Ep. 16
"พี่เมษาคะ?" สัมผัสที่โรสยื่นมือมาแตะหลังมือฉันเบาๆพร้อมกับเสียงเรียกชื่อจากเธอทำให้ฉันรู้สึกตัว
"ห้ะ?! " เพิ่งรู้สึกว่ามีรอยเปียกที่หน้าแก้มของตัวเองพอใช้มือลองแตะๆดูถึงได้รู้ว่ามันคือคราบน้ำตา ฉันนั่งฟังโรสเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองจนร้องไห้เลยหรอเนี่ย น่าเอ็นดูชะมัด ชีวิตของโรสอย่างกับในซีรีย์เลยแน่ะ ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก โชคดีมีผู้รับอุปการะแต่ก็ดันถูกส่งไปเรียนเมืองนอกใช้ชีวิตอยู่กับญาติที่ไม่สนิทแถมยังไม่ใช่ญาติสายเลือดเดียวกันแท้ๆตั้งแต่ยังเล็กๆอีก คิดดูสิ..ด้วยความเป็นเด็กเธอคงจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอไปเรียนที่อื่น ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆก็เถอะ แต่เด็กอ่ะอาจจะมีคิดบ้างแหละว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รักหรือไม่ต้องการเธอรึเปล่าจึงส่งเธอไปอยู่ที่อื่น และถึงแม้ว่าตอนนี้โรสเองก็ยังไม่เคยรู้ถึงเหตุผลที่ส่งเธอไปก็เถอะ แต่เด็กหกขวบที่โดนผู้ใหญ่บอกว่าจะพาไปเที่ยวแต่กลับทิ้งเธอไว้ที่นั่นให้อยู่กับญาติที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก มันคงไม่น่าสนุกเท่าไหร่
"ตอนนี้โรสโอเคมั้ย?" เพราะน้ำเสียงและแววตาที่คล้ายคนเศร้าอยู่ตลอดเวลาของเธอทำให้ฉันถามออกไปแบบนั้น
"ตอนนี้ฉันมีความสุขดีค่ะ" เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆส่งกลับมาและฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะเอื้อมแขนโอบกอดผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าและลูบหลังปลอบเธอเบาๆ
ปี๊บบบบ ปี๊บบบบ!!
"พี่เมษาคะ ฉันต้องไปแล้วนะ ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะคะ" เธอหอบกระเป๋าและรีบลุกขึ้นโบกมือลาฉันแล้วเดินเร็วๆไปที่รถสปอร์ตหรูสีดำเงาวับที่จอดรออยู่ กระจกสีดำทึบสนิทค่อยๆเลื่อนลงเมื่อโรสเดินเข้าไปใกล้ ภายในรถคันนั้นที่เบาะหลังพวกมาลัยรถมีผู้ชายคนหนึ่งสวมแว่นตาดำปกปิดแววตาของเขา แต่..เหมือนฉันจะรู้สึกคุ้นกับบุคลิกท่าทางของเขามาก ใครกันนะ...ผู้ชายคนนั้น เขากำลังคุยอะไรสักอย่างกับโรสที่ก้มหัวทักทายอย่างอ่อนโน้มและสีหน้าของเธอก็เริ่มสลดลงถึงแม้ว่าตอนที่คุยกับฉันเธอจะมีน้ำเสียงที่เศร้าตลอดเวลา แต่ฉันก็ยังแอบเห็นรอยยิ้มและแววตาใสๆของโรสอยู่นะ ฉันสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายเวลาที่โรสคุยกับฉัน และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันเองก็ยินดีมาก แต่มันผิดกับตอนนี้ที่โรสดูมีแววตาหม่นเศร้าขณะที่เธอก้าวขึ้นไปนั่งบนรถข้างคนขับนั้น ดูๆแล้วโรสคงแค่ต้องการเพื่อนหรือใครสักคนเพราะเธอเพิ่งกลับมาจากแคนาดาเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วหลังจากที่ไปเรียนอยู่นี่นั่นประมาณสิบกว่าปี แล้วก็เป็นเพราะว่าเธอย้ายไปตั้งแต่ตอนเด็กๆแถมอยู่กับญาติที่นั่นก็ใช้ภาษาอังกฤษตลอด นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงได้มาเรียนที่นี่ เอ๊ะ!! ผู้ชายคนนั้นกำลังมองมาที่ฉันนี่! หรือเพราะว่าฉันกำลังจ้องเขาแบบเปิดเผยเกินไป เห็นอย่างนั้นฉันก็รีบหลบตามองทางอื่นทันทีแต่หางตาก็ยังเห็นคล้ายว่ามีมือโบกไปมาถึงฉันจากที่ไกลๆ พอหันกลับไปมองก็เห็นผู้หชายคนนั้นส่งยิ้มแล้วโบกมือทักทายฉันจากในรถ ซึ่งโรสก็หันมามองก่อนที่จะหันไปนั่งก้มหน้าต่อ แต่ผู้ชายคนนั้น..