Light-Dark Cycle
“หายนะ! โอ้!...ท่านจะเจอหายนะจากลูกสาวที่เกิดจากท่าน...คนแรก คนแรก ดวงดาวของนางแข็งแกร่งกว่าท่านนัก ดวงแข็งมากๆ นรกหวั่น สวรรค์เกรง เด่นดวงโจรแต่ถ้าได้เป็นใหญ่จะยิ่งใหญ่เกรียงไกรไม่มีใครเทียบ นางจะเหยียบท่านขึ้นตำแหน่งเจ้าเมืองอย่างแน่นอน”
พ่อหมอเฒ่าบรรยายสิ่งที่เขาเห็นในนิมิตรให้กับชายหนุ่มวัยกลางคนที่กำลังนั่งขมวดคิ้วกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไปเมื่อครู่
“พ่อหมอ เรื่องนี้พอจะมีทางแก้ไขหรือไม่”
ชายวัยกลางคนถามขึ้นด้วยท่าทางกระวนกระวายปนหงุดหงิดข้างในใจ
“พอมี...ก็คือทำให้นาง ได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองตั้งแต่อายุครบเก้าขวบ”
“เหลวไหลน่ะพ่อหมอ ท่านมาเดาสุ่มมั่วๆแบบนี้ไม่ได้ จะให้เด็กผู้หญิงขึ้นเป็นเจ้าเมืองเนี่ยนะ! หากข้าเชื่อท่าน...คงหายนะยิ่งกว่า”
โวยวายเสร็จชายวัยกลางคนก็เดินปึงปังออกจากร้านไป
“ก็ขึ้นอยู่ที่ท่านแล้วนะท่านเจ้าเมือง แต่ข้า...ไม่เคยพูดผิด นางจะกลับมาทวงสิ่งที่เป็นของนางไม่ว่าท่านจะดิ้นรนยังไง ขอให้ท่านโชคดี”
ชายแก่ยังคงพูดต่อแม้ว่าเขาจะเดินออกจากร้านไปแล้วก็ตาม
ณ ตรอกมืดๆข้างทาง ชายสวมชุดคลุมสีน้ำตาลเข้มท่าทีระแวดระวังบรรจงเคาะประตูไม้เก่าๆที่อยู่ลึกเข้าไปสุดทางเดิน ทันทีที่เสียงเคาะประตูจังหวะประหลาดจบลงประตูไม้เก่าก็ค่อยๆแง้มเปิดออกทีละนิดเผยให้เห็นใบหน้าที่เหี่ยวย่นของหญิงชราที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันสดใสสวยงาม นางเอ่ยทักทายชายคนดังกล่าวก่อนจะถูกเขาดุด้วยกลัวโดนเปิดเผยตัวตน
“แล้วท่านมีอะไรให้หญิงแก่อย่างข้ารับใช้”
ตรอกที่ว่านี้ก็คือตรอกหญิงงามตามที่ชาวบ้านเรียกกัน เป็นสถานที่อันไม่พิศมัยสำหรับบรรดาเมียๆทั้งหลายเพราะมันเป็นที่ที่ผู้ชายเอาไว้ระบายความใคร่หรือใครจะเรียกว่าหอนางโรมก็ไม่ผิด
“ข้าต้องการหญิงงามที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด เจ้ามีให้ข้าหรือไม่”
“มีสิ...มี ท่านต้องการกี่คนล่ะ...ท่านมือขวาเจ้าเมือง”
“หยุดเรียกข้าแบบนั้นได้แล้ว!”
ชายลึกลับขึ้นเสียงใส่หญิงชราด้วยความหัวเสียก่อนจะสงบสติอารมณ์แล้วเจรจาธุรกิจต่อ
“มีกี่คนเอาหมด”
“ได้เลยท่านเบรุส”
หญิงชรามีท่าทีท้าทายชายลึกลับด้วยนางต้องการแสดงให้เขาเห็นว่านางกำลังถือไพ่เหนือกว่าเพราะแค่เขามาเคาะประตูนางก็กุมความลับของเขาไว้หมดแล้ว
“ท่านต้องการให้ข้าส่งพวกนางไปที่คฤหาสน์หรือท่านจะมารับเอง?”
