เนื่องจากากการเหตุการณ์ที่หมู่บ้านครั้งนั้น ทางการ ก็ส่งคนมาตรวจสอบ การที่หมู่บ้านโดยรอบโดน แต่เหลือแค่หมู่บ้านเดียวมันน่าสงสัยผมจึงเลือกกวาดล้างครั้งนั้นและเลิกทำไปก่อน ผมปล้นพวกนั้นและเก็บไว้ใน bagpack System ที่ได้มาตั้งแต่เข้าเกมมาตอนอัพเดตระบบพอดี
[ท่านสังหารคนหมู่บ้านทั้งหมด 167 คน เลเวลกลายเป็น 52]
'มีทุนแล้วแหะ'
ผมมีทุนแล้วจึงทำธุรกิจต่าง ๆ ของตัวเองขึ้นมา เพราะอนาคตต้องแต่งงานกับองค์หญิงเพื่อให้ราชายอมรับ เราจำเป็นต้องมีฐานะเพื่อให้ราชานั้นยอมรับเราได้
ผมเริ่มธุรกิจเครื่องปรุงด้วยเกลือ และไล่ไปเรื่อย ๆ จนเติบโตและแพร่ขยายธุรกิจและสาขา แต่สถานที่ผลิตนั้นเป็นความลับ มีแค่น้องสาวของผมเลวี่ แม่ของเธอ เกลือถือว่าเป็นของที่ชนชั้นสูงค่อนข้างชอบกันเลยทีเดียว
ถ้าแค่ในเมืองหลวงพอให้ท่านแม่ และน้องสาวช่วยได้บ้าง แต่ถ้าขยายกว่านั้นคงต้องหาคนเพิ่ม แต่ผลิตน้อย ๆ แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะนะ ยิ่งมีมากมูลค่าของมันก็ยิ่งลด แล้วเป้าหมายของเราก็แค่ครอบคลุมเมืองหลวงก็พอแล้ว
ผมใช้เวลา 4 ปีในการทำธุรกิจเพื่อครอบคลุมเมืองหลวงและมีตัวตนในฐานะ เจ้าของเกลือขึ้นมา เงินที่ได้ก็ให้ครอบครัวนี้นั่นแหละ ยังไงผมก็เป็นพี่ชายเธออยู่ ปัจจุบันผมนั้น อายุ 13 ปี น้องผม 12 ปี ถึงเวลาที่ต้องย้ายไปเมืองหลวงแล้ว
"ท่านแม่ ถึงเวลาแล้วที่ต้องไปเมืองหลวงแล้วรึปล่าว อายุของน้องก็ถึงวัยที่ควรได้เรียนแล้ว"
"นั่นสินะ งั้นก็เริ่มเก็บของกันเถอะ เราจะออกเดินทางกันพรุ่งนี้เช้า"
แล้วผมก็เดินทางไปกับน้องและแม่ตรงไปที่เมืองหลวง ระหว่างทางนั้นผมได้เจอโจรที่ดักรออยู่ตอนพักจึงปล้นโจรและมัดและห้อยป้ายไว้ว่าผมเป็นโจรเผื่อทหารรักษาการจะมาเห็น และเดินทางตรงสู่เมืองหลวง เมื่อถึงป้ายทางเข้าตรงกำแพงของเมืองหลวง เขาจึงขอบัตรผ่านและผมก็ยื่นให้
แม่เอ่ยถาม
"เธอมีบัตรผ่านได้ยังไง คิดว่าเรื่องมันจะยุ่งกว่านี้ซะอีก"
"ก็ใช้เส้นสายนิดหน่อย ก็ผมเป็นพี่นี่นาเรื่องแค่นี้ต้องทำได้อยู่แล้ว"
เธอเงียบและไม่พูดอะไรต่อเพราะยังไงที่ผมฆ่าสามีเธอไปก็ยังไม่เปลี่ยน
และพวกเราก็มาถึงเมืองหลวงเอลทิน เมืองที่เจริญเป็นอย่างมากจึงทำให้ราชวงศ์สนใจและในที่สุดก็ได้สถาปนาให้เป็นเมืองหลวงหลัก
แม่เธอบอกว่าจะไปหาห้อง
"ไม่ต้องหรอกครับผมซื้อคฤหาสน์ไว้แล้ว"
"เธอไปซื้อมาตอนไหน!!.
