ปีศาจแห่งความเศร้า.

ปีศาจแห่งความเศร้า.

ตอนที่1จุดเริ่มต้น

ตอนที่1จุดเริ่มต้น

เริ่มมาที่ ชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขาชื่อฉินหยาง มีอายุ 16 ปี เขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายคนนึง

ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากปกติ หลังจากเจอชายแก่ผู้หนึ่ง ซึ่งได้แตะไปที่หัวของเขา แล้วโลกทั้งใบได้เปลี่ยนไป กลายเป็นโลกแห่งการฝึกวรยุทธ์  ผ่านไป 3 ปี ฉินหยาง ได้มีอายุ 19 ปี แล้วได้จบจากโรงเรียน และเขาก็ได้ไปฝึกวรยุทธ์ได้อย่างเต็มที่ เขาฝึกไปนานแต่ยังไม่ก้าวหน้าขึ้นเลย ผู้อื่นได้ดูถูกว่าเขาเป็นขยะ และแล้วเขาก็ได้ไป เจอวรยุทธ์ของปีศาจเข้าให้!! ที่หุบเขา

เซียงเทียน ที่ตั้งอยู่ไกลผู้คนมาก จึงไม่มีใครรู้ เมื่อเป็นอย่างนั้น เขาได้ฝึกวิชาก้าวหน้า

มากแต่ยังไม่ผ่านขั้นหยวนและเขาได้สลบไปเนื่องจากอาการโดนแตะหัวเมื่อครั้งนั้น

                          ขัั้นที่1หยวน

                        ขั้นที่2หยิน

                        ขั้นที่3หยาง

                        ขั้นที่4แม่ทัพ

                        ขั้นที่5จักรพรรดิ

                        ขั้นที่6ปรินิพพาน

                      ขั้นที่7ยมราช

                      ขั้นที่8พระเจ้า

                      ขั้นที่9ศดินาร

                    ขั้นที่10กสดาการ

                      ขั้นที่11ขอบเขตแห่งความว่างเปล่า      

                               

…ฉินหยางเขาได้ตื่นมาเขาก็ได้สังเกตุเห็นว่าที่แห่งนี้ไม่คุ้นตาเลยและเขาสดุ้งตื่นขึ้นมาอย่าง

ข้าจะอธิบายให้ฟังข้าคือเจ้าสำนักเมฆาล่องนภา ข้านั้นได้ก่อนตั้งสำนักนี้ด้วยเป้าหมายที่ว่าข้านั้นอยากให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งได้มีทที่่อยู่อาศัยจึงสร้างมาและแล้วเป้าหมายข้าก็สำเร็จจึงได้รับเด็กที่ถูกทอดทิ้งและไม่มีที่ไปจากที่ต่างๆมากมายและจากเป็นที่สำนักเล็กๆก็ได้ขยับขยายเป็นสำนักใหญ่และมันก็เป็นอย่างนี้มาเป็นเวลา 90 ปีได้แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อศิษย์ข้าได้พั้งมือฆ่าศิษย์สำนักใหญ่เข้าจึงทำให้สำนักข้าจึงถูกกวาดล้างตอนนั้นข้าไปตามหาเด็กที่ถูกทอดทิ้งข้าจึงไม่ได้อยู่สำนักในเวลานั้นทำให้กว่าข้าจะกลับมาสำนักข้าก็ถูกทำลายจนย่อยยับนะตอนข้า

เกลียดมากข้าจึงไปทำลายสำนักนั้นจึงทำให้ ข้าถูกสาขาหลักไล่ล่าจนข้าหนีไปที่แห่งนั้นที่ๆเต็มมไปด้วยสิ่งของแปลกมามายจนเข้าใช้ชีวิตนะที่แห่งนั้นมาล่วง 20 ปี แล่วและข้าก็ข้านึกขึ้นได้ว่าข้าไม่มีผู้สืบทอดวิชาเลยข้าจึงได้ตามหาผู้สืบทอดจนเจอเจ้าคนที่ดูโง่ๆหรือดูเซ่อดีล่ะตอนแรกข้าไม่สนใจเจ้าหรอกแต่แล้วข้าก็สัมมผัสได้ว่าเจ้าคือผู้ที่เหมาะสมข้าจึงจะถ่ายทอดวิชาให้เจ้า