“ส่งไปคืนนี้เลยก่อนเช้ามืด แล้วก็อย่าปากมากด้วยล่ะ”
ชายลึกลับที่ชื่อว่าเบรุสส่งถุงผ้าหูรูดใบโตให้หญิงชราก่อนนางจะแหวกดูข้างในถุงที่อัดแน่นไปด้วยเหรียญทอง เมื่อเหรียญกระทบกับแสงไฟจากตะเกียงก็ส่องประกายแสงสีทองอร่ามออกมา
“ปากข้าจะสว่างหรือมืดก็อยู่ที่ทองของท่านว่าจะสว่างดับแสงจากปากข้าได้หรือไม่”
หญิงชราหยิบเหรียญทองขึ้นมาจากถุงและหมุนเล่นไปมาก่อนที่ชายลึกลับจะโยนถุงผ้าใบโตให้อีกหนึ่งใบ หญิงชรายิ้มเยาะอย่างพอใจก่อนจะโค้งให้ชายลึกลับหนึ่งที
“ยังมีอีกอย่าง...ข้าต้องการยักษ์แดง”
“ยักษ์แดง? แค่สองถุงยังไม่พอค่าเรียกเลยนะท่านเบรุส”
“ได้ๆ! ข้าให้ค่าเรียกสามถุง จบงานจ่ายอีกสามถุง”
หญิงชรายิ้มรับถุงผ้ามาเต็มอุ้งแขนก่อนจะเดินหายไปในความมืด ไม่นานนางก็กลับมาพร้อมชายร่างสูงใหญ่กำยำน่าขนลุก และอีกธุรกิจที่ดำมืดของตรอกหญิงงามแห่งนี้ก็คือการค้าและให้เช่ามนุษย์ ความหมายของยักษ์เขียวก็คือการเช่าคนไปทำงานสะอาดราคาไม่แพง อย่างเช่นการคุ้มกันเสบียง ส่วนยักษ์ดำคืองานสกปรกผิดกฎหมายและยักษ์แดงคืองานเปื้อนเลือด
“เชิญใช้งานได้ตามใจเลย...ท่านเบรุส”
ณ คฤหาสน์ไทกริส
“รายงานท่านเจ้าเมือง”
ชายลึกลับที่ตรอกหญิงงามกำลังคุกเข่าก้มหน้ารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้มือกุมขมับ เขาโบกมือตอบกลับเป็นการบอกนัยๆว่าพูดมาได้เลย
“ได้ยักษ์แดงมาแล้ว ตอนนี้กำลังรอท่านออกคำสั่ง”
ชายวัยกลางคนมีท่าทีตื่นตัว เขาขึ้นนั่งตัวยืดตรงคิ้วขมวดหายใจถี่
“เชิญสั่ง”
“นางนอนหลับด้วยธูปกล่อมอยู่ในห้อง พาตัวนางไปที่ป่ารกร้างนอกเมือง...แล้วเอาหัวกลับมาให้ข้า”
“ท่านไม่ลองตัดสินใจใหม่ดูอีกทีเหรอครับ นี่โหดร้ายกับนายหญิงและคุณหนูน้อยมากเลยนะครับท่าน”
เบรุสมือขวาของเจ้าเมืองไทกริสพยายามเกลี่ยกล่อมเจ้านายของเขาให้กลับมาเดินทางให้ถูกต้องแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เจ้าเมืองไทกริสดูจะรักตำแหน่งและอำนาจของเขามากกว่าเมียและลูกแท้ๆในไส้
“ข้าตัดสินใจแล้ว...มันต้องดีที่สุด เจ้าไปเถอะเบรุส อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”
“รับคำสั่งท่านเจ้าเมือง”
เบรุสพูดด้วยน้ำเสียงสุดเศร้า แววตาฉายความผิดหวังในตัวเจ้านายของเขาออกมาอย่างชัดเจนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
“เบรุส...เดี๋ยว เรื่องหญิงงามที่ตั้งท้องล่ะ”
ชายวัยกลางคนถามขึ้นเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
“มาถึงสักพักแล้วครับ จัดแจงที่พักชั่วคราวให้พวกนางเรียบร้อย รอรับคำสั่งจากท่านต่อไป”
“แม่เฒ่าเมลีส่งมากี่คน”
“เก้าคนครับท่าน”
“ยัยแก่นั่นกะจะให้ฉันเลี้ยงคนจนหมดตัวเลยรึไง ช่างเถอะ...พาหมอที่ไว้ใจได้มาตรวจครรภ์พวกนาง คนที่อายุน้อยที่สุดที่ท้องลูกชายและใกล้คลอดที่สุดให้สวมรอยเป็นนายหญิง ส่วนใครใกล้คลอดรองลงมาก็ให้ตำแหน่งเมียรองตามลำดับไป”
“รับคำสั่งท่านเจ้าเมือง”
เบรุสเดินคอตกออกมาหายักษ์แดงหรือคนที่เช่ามาจากตรอกหญิงงามและคุยรายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมายมา
“ข้าจะไม่ได้ไปกับเจ้าเพราะยังมีงานอีกอย่างที่ข้าต้องจัดการ เจ้าอย่าลืมว่าต้องนำหัวกลับมาเป็นหลักฐานให้ข้า ไม่งั้นทองอีกสามถุงเจ้าจะไม่ได้มัน”