ถึงแม้แววตาของเขาจะซ่อนอยู่ภายใต้แว่นกันแดดสีดำ แต่..ตอนที่เขายิ้มมันทำให้ฉันนึกถึงใครบางคน
"นั่น..เยจุนอ้บป้านี่!!" กว่าที่ฉันจะนึกขึ้นได้และกำลังจะตะโกนเรียกชื่อเขา แต่ไม่ทันรถคันนั้นที่เคลื่อนตัวออกไปก่อนแล้ว นั่นมันเยจุนอ้บป้าสามีนโนของฉัน ^/////^ ใช่เลย... นี่ฉันกำลังฝันไปรึเปล่าเนี่ย ให้ตายเถอะทุกคน!! แล้วทำไมโรสถึงได้ขึ้นรถไปกับเขาได้ล่ะ ความอยากรู้ของฉันตอนนี้มันพุ่งขึ้นปรี๊ดจนแทบนั่งไม่ติดอยากจะให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจะได้ถามโรสให้รู้เรื่องไปเลย จะว่าฉันตาฝาดหรือจำก็ผิดก็ไม่น่าใช่นะ เพราะฉัน...มั่นใจมาก ว่าผู้ชายที่ส่งยิ้มให้ฉันเมื่อกี๊คือเยจุนอ้บป้า
ปิ๊บบบบ ปิ๊บบบบบ
แต่แล้วจู่ๆฉันก็ต้องสะดุ้งตกใจเพราะเสียงแตรของมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์สปอร์ตคันใหญ่ที่ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า
"นั่งยิ้มอะไรอยู่คนเดียวครับ?" เขาถามหลังจากที่มือหนาภายใต้ถุงมือหนังสีดำนั้นเลื่อนหมวกกันน็อคใบใหญ่ขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าส่วนล่าง
"นาย..เมื่อกี๊!! เมื่อกี๊ฉันเจอ.."
"เจอ..?"
"กรี๊ดดดดดด!! นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยแดเนียล!! บอกฉันทีว่านี่คือเรื่องจริงน่ะ" เขาทำหน้างง คืองงหนักมาก แล้วยื่นมือมาจับตรึงไหล่ทั้งสองข้างของฉันเอาไว้
"คุณเป็นอะไร? เมษา.."
"ฉันเจอ เยจุนอ้บป้า!!! เขายิ้มให้ฉันด้วย อร๊ายยย เขิน~~ ^////^"
"ไร้สาระชิบ ขึ้นรถได้แล้วครับ!" ฮึ่ยยย ปากเสียที่สุด! ไร้สาระงั้นหรอ? แล้วทำไมถึงได้มองฉันแบบนั้นยะ?! นึกว่าฉันเสียสติหรือไง แถมน้ำเสียงที่สั่งฉันให้ขึ้นรถเมื่อกี๊นี้อีก จำเป็นต้องขึ้นเสียงขนาดนั้นมั้ย ชิ!! คนอุตส่าห์กำลังอารมณ์ดีๆ กลับต้องมาพังทลายเพราะเจอหน้านายนี่แค่ไม่กี่นาที -_-
....................................................................
เวลา 21:05 น.
"อีกแล้ว! กี่ฉบับแล้วเนี่ยจากแฟนคลับของนายคนนี้ ถามจริง ตรงๆเลยนะ! ..เป็นแค่แฟนคลับจริงรึเปล่า?" ฉันเดินนำออกมากจากร้านอาหารไทยเพราะก่อนหน้านี้ฉันบ่นว่าอยากกินอาหารไทยและคิดถึงเมืองไทยเขาเลยขับรถพาฉันมาที่ร้านนี้น่ะ เราเดินตรงไปที่รถก่อนจะเจอซองจดหมายวางอยู่ที่เบาะรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขา แล้วก็เหมือนเดิมทุกครั้งคือที่หน้าซองมีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่
"ยิ้มอะไรนักหนา ชอบหรอ? ถูกใจนายเลยล่ะสิ!" ฉันจับซองนั้นชูขึ้นต่อหน้าเขาแล้วสะบัดมันไปมาแรงๆกลางอากาศพร้อมกับคำถามนั้น ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้ชะมัด!
พรึ่บบบบ!!!