ปูกรากฐานให้เจ้าแล้วเจ้าก็ไม่ทำให้ข้าผิดหวังเมื่อเจ้าได้สืบทอดวิชาให้เจ้าแทนที่เจ้าควรบรรลุแค่ขั้นหยวนแต่เจ้ากับบรรลุถึงขั้นหยินนั้นทำให้ข้าแปลกใจมากแต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือรากฐานของเจ้ามั่นคงมากยังกับเจ้าบรรลุขั้นนั้นๆเป็นเวลาสิบๆปีและข้าจึงส่งไปยุทธภพเพื่อให้เจ้าฝึกฝนฝีมือปลและข้าเตรียมวิชาให้แล้วและข้าเตรียมวิชาให้แล้วและอย่างสุดท้ายก่อนที่ข้าจะจากไปอย่างสงบข้าอยากให้เจ้าสารต่อเจตนารมณ์ที่จะตั้งสำนักและช่วยเหลือเด็กๆที่ถูกทอดทิ้งและเมื่อฉินหยางอ่านเสร็จเข้าได้ออกเดินทางไปตามทางที่มีในจดหมายนั้นพร้อมถือไปที่สำนักเมฆาล่อนภาเดินไปจนเจอมันตั้งอยู่บนหุบเขาไร้เขตเขาได้ขึ้นไปแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่เลยเขาเลยตั้งตนให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป เขาได้ซ่อมแซมใหม่ทั้งหมดจากที่เคยโดนพังทลายอย่างย่อยยับได้ฟื้นฟูมาเหมือนเดิมที่นี่หลังอัดแน่นมากเขาจึงรีบฝึกวรยุทธ์ของเขาและพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นเป็นขั้นหยินก็เพราะว่าการฝึกพลังปีศาจของเขาที่เจอในหุบเขาเซียงเทียนเขาก็ได้นั่งสมาธิเพื่อดูดซับเอาพลังที่อยู่แถวนั้นเพื่อเพิ่มพลังเมื่อผ่านไป1ชั่วโมงหลังจากนั้นได้ข้ามขั้นหยินขึ้นสู่ขั้นหยางเขาได้รับรู้พลังที่เพิ่มขึ้นมากมาย เจ้าเป็นใคร ( สำนักคู่แค้นจะมายึดสำนักนี้ )ฉินหยางได้ถามว่ามาที่นี่ทำไม?พวกนั้นได้บอกว่ามายึดที่นี่ ฉินหยางยังไม่ยอมได้พลั้งมือฆ่าไปทั้งหมด

ฉินหยางได้คุ้มคิดว่าได้ทำอะไรลงไปเขาได้กลัวว่าอดีตสำนักจะซํ้ารอยกับรอบที่แล้วเขาจึงรีบฝึกให้พลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เขาดันเหลือบตาไปเห็นหินวิญญาณเข้าให้ แล้วเขาเผลอกำจนมันแตกแต่ทันใดนั้นพลังเขาได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะหินวิญญาณยังเป็นระดับตํ่าอยู่นั่นเอง

ฉินหยาง เมื่อรู้ดังนั้นแล้วได้ไปค้นหาหินวิญญาณตามที่ต่างๆแล้วเขาได้บีบให้แตกจนเขาบรรลุขั้นหยาง

ไปสู่ขั้นแม่ทัพ เขาในคิดใจว่าแค่นี้ก็สู้ได้แล้วสินะ แล้วพวกนั้นได้มาล้างแค้นจริงๆ เขาได้ต่อสู้อย่างเอาจริง จึงได้ถอดเสื้อออก เขาสู้ไปสู้มาได้อย่างสูสี ฝั่งนั้นมี20คนสู้กับฉินหยาง1คนได้สูสีดุเดือดมาก และในที่สุดฉินหยางได้ชนะอย่างสบัดสบอมบาดแผลเต็มตัว เขาต้องใช้เวลายาวนานเป็นสัปดาห์เลยล่ะ เขาได้ซ่อนตัวรักษาตัวพร้อมกับฝึกวรยุทธ์ด้วยไปในตัว เมื่อผ่านไป1สัปดาห์เขาได้หายดีแล้ว เขาได้ออกตามหาเด็กที่ถูกทอดทิ้งมาเป็นศิษย์ที่สำนักเมฆาล่องนภาแห่งนี้เขาได้ออกไปไม่นานก็ได้เจอเด็กที่ถูกทอดทิ้งมากมายประมาณ 20-30 คนได้  แต่เด็กพวกนั้นไม่มีใครเชื่อเลย แล้วก็โดนเด็กๆล้อไปจนฉินหยางทนไม่ไหวเขาเลยได้เดินกลับไปอย่างเศร้าเหงาหงอย เขาได้มาอยู่ที่่สำนักเมฆาล่องนภาผู้เดียว

อย่างที่เคยเป็นอยู่อย่างนั้นมาเรื่อยๆจนเด็กพวกนั้นได้มาขอร้องให้ได้เข้าร่วมสำนักเมฆาล่องนภาแห่งนึ้

เพราะพวกเด็๋กๆไม่มีที่อยู่อาศัยเลยมาขออยู่กับฉินหยาง เมื่อเห็นฉะนั้นฉินหยางได้รับเด็กทั้งหลายมาฝึกที่สำนักเขาได้พาเด็กๆมาที่ลานฝึกซ้อม แล้วฉินหยางได้ให้จัดแถวเป็นหน้ากระดาน แล้วทำท่าทางตามฉินหยาง พอฝึกไปทุกวันเด็กๆเริ่มคุ้นชินและชำนาญแล้วฉินหยางเลยให้วรยุทธ์ตามที่เด็กชำนาญที่สุด เด็กๆตื่นเต้นมากที่จะได้ฝึกวรยุทธ์ต่างเช่น กระบี่ ดาบ หมัด ฝ่ามือ วรยุทธ์สุดยอดของแต่ล่ะอย่างมีชื่อดังนี้ กระบี่\=คมเขี้ยวของเพชฆาต ดาบ\=ดาบยักษ์ผ่าขุนเขา หมัด\=หมัด9อัศดร

ฝ่ามือ\=ฝ่ามือแปกทิศ วิชาพวกนี้มีแค่ผู้ที่ก้าวเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิขึ้นไปถึงฝึกได้และฉินหยางยังฝึกไม่ได้เพราะยังอยู่ขั้นแม่ทัพ เด็กผู้หนี่ง ได้บรรลุขั้นหยวนก็เพื่อนๆรุ่นเดียวกัน ฉินหยางได้ตกใจถึงความเร็วนั้นแต่ยังเร็วไม่สู้ฉินหยาง ที่ไวมากๆเขาจึงได้ให้เด็กที่บรรลุขั้นหยวนมาฝึกกับเขาตัวต่อตัวเพื่อให้การฝึกได้ดียิ่งขึ้นเพื่อความสะดวกจึงให้มาฝึกในห้องของฉินหยางเขาได้เฝ้ามองเด็กคนนั้นอย่างมีความหวังเพราะนี่ควรจะเป็นผู้สืบทอดของข้าฉินหยางได้กล่าวในใจ