ยักษ์แดงพยักหน้ารับรู้คำสั่งก่อนจะขึ้นรถม้าที่เบรุสจัดเตรียมไว้ให้ซึ่งข้างในมีร่างของหญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดหรือก็คือนายหญิงแห่งเมืองไทกริสนอนอยู่ รถม้าเคลื่อนออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆจนลับหายไปจากสายตา ‘เบรุสผู้ทำบาปมหันต์’ เขาได้แต่คิดโทษตัวเองในใจที่ไม่สามารถช่วยทั้งสองชีวิตที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรได้เลย ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปข้างในคฤหาสน์และจัดการเรื่องที่เจ้าเมืองได้สั่งมาอีกเรื่องหนึ่ง เขาได้สั่งให้ทหารที่อยู่ใต้บังคับของเขาไปตามหมอมาแต่เวลานี้คงไม่มีที่ไหนเปิดอยู่ จู่ๆเขาก็ฉุดนึกขึ้นได้ว่าลูกสาวของตัวเองพอมีความรู้แพทย์อยู่บ้างอาจจะช่วยเขาได้ไม่มากก็น้อยแต่นางไม่สามารถแสดงมันออกมาได้เพราะเมืองนี้ไม่มีใครเชื่อถือว่าผู้หญิงจะทำการใหญ่ได้ เขาจึงส่งคนไปตามลูกสาวของตัวเองมาซึ่งก็อยู่ภายในเขตคฤหาสน์นี้ ไม่นานนางก็มาถึงอย่างรีบร้อน
“พ่อตามข้าออกมากลางดึกแบบนี้มีเรื่องอะไรกันแน่ ข้าถามทหารตลอดทางเขาไม่ตอบอะไรข้าเลย”
นางมีท่าทางร้อนรนมากกว่าคนเป็นพ่อเสียอีก คนพ่อเลยอธิบายแค่เรื่องที่ต้องการขอความช่วยเหลือจากนางและกำชับว่าอย่าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง เมื่อนางรับปากเขาจึงพาไปเจอกับหญิงงามที่กำลังตั้งท้องทั้งเก้าคน
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
พอได้เห็นภาพตรงหน้าที่คนท้องแก่เก้าคนนั่งเรียงกัน นางก็ถึงกับยกสองมือขึ้นปิดปากพูดอะไรไม่ออกเพราะขนาดในโรงพยาบาลใหญ่ๆยังหาได้ยากที่จะมีคนท้องแก่พร้อมกันเยอะขนาดนี้
“เริ่มเลยเถอะ ทั้งหมดนี้ต้องจบลงก่อนเช้า”
ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นพรางแตะเบาๆที่ไหล่ลูกสาวเป็นการให้กำลังใจ
“ให้พ่อช่วยอะไรก็บอกนะ”
ยิ่งเขาเห็นสิ่งที่ท่านเจ้าเมืองทำลงไปวันนี้เขายิ่งรู้สึกรักและอยากทำดีกับลูกให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“พ่อคะ!!”
“ว่าไงลูก”
“มีสามคนกำลังจะคลอดแล้ว!”
“ห๊ะ!! อ้าว...แล้ว ต้องทำยังไงล่ะเนี่ย”
“ไปตามสาวใช้มา ยิ่งเยอะยิ่งดี แล้วให้ใครก็ได้ไปต้มน้ำกับเตรียมน้ำมะพร้าว”
หมอหญิงจำเป็นที่กำลังนั่งตัวสั่นด้วยไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังดีและต้องทำคลอดทีเดียวสามคนโดยที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำคลอดมาก่อน
“พ่อฟังให้ดีนะ หนูต้องการเชือกหรือด้ายดิบ เปลือกหอยกาบ ยอดพลับพลาหรือหญ้าใต้ใบก็ได้ ของใช้ทุกอย่างเอาไปต้มน้ำร้อนก่อนเอามาให้ด้วยนะ ส่วนสมุนไพรล้างน้ำธรรมดาก็พอ”
หญิงสาวออกคำสั่งอย่างคล่องแคล่วจนคนพ่อแอบตกใจ แต่ก็ไม่มีเวลาให้ทันได้ครุ่นคิดอะไรมากมายเพราะเวลาไม่เคยคอยท่า ตอนนี้มีสามชีวิตน้อยๆกำลังฝากความหวังในการลืมตาดูโลกกับพวกเขาอยู่ คิดได้ดังนั้นก็รีบออกคำสั่งกับทหารใต้บังคับทันควัน ไม่นานสาวใช้กลุ่มหนึ่งก็กุลีกุจอกันเข้ามาช่วยหมอสาวจำเป็นในภารกิจทำคลอดครั้งนี้ เธอลูบๆคลำๆที่ท้องของหญิงงามคนหนึ่งที่คาดว่าจะได้คลอดคนแรกแน่ๆ หญิงงามคนนี้มีชื่อว่า 'เรอชารี่' เธอหน้าตาสะสวยผิวขาวนวลละเอียดที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มซีดลงอย่างเห็นได้ชัดเธอขบงับริมฝีปากเพื่อกลบกลืนความเจ็บปวด
"ไม่ไหวแล้ว...ช่วยฉันด้วยยย"
เธอร้องครวญครางอย่างน่าสงสารน้ำตารินอาบใบหน้าไหลเรอะลงมาถึงคอแต่เจ้าตัวไม่มีกะใจจะปาดเช็ดออกแต่อย่างใด สองมือกำผ้าที่มัดข้างเตียงไว้แน่น สองขาสองเท้าหงิกเกร็งจนสาวใช้ต้องมาช่วยจับให้เป็นปกติ
"น้ำมะพร้าว ขอน้ำมะพร้าวหน่อยยังไม่ได้อีกเหรอ!"