ฉันดึงสติ๊กเกอร์หัวใจดวงน้อยนั้นออกแรงๆแล้วดึงจดหมายออกจากซองมาเปิดอ่านทันที ต่อให้นายนี่จะบอกกี่เสมอว่ามันเขียนเหมือนเดิมทุกครั้งก็เถอะ แต่วันนี้ฉันจะอ่าน! ไหนมาดูสิว่ามันจะเหมือนเดิมจริงรึเปล่า หรือว่าจะเป็นจดหมายสารภาพรักกันแน่! ระหว่างที่เขาก็กำลังยกขาคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ ฉันก็ยืนอ่านข้อความบนกระดาษแต่เนื้อหาในจดหมายมันไม่สะกดสายตาฉันเท่ากับรูปวาดข้างใต้ข้อความนั้น เมื่อเพ่งดูรูปนั้นอยู่สักพักฉันก็เลื่อนสายตาขึ้นไปอ่านข้อความแต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ประโยคเดิมเหมือนที่ฉันเคยอ่านไปตอนนั้นนี่นา.. รูปใต้ข้อความที่ว่านั้นมันคือรูปฉันเอง ถูกวาดเป็นเหมือนภาพแบบสเก็ตด้วยดินสอ ที่ยิ่งมองก็ยิ่งชัดเจนว่าใบหน้าผู้หญิงในภาพนั่น..คือฉัน
"แดเนียล...นี่มันอะไรกันเนี่ย?"
"ทำไมครับ เธอสารภาพรักผมหรอ?" ฉันยังกางกระดาษค้างไว้อย่างนั้นพร้อมกับกวาดสายตาอ่านข้อความข้างบนบนภาพนั้นซ้ำอีกครั้ง
'คุณอยู่ในสายตาของฉันเสมอ แต่ไม่เอาแบบนี้ได้มั้ย? ฉันไม่ชอบเลยที่คุณกำลังมีใคร ถ้า..ผู้หญิงคนนี้คือแฟนคุณ'
มันไม่ใช่ข้อความที่ให้กำลังใจแบบที่ผ่านมา แต่ข้อความข้างบนมันถูกเขียนด้วยความหมายแบบนั้นในภาษาเกาหลี และข้างใต้ข้อความก็คือรูปฉันที่กระดาษมันเหมือนโดนคัตเตอร์กรีดให้มีรอยขาดตรงช่วงแก้มของผู้หญิงในภาพ
"เป็นอะไรไปเมษา?" แล้วกระดาษในมือฉันก็ถูกดึงออกไป ฉันยังยืนนิ่งค้างอยู่ในท่าเดิมคือท่าที่ยืนถือกระดาษและสายตาก็ยังจ้องนิ่งๆอยู่อย่างนั้น
".............."
"เธอคิดว่าฉันเป็นแฟนนายแล้วก็คงหึงสินะ ดูท่าว่าเธอจะชอบนายแบบจริงจังนะเนี่ย.." ฉันพูดเคล้าเสียงหัวเราะแต่นายแดเนียลกลับทำหน้านิ่งๆอย่างเดิมเมื่อได้เห็นข้อความในจดหมาย ก่อนที่มือหนาจะเอือมมาดึงแขนฉันให้เซเข้าไปใกล้เขาที่นั่งคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว
"ขึ้นรถเถอะครับ" เขาพับซองจดหมายยัดลงในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของตัวเอง หลังจากนั้นฉันก็ปีนขึ้นมานั่งบนรถแล้วกอดเอวเขาไว้แน่นก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป
ทันทีที่กลับมาถึงห้อง แดเนียลก็รีบเดินตรงไปหัวเตียงแล้วหยิบสองจดหมายอีกสองสามซองที่เพิ่งได้มาเมื่อไม่นานและยังไม่ได้เปิดอ่าน เขาเปิดดูทั้งหมดฉันรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในแววตาของเขา เลยหยิบจดหมายที่เขาอ่านแล้ววางไว้บนเตียงขึ้นมาอ่านบ้าง
'ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับคุณงั้นหรอ?' ฉันอ่านแล้วหยิบอีกแผ่นที่วางอยู่ขึ้นมาดู
'คุณพาเธอไปเจอกลุ่มเพื่อน? เธอคือแฟนสาว? ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวคุณนะ...' แผ่นนี้คงจะได้มาตอนที่เขาพาฉันออกไปเจอกลุ่มเพื่อนของเขาคืนนั้นแน่เลย แต่ฉันจำได้ลางๆเพราะตอนนั้นเมามาก แต่ก็พอรู้ว่าฉันเป็นคนเจอฉบับนี้ มันถูกซ่อนอยู่ตรงมุมกระจกรถ
'เลิกยุ่งกับเธอซะ! ฉันขอเตือน..' ท้ายประโยคมีวาดหน้ายิ้มปิดท้ายด้วยแต่ฉันสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติของเจ้าของรอยยิ้มนี้ แค่อ่านก็เห็นภาพที่แย้มริมฝีปากยิ้มจิตๆของคนวาดลอยขึ้นมาในหัวแล้ว ข้างล่างของจดหมายฉบับนี้ยังมีรูปหัวใจขนาดเล็กกว่าฝ่ามือนิดหน่อยเป็นสีน้ำตาลที่เกือบจะออกสีดำ และกระดาษส่วนนั้นมันก็แข็งๆเหมือนรอยกระดาษที่เปียกน้ำแล้วก็แห้ง ถ้าฉันจะบอกว่ารูปหัวใจบนกระดาษตอนนี้เหมือนเอาเลือดมาวาดมันจะฟังดูจิตไปมั้ย? หรือฉันแค่รู้สึกไปเอง.. แต่เพราะด้วยความอยากรู้มากของฉันเลยยกกระดาษที่ถืออยู่ในมือขึ้นมาแตะจมูกเบาๆ ก่อนที่จะสับขาวิ่งเร็วเท่าที่จะเร็วได้เข้าไปในห้องน้ำพร้อมโก่งคออ้วกพุ่งทันทีเมื่อได้กลิ่นคาวของเลือด ถึงแม้ว่าเลือดจะแห้งจนเป็นคราบแห้งกรังแล้วแต่กลิ่นคาวของมันก็ยังอยู่
"อ้วกกก อ้วกกกกก~~~~" เพราะเมื่อกี๊เผลอสูดเข้าไปเต็มๆ เลยรู้สึกเหมือนจะอ้วกเอากระเพาะออกมาด้วยขนาดนี้
"เมษา..คุณโอเคมั้ย?" แดเนียลรีบวิ่งตามมาลูบหลังให้เบาๆ มือหนาอีกข้างก็ช่วยเก็บผมเผ้าของฉันที่มันหลุดไปถัดหูไว้ให้ ในขณะที่ฉันยังโค่กคออ้วกไม่หยุด อาหารไทยที่กินก่อนหน้านี้ก็ถูกขย้อนออกมาจนหมดไส้หมดพุง ฉันรีบเปิดน้ำกลั้วปากและคอ พยายามสูดหายใจเข้าลึกๆและดึงสติกลับมาเมื่อเผลอคิดไปถึงสิ่งที่อยู่บนกระดาษนั้น
"เป็นไงบ้างครับ? คุณดีขึ้นมั้ย?"
"เลือด!! แดเนียลหัวใจบนกระดาษมันคือเลือด ฉันดมแล้วเมื่อกี๊ นั่นมันกลิ่นคาวเลือดชัดๆ!" เมื่อล้างปากทำความสะอาดจนเรียบร้อยฉันก็รีบบอกเขาด้วยสีหน้าตื่นๆ แต่แดเนียลกลับทำหน้านิ่งเหมือนเดิมไม่ได้มีความตกใจอะไรเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันบอก หรือว่าเขารู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก..
"นายรู้แล้วงั้นหรอ?" ฉันถามพร้อมกับจ้องหน้าแดเนียล
"ครับ แค่ดูจากสีผมพอจะเดาได้ แล้วคุณเอาไปดมทำไมครับ?"
"ก็ฉันอยากรู้นี่นา อี๋....กลิ่นยังติดจมูกอยู่เลยอ่ะ!! ฉันว่าไม่ใช่แค่แฟนคลับธรรมดาแล้วแหละ บอกฉันมาตามตรงนะว่า เธอ..เป็นแฟนเก่านายใช่มั้ย?!!" ฉันกอดอกแล้วจ้องหน้าเขาแบบจริงจัง ต้องใช่แน่ๆถึงได้ตามหึงขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆฉันก็ขอบอกเลยว่าเธอเข้าใจผิดแล้วหละเพราะฉันไม่ใช่แฟนนายนี่! ส่วนเรื่องคืนนั้นมันก็แค่ความผิดพลาด
"ผมไม่เคยมีแฟน"
"งั้นหรอ? ถ้างั้นก็แปลว่าเธอคงจะชอบนายมาก หายากนะแฟนคลับแบบนี้ แต่..เธอดูจิตๆนะว่ามั้ย?"
"คุณอาบน้ำเถอะ จะได้พักผ่อน.." พูดเสร็จแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปทิ้งฉันให้ยืนเอ๋ออยู่ในน้ำคนเดียว แต่สักพักเขาก็กลับมาพร้อมผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืน พาดไว้ให้ที่ราวเสร็จสรรพ
"............"