ผ่านไปไม่นานเด็กคนนั้นได้ลืมตาขึ้นหลังจากนั่งสมาธิเพื่อรวบรวมพลังให้เข้ามาที่ตัวเด็กคนนั้น ซึ่งเขาเกือบบรรลุขั้นหยวนด้วยช่างมีพรสวรรค์เสียจริงฉินหยางได้กล่าว เมื่อเด็กคนนั้นได้ยินเช่นนั้นก็ดีอกดีใจใหญ่เลย เพราะไม่เคยมีคนชมเขาแบบนี้มาก่อน ฉินหยางเป็นคนแรกที่ชมเขา และฉินหยางได้เดินมาที่ระเบียงแล้วเรียกรวมตัวด้านล่างระเบียงของฉินหยาง แล้วได้ให้กำลังใจเด็กๆว่า พวกเจ้าล้วนมีพรสวรรค์ที่พระเจ้าสร้างให้แต่อยู่ที่จะนำมาใช้แบบไหนเด็กๆต่างดีใจเมื่อได้ยินคำพวกนั้นพวกเด็กๆจึงรีบฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ตนเองได้ไปอยู่จุดสูงสุดเหมือนอาจารย์ฉินหยาง(ตอนนี้เป็นเวลาผ่านมา3ปีแล้วฉินหยางได้ไปถึงขั้นกสดาการแล้ว)เด็กๆส่วนใหญ่จะอยู่ขั้นจักพรรดิแต่เด็กที่ฉินหยางได้ให้เป็นผู้สืบทอดอยู่ขั้นพระเจ้า

ฉินหยางก็ได้ครองบรรลังต่อไป แล้ว ได้มีการฝึกซ้อมครั้งใหม่ที่ฝึกยากขึ้นนิดหน่อย และพลังเพิ่มมากขึ้นด้วย การฝึกนี้หนักหนามาก ทั้งวิดพื้น300ที วิ่ง20กิโลเมตร ทำอย่างนั้น เช้า กลางวัน เย็น รวมเป็น3เซ็ต ทั้งหมดต่อวันคือ 900ที 60กิโลเมตร ต่อวัน ทำอย่างนั้นเรื่อยๆเป็นชีวิตประจำวันของผู้ที่ฝึกซ้อมที่่นี่มา นับราวๆอีก2ปีคนที่อยู่ที่นี่ต่างอยู่ขั้นยมราชและเด็กที่เป็นผู้สืบทอดของฉินหยางมีนามว่า หยินเซอ

หยินเซอ ได้มีพลังขั้นศดินาร และฉินหยางก้าวเข้าเข้าสู่ขอบเขตแห่งความว่างเปล่า

หยินเซอได้ถามฉินหยางว่า ข้าจะไปได้สูงสุดขั้นใดรึ ฉินหยางได้ตอบว่าเจ้าอย่างน้อยก็ขั้นกสดาการ หรือขั้นที่ข้าอยู่นั่นก็คือ ขั้น ขอบเขตแห่งความว่างเปล่า ส่วนผู้อื่นจะทำได้แค่ขั้น กสดาการ เท่านั้น แต่ฉะนั้นเจ้าห้ามดูถูกผู้อื่นด้วยเหตุใดก็ตามเจ้าห้ามดูถูกผู้อื่นอย่างเด็ดขาด หยินเซอได้ตอบว่า ได้ครับ! ฉินหยางได้ไปเช็คดูว่าการฝึกเป็นเยี่ยงไรบ้าง พอเขาได้ไปดูการฝึกเป็นไปได้ด้วยดี และเขาได้ดูว่ามีใครอู้การฝึกหรือไม่ ปรากฎว่าไม่มีสักคนเพราะว่าเป็นการคุ้นชินของศิษย์ของสำนักเมฆาล่องนภาแห่งนี้ได้ขยายเป็นสำนักที่ดีอันดับ2เนื่องจากไม่เปิดรับศิษย์เพิ่ม ฉนั้นขอให้คนที่อยู่ก่อนได้ฝึกได้เก่งก่อนเผื่อคนที่เข้ามาใหม่มีพรสวรรค์มากพลังเพิ่มไวเกินแล้วมาแย่งตำแหน่งต้องปั้นคนที่ไว้ใใจได้ก่อนเพื่อปกป้องเราและผู้สืบทอดเราเรื่อยๆขอให้เป็นเยี่ยงนี้ต่อไป แต่หากใครหลงละเลืองในอำนาจข้าจะทิ้งพลังนิดหน่อยให้พอพูดคุยกันได้ ถ้ายังไม่เชื่อฟังคนผู้นั้นจะต้องตายสถานเดียว เพราะเจตนารมมณ์ของผู้ก่อตั้งให้เอาเด็กที่ถูกทอดทิ้งทั้งหลายมารวมกันในสำนักนี้

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!