หมอหญิงส่งเสียงตะโกนเรียกหาของที่ตนขอไปเมื่อครู่ใหญ่ ไม่นานทหารก็หอบทลายมะพร้าวมาพวงใหญ่ก่อนจะเฉาะน้ำออกใส่ขันให้หมอหญิงสดๆตรงหน้าและเธอก็ได้ให้ทหารออกไปรอข้างนอกส่วนหน้าที่นี้ก็ให้สาวใช้ทำแทน ไม่รอช้าหมอหญิงใช้ผ้าชุบน้ำมะพร้าวโปะไปที่ท้องของเรอชารี่ให้น้ำมะพร้าวชุ่มไปทั่วและบรรจงนวดอย่างเบามือกระตุ้นให้ถุงน้ำคร่ำแตกเพื่อเร่งการคลอดให้เร็วขึ้นลดความเจ็บปวดให้แม่ท้องจะได้ไม่ต้องนอนเจ็บท้องเป็นเวลานาน สักพักก็มีเสียงดังโพละพร้อมกับน้ำที่ไหลออกมาจากช่องคลอดอย่างกับเขื่อนแตกก็ไม่ปาน หมอหญิงจึงตรวจดูที่ปากมดลูกปรากฎว่ามันเปิดกว้างมากพอสำหรับเด็กน้อยที่จะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ทั้ง4คนให้ช่วยจับแม่ท้องให้อยู่ในท่าที่สามารถคลอดได้สะดวกและปลอดภัย
"อย่าเพิ่งเบ่งนะ รอให้ถึงจังหวะที่รู้สึกว่าอยากเบ่งก่อน"
หมอหญิงจำเป็นคัดท้องเรอชารี่อยู่สองสามทีจนแน่ใจแล้วว่าเด็กเอาหัวลง และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรอชารี่พร้อมจะเบ่งแล้ว
"สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วฮึบไว้ ปิดปากให้สนิทห้ามร้องแล้วเบ่งเหมือนถ่ายหนัก เบ่งออกมาให้สุดลม แต่ถ้าเหมือนจะหมดลมให้เริ่มหายใจก่อนอย่าฝืน รอลมเบ่งรอบใหม่"
"โอเค"
หญิงงามเรอชารี่สูดหายใจเข้าตามที่หมอหญิงบอกและปิดปากเบ่งตามที่เธอกำชับไว้แบบเปะๆ เบ่งอยู่พักใหญ่เรอชารี่ก็เปิดปากหายใจ แล้วก็เบ่งคลอดใหม่อีกรอบ ทำซ้ำวนอยู่หลายรอบเด็กก็ไม่หลุดสักทีจนหมอหญิงต้องร้องหาตัวช่วย
"แอนาไปเอาใบมะนาวแช่ในน้ำอุ่นมาให้ที ด่วนๆเลยนะ"
สาวใช้พยักหน้ารับคำก่อนจะพุ่งตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว จู่ๆหญิงงามที่ใกล้คลอดอีกสองคนก็ร้องโอดครวญขึ้นมาพร้อมกัน หมอหญิงจำเป็นจึงต้องผละออกจากเรอชารี่ไปดูอาการของทั้งสองคน ตอนนี้บรรยากาศในห้องค่อนข้างจะตึงเครียดเสียงร้องครวญครางดังระงมไปทั่วบริเวณ ท่านเจ้าเมืองที่ได้รับรายงานจากเบรุสก็รีบเร่งมายังห้องพักดังกล่าวแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณด้านในได้เนื่องจากหมอหญิงได้ห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนช่วยเหลือเข้าไปวุ่นวายด้านในนอกจากจะเกะกะแล้วยังจะทำให้สถานที่สกปรกเป็นอันตรายต่อทารกแรกเกิดที่สามารถรับเชื้อโรคได้ง่าย
“เด็กขวางท้องอยู่เสี่ยงมดลูดแตกต้องผ่าอย่างเดียวไม่งั้นไม่รอดทั้งแม่ทั้งลูก ดาน่าไปเอาเหล้าแรงๆกับมีดที่ห้องฉันมาให้หน่อย เออแล้วก็ธูปกล่อมด้วยนะ”
“เอ่อ...คือว่า”
“ว่าอะไร เร็วสิไม่มีเวลาแล้วนะ”
“ธูปกล่อมหมดค่ะท่านเบรามี่”
“หมดเหรอ?! ช่างเถอะงั้นเอาเหล้ามาเยอะๆหน่อยแล้วกัน เร็วๆด้วยนะ”
เมื่อสาวใช้ออกไปจากห้องได้สักพักหมอหญิงก็หวนกลับมาคิดว่าธูปกล่อมดอกนึงก็หลับได้ทั้งคืน แล้วคลังเจ้าเมืองมีเหรอจะเก็บไว้แค่ดอกสองดอก แต่ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงร้องของหญิงท้องแก่ก็ดังแทรกขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับที่เบรุสนำของที่หมอหญิงได้ร้องขอไปก่อนหน้านี้เข้ามาให้
“พ่อ ข้ามีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย”
“ว่ามาเลยลูก”
“พ่อถามท่านเจ้าเมืองให้ข้าทีสิ ว่าเขาจะเอาใครไว้”
“หมายความว่ายังไง”
“การคลอดครั้งนี้ไม่ปกติ เด็กไม่ยอมกลับหัว อาจจะต้องเลือกว่าจะให้แม่หรือลูกรอด”
“ท่านเจ้าเมืองเลือกเด็กแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ ลูกไม่ต้องกังวลหรอกนะแค่ทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว ที่เหลือให้พ่อจัดการเอง”
จบบทสนทนาพ่อลูกหมอหญิงก็ไปตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ส่วนเบรุสก็ไปคุยกับท่านเจ้าเมืองเรื่องหญิงงามที่อาจจะตายตอนคลอดลูกให้กับเจ้าเมือง
“ว่ายังไงบ้างเบรุส มีใครคลอดลูกชายให้ข้าแล้วรึยัง”
เจ้าเมืองรุดเข้าถามมือขวาของเขาอย่างรีบร้อนเมื่อเห็นว่าเบรุสเดินออกมาจากห้องแล้ว
“ยังครับท่าน แต่ข้ามีเรื่องอยากเสนอให้ท่านลองคิดดูสักหน่อย”
“ว่ามาสิเบรุส มีอะไรหรือ”
“หญิงงามเก้าคน ข้าน้อยคิดว่าเยอะเกินไปสำหรับเงินเดือนที่ท่านต้องจ่ายในแต่ละเดือนแต่ละปี ไม่สู้จ่ายเงินให้ก้อนหนึ่งและให้พวกนางทำสัญญายกลูกให้ท่านแล้วก็ปล่อยให้พวกนางเป็นอิสระ ท่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง”
หลังจากได้ฟังดังนั้นเจ้าเมืองก็ถึงกับครุ่นคิดอย่างหนักก่อนจะเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“สมแล้วที่ข้าไว้ใจเลือกให้เจ้าเป็นมือขวา...ไม่เสียแรง ความคิดดีทีเดียวนะเบรุสข้าเห็นด้วยมาก งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เลือกหญิงงามคนที่ให้กำเนิดลูกชายไว้เพียงคนเดียวและแจ้งเกิดเด็กทั้งหมดให้เป็นลูกของข้ากับนาง ส่วนหญิงงามที่เหลือเมื่อไรที่คลอดลูกแล้วก็ให้เงินไปก้อนหนึ่งแลกกับให้พวกนางทำสัญญายกลูกให้ข้า จัดการให้เรียบร้อยล่ะ แล้วก็...ถ้าลูกชายของข้าคลอดแล้วรีบบอกข้าเลยนะ ข้าขอไปพักผ่อนก่อน...วันนี้เหนื่อยจริงๆ”
ว่าจบก็เดินมือไขว้หลังจากไป เบรุสที่โค้งรับคำสั่งเมื่อครู่ก็รีบดึงสติกลับมาอยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่นานเกินอึดใจเสียงเด็กร้องก็ดังขึ้นเป็นสัญญานบอกว่าชีวิตน้อยๆได้ออกลืมตาดูโลกแล้วประตูห้องก็ยังไม่ถูกเปิดออกแต่อย่างใด ทำเอาคนที่ยืนอยู่ข้างนอกทั้งลุ้นและตื่นเต้นปนสงสัยไปตามๆกัน ครู่ใหญ่ก็มีเสียงเด็กร้องดังขึ้นอีกครั้งทำเอากลุ่มคนที่รออยู่ด้านนอกส่งเสียงฮือฮากันอีกระลอก ทันใดนั้นเองประตูห้องก็ถูกเปิดออกทุกคนลุ้นในใจว่าจะมีอะไรออกมาปรากฎเป็นสาวใช้แอนาที่ออกมาส่งข้าวให้กับเบรุสว่าหญิงงามทั้งหมดตอนนี้ปวดท้องใกล้คลอดพร้อมกันหมดเลย
“เป็นไปได้ยัง?! เกิดอะไรขึ้นข้างในกันแน่”
“ท่านเบรามี่สอบถามแม่นางทั้งหมดแล้วได้ความว่า...ก่อนออกมาแม่เฒ่าเมลีด้าให้พวกนางดื่มน้ำคนละแก้วอ้างว่าเป็นการอวยพรให้พวกนางโชคดี คาดว่าน้ำที่พวกนางกินจะเป็นยาเร่งคลอดค่ะ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ เบรามี่คนเดียวไม่ไหวแน่ๆ”
“ท่านเบรามี่ได้สอนสาวใช้อาวุโสทำคลอดบ้างแล้วพวกนางพอแบ่งเบาได้อยู่ค่ะ แล้วก็ให้ฉันออกมาบอกท่านเบรุสว่าขอน้ำมะพร้าวและสมุนไพรที่เคยขอไปตอนแรกอีกรอบเพิ่มเถาสะบ้าแห้งรมควันใส่เตายกมาให้ทั้งเตาเลยด้วยค่ะ”
“เข้าใจแล้วๆ เอ้าพวกเจ้าได้ยินแล้วไปจัดการหามาให้ได้โดยเร็วที่สุดเลยนะ ว่าแต่เด็กเป็นยังไงบ้างปลอดภัยหรือไม่ที่ร้องนั่นชายหรือหญิงล่ะ”
“เรื่องที่ข้ากำลังจะบอกก็คือ เด็กที่คลอดออกมาเพศชายหมดเลยค่ะ”
“โอ้พระเจ้า”
“ทั้งหมดสี่คนค่ะ”
“อะไรนะ?!”