"ก็ใช้เส้นสายมาซื้อให้น่ะครับ เงินที่ได้จากการทำธุรกิจที่เราเคยทำกันไง แบ่งไว้มาซื้อเนี่ยแหละ"
พวกเราเดินทางไปยังคฤหาสน์ที่ซื้อไว้และเริ่มย้ายของเข้ามาที่นี่
ทางเดินยาวสุดลูกหูลูกตา เครื่องประดับเฟอนิเจอร์ที่ดูเปร่งกระกาย ภาพวาดเวลเทอร์ ที่ชื่อว่า เลือดที่ล้างด้วยเลือด ที่มีภาพเดียวในโลกที่ว่าเป็นภาพต้องสาป ที่ใครครอบครองคนนั้นจะตาย
"กังวลเรื่องภาพวาดงั้นหรอครับ"
เธอพยักหน้า
"ไม่ต้องห่วงหรอกภาพนี้ผมได้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ยังไม่เป็นอะไรเลย"
"อ่าใช่ แล้วก็ผมเรียนที่โรงเรียนอัศวินนะครับ จะให้เลวี่เข้าโรงเรียนไหนดีล่ะ"
"ตอนนี้ผมเป็นขุนนางของอาณาจักรนี้นะครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนรังแกหรอก หรือถ้ามีก็ให้มาบอกผมได้เลย"
เธอทำท่าอึ้งนิดหน่อยและ เก็บของเลือกห้อง
"พี่ชาย ห้องหนูอยู่ที่ไหนหรอ?"
"เลือกได้เลยเลวี่ ได้ทุกห้องนั่นแหละ เดี๋ยวถ้าเคลียร์ห้องวันนี้เสร็จแล้ว พรุ่งนี้เราไป ซื้อของกันดีกว่า แล้วน้องอยากเรียนโรงเรียนไหนล่ะช่วบบอกหน่อยได้รึป่าว"
"หนูเลือกโรงเรียนเดียวกับพี่"
"คิดดีแล้วหรอ"
"ค่ะ ท่านพี่ หนูชอบท่านพี่ที่สุดเลย เลยอยากอยู่ด้วยกันกับท่านพี่"
ผมรู้สึกดีนะที่เธอพูดแบบนี้ แต่ก็มีเวลาไม่มากกว่าจะอายุ 18 ที่ผมไม่ล็อคเอาท์ออกไปไหนเพราะผมเข้ามาทั้งร่างกายไม่ใช่แค่วิญญาณเวลาหิวจึงกินจากที่นี่ได้เลย ก็ถือว่าดีเลยล่ะ
พอเช้ามาผมก็พาน้องและแม่ไปช็อปเหมือนที่พูดไว้ ซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์ทำอาหาร และของกินเล่น เนื้อ เอาไว้ทำอาหาร
และกลับคฤหาสน์ อีก 5 วันจะเริ่มเรียนที่โรงเรียนอัศวิน
[ท่านก็มีฝีมือดาบจากที่ท่านฝึกอยู่แล้วนี่คะ มันจะเทียบเท่าอริยดาบอยู่แล้ว ทำไมต้องไปเรียนที่นั่นด้วยล่ะคะ]
'ต้องมีตำแหน่งเพื่อเข้าใกล้ตัวลูกสาวของราชา ถ้าเป็นทั้งอัศวินและเจ้าของผลผลิตที่เคยผลิตและเลิกผลิตไปแล้วที่คนพลิกแผ่นดินหา เจ้านั่นต้องยอมรับแน่ ๆ'
[เข้าใจแล้วค่ะ]
ผมซื้อดาบไม้สำหรับฝึก ไว้สองอันไว้สำหรับฝึกน้องผม
"ถ้ากลับไปถึงคฤหาสน์พี่จะสอนดาบให้นะ เตรียมตัวไว้สำหรับเรียนน่ะ"
"ค่ะ"
ผมกลับมากินอาหารและเริ่มฝึกดาบให้เลวี่
"ดาบ คือ อาวุธอย่างนึงที่ใช้ในการต่อสู้ ลอบสังหาร ป้องกัน และปกป้องคนสำคัญ ถ้าต้องการสังหารดาบจะตอบรับความปราถนาของเธอด้วยเลือด ถ้าถวิลหาการปกป้อง ดาบจะมีความคงทนเป็นอนันต์และลับคมรอเธอสำหรับการปกป้อง มันก็แค่คำเปรียบเทียบ"
"เมื่อเธอฝึกจนถึงขั้นที่ดาบเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเธอเอง จิตของเธอ ร่างกาย จะสามารถใช้ฟันศัตรูได้ เป็นเหมือนดาบทุกประการ สิ่งนี้เรียกว่า ขั้น จอมดาบ มันเป็นอีกขั้นของนักดาบ"
และแล้วเธอก็เริ่มฝึกตามคำแนะนำของผมตั้งแต่ต้นจนจบ
พอตกดึกผมมานั่งอยู่ที่โต๊ะที่ห้องนั่งเล่น ผมคิดถึงสิ่งที่สอนเธอในวันนี้ และเผลอพูดออกมาจากความคิด
"ถ้าน้องในโลกของเราฟื้น เราก็จะสอนเธอแบบนี้ด้วยรึเปล่านะ?"