"หรือว่าคุณต้องการให้ผมอาบด้วยครับ" สัมผัสที่กอดเอวฉันเบาๆและเริ่มรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆเมื่อฉันพยายามออกแรงดิ้นขลุกขลักอยู่อ้อมกอดของเขา
"แดเนียล! นายอย่าเบียดเข้ามาได้มั้ย?!" อีตานี่ดันร่างฉันให้เดินไปติดกับอ่างล้างหน้าและยังยืนประกบหลังฉันอยู่อย่างนั้น กระจกใสบานใหญ่กำลังส่องสะท้อนภาพฉันกับเขาอยู่ตรงหน้า
"เมื่อกี๊คุณคงตกใจมากใช่มั้ยครับ? ต้องการให้ผมจูบปลอบขวัญคุณสักหน่อยมั้ย.." จมูกโด่งก้มลงสูดดมที่ซอกคอฉันเบาๆ ลำแขนแกร่งของเขาที่กอดรัดร่างฉันและแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ด้วย ต่อให้ดิ้นแรงแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะหลุดได้อยู่ดี
"อื้ออออ แดเนียล! นายเลิกทำแบบนี้สักทีได้มั้ย.. ขอร้องหล่ะ!!" ฉันเอียงคอหนีจากหน้าเขาที่ซุกไซร้ตามมาเรื่อยๆ และยังรู้สึกถึงสะโพกหนาที่กดใส่บั้นท้ายของฉันหนักๆด้วย
"ผมชอบกลิ่นของคุณที่สุด เมษา.." ลมหายใจของคนตัวโตเริ่มถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนเขากำลังมีอารมณ์อย่างหนัก แล้วจมูกก็ยังสูดดมตามกลุ่มผมและแก้มของฉันไม่หยุด สักพักก็ยกมือหนาขึ้นมาบีบเค้นที่หน้าอกฉันทั้งสองข้างแรงๆโดยที่แขนแกร่งก็ยังรัดลำตัวและท่อนแขนฉันไว้อยู่
"อ้ะ....อือออ แดเนียล หยุดทำนะ!!" บอกตรงๆว่าร่างกายของฉันตอนนี้มันขยับได้แค่ปากและเปลือกตาเท่านั้น แค่นั้นจริงๆ
"อื้อออออออ" ไม่นานปากหนาก็เคลื่อนมาปิดปากฉันไว้พร้อมกับแรงดูดแม้มหนักๆ มือจากที่สัมผัสหน้าอกฉันผ่านเนื้อผ้าก่อนหน้านี้ก็เริ่มสอดเข้ามาด้านใน ปลายนิ้วแข็งบีบบี้ยอดของมันหนักๆจนฉันต้องเกร็งทั้งตัวเอาไว้ ขาบิดไขว้กันไปมาเพราะบางสิ่งบางอย่างที่มันดุนดันอยู่ที่สะโพกฉัน เขากดร่างทับลงมาทำให้ฉันโน้มตัวลงไปข้างหน้าเล็กน้อย และริมฝีปากร้อนๆที่จูบซับไปตามต้นคอด้านหลังของฉัน มือหนาก็ดันยกทรงฉันขึ้นแล้วบีบเค้นอกหยุ่นแบบที่เนื้อสัมผัสเนื้ออยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ฉันใส่อยู่
"อ้ะ...แดเนียล! ถ้านายไม่หยุดทำ พรุ่งนี้ฉันจะไม่มาค้างกับนายอีกนะ!!"
"คุณขู่ผมหรอ?" เขาชะงักการกระทำทุกอย่างแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันผ่านกระจก
"ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉัน..จะไม่มาจริงๆแน่นอน! ถ้านายยังคิดจะใช้กำลังกับฉันและเอาแต่ใจเห็นแก่ได้อยู่แบบนี้!!"
"คุณว่าไงนะ?? ผมหรอ..ใช้กำลังกับคุณ? พูดผิดแล้วคนสวย ...ผมไม่เคยใช้กำลังกับใคร ถ้าคุณไม่เชื่อ จะคอยดูก็ได้!"
"อ๊ะ!!! ไม่เอา ฉันไม่อยากดู! ไม่อยากรู้! แล้วก็ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น!! แดเนียล!!!" อีตาบ้านี่..มีหูบ้างมั้ย หรือขี้หูเยอะจนปิดรูหูทำให้ไม่ได้ยินเสียงของฉัน!
********* to be continued
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 42
Comments
unknown
ซาแซงแน่ๆ
2023-06-23
0