“ฝาแฝดสองคนค่ะ”
“โอ้ ยังมีเรื่องให้ฉันตกใจมากกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย”
“แม่ของเด็กแฝดเสียชีวิตค่ะ”
“?!!”
“นางทนความเจ็บปวดไม่ไหว สิ้นใจไปตั้งแต่ท่านเบรามี่ยังไม่ได้ทำคลอดให้นาง โชคดีที่ท่านเบรามี่ผ่าท้องเอาเด็กออกมาได้ทันเวลาไม่งั้นคงขาดอากาศตายตามแม่ไปแล้วค่ะ”
“พระเจ้าอวยพรเด็กน้อย แล้วตอนนี้เด็กล่ะ อยู่ไหน?”
“เด็กที่คลอดออกมาแม่นมเอาไปดูแลแล้วค่ะ”
“โอเค เรื่องนี้ห้ามเอาไปพูดกับใครที่ไหนนะ ข้าจะไปรายงานท่านเจ้าเมือง ส่วนเรื่องเด็กคนไหนเกิดก่อนเกิดหลังข้าจะเป็นคนบอกท่านเจ้าเมืองเอง”
“รับทราบท่านมือขวาเจ้าเมือง”
ตกปากรับคำเสร็จ สาวใช้แอนาก็กลับเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ทิ้งคนข้างนอกให้หน้านิ่วคิ้วขมวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพรางคิดในใจ ‘วันนี้จะมีเรื่องดีๆให้พักสมองบ้างไม่ได้เลยรึไงกันนะ’ ถ้าเด็กน้อยทั้งสี่คนนั้นโตมาไม่มีความทะเยอทยานอยากครองตำแหน่งเจ้าเมืองมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าเกิดมันตรงกันข้ามหายนะนองเลือดก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ท่านเจ้าเมือง! เด็กคลอดแล้วครับท่าน!”
เบรุสเคาะประตูก่อนจะรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านเจ้าเมืองฟัง แล้วประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เจ้าเมืองรีบร้อนออกมาเปิดประตูรับข่าวดีด้วยตัวเองอย่างหน้าตาตื่น
“ลูกชายข้าอยู่ไหน?!”
“แม่นมดูแลอยู่ครับท่าน”
“ไปเร็ว พาข้าไปดูหน้าลูกชายข้าเร็ว”
เจ้าเมืองเดินไปหัวเราะไปอย่างคนอารมณ์ดี ยิ่งได้เห็นเด็กชายที่นอนเรียงกันอยู่ทั้งหมดสี่คนก็ยิ่งหัวเราะและยิ้มกว้างมากกว่าเดิมหลายเท่า
“เด็กทั้งสี่คนนี้คลอดออกมาในเวลาเดียวกันแถมยังมีฝาแฝดอีกสองคน เรื่องแต่งตั้งผู้สืบทอดท่านคิดไว้ยังไงบ้างท่านเจ้าเมือง”
“อื้มมม...นั่นน่ะสินะ ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้ แล้วเจ้ามีความคิดอะไรดีๆบ้างมั้ยล่ะเบรุส”
เจ้าเมืองยืนกอดอกมองเด็กทั้งสี่คนสลับกันไปมา
“ด้วยตัวท่านตอนนี้ก็ยังหนุ่มยังแน่น ข้าคิดว่ารอให้ทายาททั้งหมดเติบโตจนได้รับพลังธาตุกันทุกคนก่อน ถึงเวลานั้นทายาทคนไหนความสามารถโดดเด่นมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งท่านค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย”
“ดี! ดีจริงๆที่เจ้ามาเป็นคนสนิทของข้า ไม่อยากจะคิดเลยถ้าเจ้ากลายไปเป็นศัตรูจะน่ากลัวแค่ไหน
พรุ่งนี้เช้าเจ้าไปบอกคนข่าวนะว่าให้ปล่อยข่าวเรื่องลูกชายของข้า บอกหนังสือพิมพ์ให้ตีข่าวทุกเมืองกระจายออกไปให้เยอะๆ ไกลถึงเมืองหลวงได้ยิ่งดี!”