และน้ำตาจากตาข้างซ้ายก็ไหลออกมา
"น้องสาวในโลกของเธองั้นหรอ มันหมายความว่สยังไง!"
มีคนเดินเข้ามา คนๆ นั้นก็คือ ท่านแม่นั่นแม่นั่นเอง ผมรีบเช็ดน้ำตาและถามไปว่า
"มีอะไรหรอครับ?"
"ไม่ต้องมาทำเมิน บอกฉันมาน้องสาวในโลกของนายหมายถึงอะไร!"
ผมควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้และเผลอบีบคอเธอไป ผมตั้งสติแล้วปล่อย
"ผมขอโทษครับ"
เธอไม่พูดอะไรแล้วมานั่งข้าง ๆ แล้วพูดว่า
"ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนฆ่าสามีฉันจริง ๆ แต่ฉันก็มองว่าเธอเป็นครอบครัวเรามาตลอดตั้งแต่ที่เธอไม่คิดที่จะทำอะไรพวกเราและคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด"
"เธอน่ะเหมือนพี่ชายของเธอจริง ๆ เลยล่ะ"
"แล้วก็ฉันดีใจนะที่มีลูกชายแบบนาย"
อยู่ ๆ น้ำตาผมทั้งสองข้างผมนั้นนั้นก็ไหลออกมา และกอดเธอไว้
เมื่อผมหยุดร้องไห้ออกมา ก็เริ่มพูด
"ผมไม่ใช่คนในโลกนี้จริง ๆ หรอก ครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมไปถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวแล้ว ผมก็จะหายไป"
"เธอมีน้องสาวที่โลกนั้นด้วยงั้นหรอ"
"ใช่ครับ อายุจริง ๆ ของผมก็เยอะกว่านี้ด้วย แล้วกระแสเวลาของฝั่งนี้และฝั่งนั้นก็ไม่เท่ากัน"
"ผมมาทำภารกิจน่ะครับ ให้เลือกฝ่ายแล้วสู้ให้ชนะอีกฝ่าย"
"แล้วเธอเลือกฝ่ายไหนงั้นหรอ"
"ผมไม่เลือกซักฝ่ายครับ ผมต้องการากวาดล้างที่สองฝ่ายเลย"
เธอเงียบสักพักและพูด
"การมีพักพวกมันง่ายกว่าไม่ใช่หรอลูก"
"แต่ผมตัดสินใจเดินทางนี้ไปแล้วครับ"
"แล้วตอนนี้จะทำยังไงต่อล่ะ"
"ต้องมีฐานะที่สูงกว่านี้ครับ พออายุ 18 ผมต้องแต่งงานกับองค์หญิงของราชา ผมจะใช้โอกาสในงานแต่งนั้นกวาดล้างพวกมันให้หมด"
เธอเงียบและพูดออกมา
"ถ้านั่นคือทางเลือกของเธอ แม่ก็เชื่อว่าเธอทำได้ พยายามเข้าล่ะ"
"ครับ"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments