉันเอียงหน้าไปมองที่เค้า และพยักหน้าให้เป็นการให้อนุญาต เค้าจึงค่อยๆนั่งลงอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่กำลังจ้องมองข้าอยู่ตลอดเวลา ข้าเอื้อมมือไปหยิบเครื่องดื่ม เทใส่แก้วเล็กๆแล้ววางตรงหน้าเค้า พร้อมทั้ง…ใสจานขนมไปใกล้ๆด้วย

ขันทีท่าทางดีใจ “ขอบคุณขอรับ”

ฉันนั่งเงียบๆ มองสายน้ำมองจันทร์ไปตามประสา โดยไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรมากมาย ปล่อยให้ใจล่องลอยไปเรื่อยๆ

ขันที “ท่านหญิงเพิ่งจะเข้ามาในวังหรือขอรับ ข้าไม่คุ้นหน้าท่านเลย”

ชุนฮวา “ข้ามาเข้าร่วมการคัดเลือกนางสนม”

ขันที “อ๊ะ…คืนนี้มีงานเลี้ยงนี่ขอรับ ทำไมท่านหญิงไม่ไปเข้าร่วมขอรับ”

ขันทีผู้นี้สะดุ้งด้วยความแปลกใจขึ้นมาเล็กๆ ที่ฉันไม่ได้ให้ความสนใจ กับงานเลี้ยงต้อนรับหญิงงาม ที่เข้ามาคัดตัวสักเท่าไร หึ…งานวันนี้…ถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวหญิงทุกนาง อย่างเป็นทางการต่อหน้าฮ่องเต้และบรรดาอ๋องทั้งหลาย ไม่แน่หากแม้นว่า ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นจักรพรรดินีในครั้งนี้ ก็อาจจะได้มีสิทธิ์เป็นชายาท่านอ๋อง ท่านใดท่านหนึ่งก็ได้ หากเกิดต้องตาต้องใจกันขึ้นมา

ชุนฮวา “ข้าไม่สนใจ ข้าแค่อยากให้มันจบ และกลับบ้านเท่านั้น”

ขันทีคนนั้นทำหน้าเบ้ จนดวงตากับคิ้วย่นเข้าไปเกือบชนกัน ท่าทางของอาการแปลกใจเป็นแน่แท้

ขันที “ท่านหญิง ไม่ได้สนใจตำแหน่งจักรพรรดินีหรือขอรับ”

ชุนฮวา “ ใยข้าต้องสนใจ”

ข้าทำหน้านิ่งจริงจัง จ้องตาเขม็งแบบไม่กระพริบ ส่งสายตาจ้องมองไปที่ดวงตาของเค้า ต้องการฟังสิ่งที่เค้ากำลังคิดอยู่ในใจ

ขันที “ปกติท่านหญิงทุกท่านก็เป็นเช่นนั้น”

ชุนฮวา “ 555…แต่คงไม่ใช่ข้า ข้าเพียงอยากกลับบ้าน ข้า…อยากร่อนเร่พเนจร เป็นจิตรกรที่เดินทางวาดรูปไปในที่ต่างๆเท่านั้น”

ขันทีผู้นี้ แสดงท่าทางตกใจออกมาทางร่างกายจนเห็นได้ชัด ว่าเค้าไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดเยี่ยงนี้ของข้าเลย

ขันที “แต่ท่านเป็นผู้หญิงจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน สักวันท่านจะต้องแต่งงานขอรับ”

ชุนฮวา “ใครกำหนดไว้รึ”

ฉันถามพร้อมทั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองเค้าให้ลึกเข้าไปอีกในดวงตา เพื่อเค้นให้เค้าตอบคำถามข้าในสิ่งนี้ออกมา และเค้าคนนี้ กลับตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เหมือนโดนปลูกฝั่งมาในสิ่งที่เค้าตอบเช่นกัน

ขันที “ตามจารีตประเพณีแล้ว ต้องเป็นเช่นนั้นขอรับ”

ชุนฮวา “555…ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเป็นหญิงนอกรีตแล้วกัน…555”

เค้าถึงกับหลุดเสียงแปลกๆออกมาจากปาก ด้วยความตกใจ ยืนยันทางสายตากลับมาว่า ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ข้าพูดเป็นอย่างยิ่ง ขันทีผู้นี้ก็ไม่เลวเลย ทำให้ข้าหัวเราะได้ ทั้งที่อยู่ในวังแห่งนี้ ถือว่าคุ้มที่ให้เค้ามานั่งเป็นเพื่อนคุย เอาหละ…ถึงเวลาที่ฉันเองคงต้องกลับสักที นางกำนัลของข้า คงวิ่งเตลิดตามหาข้ากันวุ่นแล้วตอนนี้

ชุนฮวา “ข้าคงต้องกลับแล้ว หากเจ้าจะอยู่ต่อก็ตามสบาย ขนมและเครื่องดื่มข้ายกให้เจ้า ข้าขอตัวก่อน”

ขันที “ท่านหญิง ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไรขอรับ เผื่อวันหลังได้เจอ ข้าจะได้ตอบแทนที่ท่าน ช่วยปกปิดเรื่องในวันนี้”

ชุนฮวา “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้หวังอะไรจากเจ้า หากมีวาสนาคงได้เจอกันใหม่ ข้าขอตัว”

เมื่อชุนฮวาคล้อยหลังไป ขันทีผู้มีรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมคาย เนื้อตัวผิวพรรณ สะอาดสะอ้านหมดจน มองตามชุนฮวาด้วยอาการตาลอย ใบหน้าแดงก่ำร้อนผ่าว เค้าค่อยๆเอามือทาบที่หน้าอกตัวเอง ฝ่ามือที่หนาใหญ่นิ้วเรียวยาว รู้สึกสึกถึงการเต้นของหัวใจ ตุบๆตุบๆตุบๆ มันก็ทำให้เค้ารู้สึกได้ทันที ด้วยหัวใจที่โครมครามอยู่จากการได้สนทนาเมื่อครู่…เค้าชอบนาง

ขันที “หลีอิง…”

ทันใดนั้นร่างกายสูงใหญ่กำยำ แต่ทว่าแฝงไว้ด้วยความเร็วว่องไว องครักษ์ส่วนตัวที่คอยเฝ้าแอบตามเค้าอยู่ตลอด ปรากฏตัวขึ้น นั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่ทางด้านหลังของเค้า

ขันที “ ไปสืบมาว่านางเป็นใคร”

หลีอิง “พะยะค่ะ…ฝ่าบาท”

ฮอต

Comments

คำ อ่อง

คำ อ่อง

.

2022-02-26

1

ต้นน้ำ ต้นน้ำ

ต้นน้ำ ต้นน้ำ

ดี

2022-02-26

0

mama

mama

มาให้ไว

2022-02-05

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!