พูดจบเขาก็หัวเราะอย่างพอใจพรางลูบสันจมูกของตัวเองไปมา
“ข้าน้อยอยากรบกวนท่านเจ้าเมือง มอบชื่อให้เด็กน้อยทั้งสิบคนด้วยครับท่าน”
เบรุสก้มโค้งรอรับคำสั่งท่านเจ้าเมือง
“ห๊ะ?! อะไรนะ...สิบคนเหรอ?”
“ครับท่าน หญิงงามทั้งเก้าคนปวดท้องคลอดพร้อมกัน สาเหตุจากแม่เฒ่าเมลีเอายาเร่งคลอดให้พวกนางกินก่อนมาที่นี่ครับ”
“ให้ตายเถอะยัยแม่มดเฒ่านั่น! ร้ายกาจนัก”
“แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ท่านจะได้เสียเงินกระจายข่าวทีเดียวและคาดว่าข่าวนี้จะเป็นที่กล่าวขานกันไปอีกนาน”
“ก็ได้”
ชายวัยกลางคนรับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“คนแรกจากขวามือ ลูกชายของหญิงงามนามว่าเรอชารี่ นางคลอดคนแรกข้าเลยเลือกให้นางเป็นนายหญิงครับท่าน”
“งั้นให้ชื่อว่าริมเมล”
แม่นมที่ยืนอยู่ด้วยกันไม่ไกลก้มหน้าก้มตาจดชื่อที่เจ้าเมืองตั้งให้เด็กน้อยทั้งสี่อย่างใจจดใจจ่อ
“คนต่อมาลูกชายของหญิงงามนามว่าเดราจี้ ข้าได้แอบไปยื่นข้อเสนอให้นางอย่างลับๆแล้วแต่นางไม่ตกลงครับท่าน”
“ช่างเถอะ...ไม่ก็ไม่ คนเดียวไม่ใช่ปัญหา คนนี้ให้ชื่อว่าเดราจ”
“เด็กแฝดสองคนนี้นายหญิงเรอชารี่ออกปากจะรับเลี้ยงไว้เองครับท่าน”
“ก็ดี จะได้เบาภาระแม่นมด้วยเหมือนกัน ชื่อว่าอะไรดีนะ”
“อารอนกับอีรอน ดีมั้ยคะนายท่าน”
แม่นมที่ยืนเงียบอยู่นานเสนอความคิด
“เบรุส เจ้าว่าดีหรือไม่”
“เป็นชื่อที่ดีที่เดียวนายท่าน”
“เอาตามเจ้าว่า ไหนพาข้าไปดูอีกหกคนหน่อยสิ”
“ตอนนี้เบรามี่กำลังทำคลอดให้อยู่ครับท่าน”
“ทำไมเป็นลูกสาวของเจ้าล่ะ หมอทำคลอดเก่งๆไปไหนหมด”
“เนื่องจากตอนนี้เมืองหลวงมีการคัดเลือกหมอเพื่อเข้าประจำที่วัง หมอเก่งๆที่พอจะเรียกออกมากลางดึกได้จึงไม่มีเหลืออยู่เลยครับท่าน”
“ให้ตายสิน่า ถ้าเรื่องคืนนี้ผ่านไปด้วยดี ข้าจะตัดเงินทุนหมอทุกคนที่ไปคัดเลือกที่เมืองหลวงแล้วใช้ตั้งโรงพยาบาลให้ลูกสาวของเจ้าดูแลเปิดให้ชาวบ้านมาคลอดลูกแบบไม่คิดเงิน”
“งั้นก็แปลว่าท่านจะให้ตำแหน่งกับเบรามี่ด้วยหรือครับท่าน”
“ใช่แล้ว! ข้าจะให้ตำแหน่งกับผู้หญิงที่มีความดีความชอบ”
“ช่างใจกว้างยิ่งนักท่านเจ้าเมืองไทกริส”
หลังจากรออยู่พักใหญ่สาวใช้ก็ออกมาแจ้งข่าวกับชายมือขวาเจ้าเมืองว่าการทำคลอดจบลงด้วยดีไม่มีปัญหาพร้อมกับแจ้งอีกว่าหญิงงามทั้งหกคนยอมรับข้อเสนอแล้ว
“ท่านเบรามี่บอกว่าให้พวกนางพักฟื้นอีกสักสองสามวันก็ออกเดินทางได้”
“ขอบใจมากเจ้าไปเถอะ”
เบรุสพูดกับสาวใช้จบก็หันมารายงานสถานการณ์กับเจ้าเมืองอย่างละเอียด ไม่นานแม่นมก็มาตามให้ไปดูเด็กทารกทั้งหกก่อนจะขอให้เจ้าเมืองตั้งชื่อให้กับพวกเขาจนมาถึงทารกน้อยคนสุดท้าย
“คือว่าท่านเจ้าเมือง”
“มีอะไร...อย่าอ้ำอึ้งพูดมา”
“เด็กน้อยคนสุดท้าย เป็นเด็กผู้หญฺิงครับท่าน”
“ถ้านางไม่ได้เกิดคนแรกข้าก็ไม่มีปัญหา”
“จะให้ชื่อว่าอะไรครับท่าน”
“เคเคอา”
“ข้าน้อยขออนุญาตทวนชื่อทายาททั้งหกคนอีกครั้ง ลูกชายคนแรกริมเมล คนที่สองเดราจ คนที่สามกับสี่อารอนกับอีรอน คนที่ห้าโรมิโอ คนที่หกเนชาบี คนที่เจ็ดเลมาส คนที่แปดแกอัส คนที่เก้ายูนอส และลูกสาวคนสุดท้ายเคเคอา”
“ใช่แล้ว อย่าลืมจัดการเรื่องที่ข้าสั่งไปทั้งหมดให้เรียบร้อยล่ะ ถ้าไม่มีอะไรฉุกเฉินห้ามใครรบกวน”
“รับคำสั่งท่านเจ้าเมือง”
ในเวลาเดียวกัน ณ ป่ารกร้างนอกเมือง ยักษ์แดงที่ถูกว่าจ้างโดยเจ้าเมืองไทกริสได้จัดการนำร่างหญิงสาวที่นอนนิ่งสนิทด้วยธูปหลับออกมาจากรถม้าแล้วบรรจงวางลงบนพื้นดินอย่างเบามือ
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ...ยกโทษให้ข้าด้วยนะแม่นาง ถ้าจะโทษก็โทษท่านเจ้าเมืองเถอะ”
พูดจบก็ง้างขวานด้ามโตขึ้นก่อนจะลงขวานอย่างฉับไว หัวของหญิงสาวหลุดกระเด็นออกจากบ่ากลิ้งไปตามพื้นดิน กลิ่นคาวเลือดกระจายคละคลุ้ง เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณทั้งไหลซึมลงพื้นดินจนเปียกชุ่ม ชายร่างใหญ่หรือยักษ์แดงเดินไปเก็บส่วนหัวขึ้นมาใส่ถุงผ้าสีดำแล้วผูกปากโยนไปไว้ข้างในรถก่อนจะขึ้นควบม้าออกจากบริเวณไปอย่างรีบร้อนจนลืมไปว่าต้องขุดหลุมฝังทำลายหลักฐานด้วยกลัวว่ากลิ่นเลือดสดๆที่โชยอยู่อาจจะกำลังเรียกปีศาจหรือสัตว์ร้ายมาได้เนื่องจากป่านี้อยู่นอกเมืองและยังเป็นเขตรกร้างที่ไม่มีใครอยากมาสำรวจเพราะมีข่าวลือแปลกๆกับป่านี้เยอะนักทั้งยังอยู่ใกล้กับหุบเขาเทพจึงมีสัตว์ในตำนานที่น่ากลัวและดุร้ายอยู่มากมาย
เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกไปจนลับตาจู่ๆก็มีกลุ่มคนลึกลับวิ่งกรูกันเข้ามาที่ศพของหญิงสาว ชายคนหนึ่งหยิบมีดสั้นออกมาจากเอวแล้วกรีดผ่าท้องศพที่เพิ่งเสียชีวิตไม่นานก่อนจะให้อีกคนช่วยแหวกเอาร่างทารกน้อยออกมาและอีกคนที่กำลังล้างมีดด้วยเหล้าต่อด้วยเผาไฟเสร็จแล้วก็ตัดรกให้ขาด ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองและลงมืออย่างชำนาญ ชายคนหนึ่งที่ยืนควบคุมเหตุการณ์อยู่ได้เดินเข้ามารับตัวเด็กแล้วนำใส่ถุงย่ามมัดปากแล้วร่ายเวทย์มนต์ใส่ถุงย่าม ไม่นานลมก็ก่อตัวขึ้นเป็นพายุขนาดย่อมพัดเอาถุงย่ามลอยหายไป
“เราได้ของดีมาแล้วคืนนี้หยุดการล่าไว้เพียงเท่านี้ก่อน รีบกลับหมู่บ้านไปหาแม่หมอให้ทันภายในห้านาที รับคำสั่ง!”
ชายที่ร่ายเวทย์มนต์ใส่ถุงย่ามดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มที่คอยควบคุมสั่งการทุกอย่าง
“รับคำสั่ง!!”
เมื่อสมาชิกทุกคนได้รับคำสั่งแล้วก็แยกย่ายกันไปอย่างรวดเร็วในพริบตา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments