Ep. 3
1 อาทิตย์ต่อมา
กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
"ไปถ่ายที่ประเทศไทยงั้นหรอ?"
"ใช่ ที่ประเทศไทยบ้านเกิดนายไง" ตอนนี้ผมอยู่ในห้องประชุมและกำลังประชุมเกี่ยวกับงานถ่ายแบบรองเท้าที่มีทั้งหมดห้าแบบ มีทั้งรองเท้าผ้าใบ รองเท้าบูท รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง และสนีกเกอร์แบบหุ้มข้อ แต่ใช้นายแบบถึงห้าคนแล้วทำไมต้องไปถ่ายที่ประเทศไทยอันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ผมมีหน้าที่แค่ใส่และยืนโพสต์ท่าหล่อๆแค่นั้นจบ ส่วนนายแบบที่โดนเลือกตัวแล้วก็นั่งประชุมกันอยู่ในตอนนี้ก็มีแต่คนคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น เพราะทำงานในวงการเดียวกันมาก็หลายปีแล้ว
"เจ้าของแบรนด์ได้เลือกแบบของรองเท้าให้นายแบบแต่ละคนเรียบร้อยแล้วนะ ของแดเนียลเป็นรองเท้าบูท" ผมนั่งฟังแล้วพยักหน้านิ่งๆสำหรับผมรองเท้าแบบไหนก็ได้ แต่ได้รองเท้าบูทก็ดีเหมือนกัน เพราะปกติชีวิตประจำวันผมก็ชอบใส่บูทอยู่แล้ว รู้สึกเป็นตัวเองดี
"เดินทางพรุ่งนี้นะ ขอโทษทีที่แจ้งช้าเพราะเป็นงานด่วน ส่วนเรื่องตั๋ว.. จองให้เรียบร้อยแล้ว เจ้าของแบรนด์เป็นคนจัดการเองทั้งหมด มีใครสงสัยหรือมีคำถามมั๊ย?"
"เจ้าของแบรนด์สายเปย์ขนาดนี้ มีแฟนยังครับ?" ไอ้มาร์คยกมือขึ้นแล้วถามพี่เจ้าของโมเดลลิ่งและทำให้ทุกคนโห่ออกมา แต่เจ้าของแบรนด์ไม่ได้อยู่ในนี้ด้วยหรอก ก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละจะเลือกนายแบบถ่ายแบรนด์ของตัวเองทั้งทีกลับเลือกจากรูป ไม่ขอดูตัวจริงก่อน แปลกคนดี
"ก่อนมึงจะถามว่ามีแฟนยัง มึงถามก่อนมั๊ยว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย" แล้วก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะจากพวกผู้ชายในห้อง ผมเองก็แอบแสยะยิ้มมุมปาก ถ้าคดีพลิกเจ้าของแบรนด์เกิดเป็นผู้ชายขึ้นมา งานนี้ไอ้มาร์คมีเสียวตูดแน่ ฮ่าๆๆๆๆ
"ถ้าอยากรู้มากขนาดนั้น ก็รอเจอที่ไทยทีเดียวไปเลยแล้วกัน ได้เจอแน่นอน"
"ผมอยากรู้ว่าเขาเลือกพวกผมจากการดูรูปแค่นั้นจริงเหรอครับ?" นั่นเป็นคำถามที่ผมเองก็อยากรู้คำตอบเหมือนกันแต่ไอ้คิมถามไปแล้ว
"อืม แค่จากรูป"
"............"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นวันนี้ก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนเตรียมตัวกันได้แล้ว และพรุ่งนี้เช้าเจอกันที่สนามบิน"
End...
เมษา ||Part||
"เมษา การ์ตูน ทำให้เต็มที่เลยนะงานนี้เป็นโอกาสของพวกเธอ"
"แค่ฉันคนเดียวก็ได้นะจริงๆแล้วอ่ะ ทำไมต้องมียัยเมษาด้วย" ยัยการ์ตูนแบะปากแล้วเหล่มองฉันด้วยหางตา
"เขามากันตั้งหลายคน เธอคนเดียวจะเอาอยู่หรือไง หลายคนก็หลายความต้องการ คนนั้นจะเอานี่ คนนี้จะเอานั่น ถ้าแค่เธอคนเดียวพี่รับรองได้ว่าเธอต้องกุมขมับวิ่งหนีกลับบ้านแน่นอน นี่ถ้าเป็นไปได้ยังอยากได้เพิ่มอีกคนเลย"
"งั้นพี่ดรีมก็เปิดรับสมัครล่ามคนใหม่สิคะ" ยัยการ์ตูนพูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนทำให้พี่ดรีมมองแบบจิกตากลับมา
"ทำไมพี่ลองเชื่อใจยัยจิ๊บมันดูบ้างล่ะ ฉันว่ามันทำได้นะ เรียนเอกภาษาเกาหลีมาเลยนี่"
"เฮ้ยๆๆ ไม่เอาอ่ะ พี่เมษา.. พูดอะไรของพี่เนี่ย~" ยัยจิ๊บสะกิดแขนฉันยิกๆเมื่อเห็นว่าฉันเสนอพี่ดรีมไปแบบนั้น ไม่รู้สิฉันรู้สึกว่ามันทำได้นะ อาจจะเก่งกว่าฉันเลยด้วยซ้ำก็เคยบอกไปแล้วว่าฉันน่ะมาเรียนจากข้างนอกด้วยตัวเองเองเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ ส่วนยัยจิ๊บมันเรียนมาโดยตรง ฉันว่ามันทำได้อยู่แล้วอาจจะแค่กลัวเหมือนฉันตอนแรกไง ถ้าให้โอกาสน้องมันได้ลองแสดงศักยภาพดูบ้างฉันว่ามันต้องทำออกมาได้ดีมากแน่ๆ
"โอเค งั้นจิ๊บด้วยนะ! พรุ่งนี้เตรียมตัวมาดีๆล่ะ"
"โหยยย พี่ดรีม.... เอาจริงหรอพี่~~"
"ทำไม? งั้นก็ฝึกงานไม่ผ่าน เลือกเอาจะเอาแบบไหน?"
"เอาน่าจิ๊บ แกทำได้ เชื่อพี่สิ" ฉันยกสองนิ้วให้กำลังใจมันแล้วก็บอกมันไปว่าถ้าเสร็จงานนี้แล้วจะพามันไปเลี้ยงชาบูด้วย ปลุกใจเด็กมันไง
วันต่อมา
ที่ภูเก็ต
"ใครจะไปรับแขกที่สนามบินกับพี่?"
"ฉัน! ฉันไปเองพี่ดรีม"
"งั้น ฝากเมษาดูแลทางนี้ด้วยนะ" ฉันพยักหน้ากลับไปแล้วเดินไปคุยกับทางโรงแรมเรื่องที่พักของเหล่านายแบบและเรื่องรถเช่าที่จองไว้ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้วแต่ก็ต้องคุยรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเพราะแขกที่จะเข้าพักก็มากันเป็นกลุ่มใหญ่แถมยังเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดแล้วก็มาอยู่กันตั้งหนึ่งอาทิตย์เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาทำไง
"พี่เมษา! มากันแล้ว โอ้ย~~ ฉันตื่นเต้นจังเลยอ่ะ" นั่งรออยู่เกือบชั่วโมงสุดท้ายรถตู้คันที่พี่ดรีมกับยัยการ์ตูนนั่งไปก็วิ่งกลับเข้ามาจอดหน้าโรงแรม ฉันกับยัยจิ๊บและทีมงานคนอื่นๆอีกสองสามคนก็พากันออกไปยืนรอต้อนรับ
"อันยองฮเซโย~~"
"กรี๊ดดด อุ๊บ!" ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองยัยจิ๊บที่เผลอกรี๊ดออกมาแล้วรีบเอามืออุดปากตัวเองไว้พร้อมกับแววตาสั่นๆ ทั้งหน้า หูแล้วก็ลำคอแดงเถือกไปหมด
"อะไรยัยจิ๊บ แกกรี๊ดทำไม?" ฉันกระซิบถามมันระหว่างที่เหล่านายแบบและทีมงานฝ่ายนั้นก็ทยอยลงจากรถตู้สีดำเงาวับตรงหน้า
"ก็เขาหล่ออ่ะพี่ ฉันเขินเมื่อกี๊ก็เลยเผลอกรี๊ดออกมา พี่ไม่เขินหรอพี่เมษา?"
"เขิน แต่รู้จักเก็บอาการหน่อยสิ ค่อยไปกรี๊ดในห้องเข้าใจมั๊ย?" เขินสิย่ะ! ใครบอกว่าฉันไม่เขิน นายแบบหล่อๆทั้งนั้น มันคนละฟีลกับนักร้องไอดอลเอ๊าะๆแบบที่ฉันชอบเลยอ่ะ ก็หล่อคนละแนวแหละแค่อันนี้ดูโตขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่ฟีลที่แบบ 'ป้าชอบหนูนะลูก' เหมือนเวลายืนมองไอดอลที่ชอบอ่ะพอจะนึกออกมั๊ย ฮ่ะๆ
"สวัสดีครับ" ฉันเหลือบมองยัยจิ๊บแล้วรีบหยิกแขนมันเบาๆก่อนที่มันจะกรี๊ดออกมาอีกครั้งเหตุเพราะนายแบบคนหนึ่งที่ลงรถมามองสบตากับมันแค่นั้นไม่พอยังขยิบตาให้ด้วยแล้วแถมยังคำทักทายด้วยภาษาไทยที่สำเนียงแปร่งๆนั่นอีก
"เอ่อ..สวัสดีค่ะ" เราทุกคนต่างก็ก้มหัวทักทายกันพร้อมกับยิ้มแย้มต้อนรับอย่างเต็มที่ด้วยความที่ว่าฝ่ายเราเป็นเจ้าบ้าน แต่ทำไมผู้ชายที่ใส่หมวกแก๊ปสีดำคนนี้ถึงได้มองฉันแปลกๆแบบนั้นกันนะ ทั้งที่ฉันก็พยายามฉีกยิ้มให้แล้วแท้ๆแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไงกลับมาเพราะใบหน้าของเขามันถูกปิดบังไว้ด้วยผ้าปิดปากสีขาวอันนั้น
"เชิญทุกคนด้านในก่อนดีกว่าค่ะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ประเทศไทยอากาศร้อนมากจริงๆ ฮิๆๆ" ยัยการ์ตูนเอ่ยขึ้นพร้อมกับป้องมือปิดปากหัวเราะอย่างมีจริตอีกมือก็ผายไปทางด้านในล็อบบี้ของโรงแรมแล้วเดินนำทุกคนเข้าไปก่อนตามด้วยกลุ่มทีมงานและนายแบบ ส่วนฉันก็คอยเดินตามหลัง แต่ผู้ชายคนนั้นจากที่เขาเดินไปก่อนแล้วแต่เหมือนว่าเขาพยายามเดินให้ช้าลงจนกลายเป็นคนที่เดินรั้งท้ายสุดของกลุ่มแล้วก็ปิดท้ายขบวนด้วยฉันอีกที 'หรือว่าเขาต้องการอะไรรึเปล่านะ?' ฉันเดินไปพร้อมกับคิดถึงเหตุผลที่ผู้ชายคนนี้ทำตัวแปลกไปๆด้วย
หลังจากที่เดินเข้ามานั่งในล็อบบี้พวกเราต่างก็แนะนำตัวแต่ละคนอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เลยทีเดียวที่เราต้องใช้เวลาและทำงานร่วมกันอยู่ที่นี่ ยัยการ์ตูนเป็นคนที่แปลเกือบจะทั้งหมดแต่ฉันก็ไม่ได้จะอะไรหรอกก็ดีแล้วเพราะยัยนี่เก่งจริงทั้งคำศัพท์แล้วก็สำเนียงแป๊ะหมดถ้าปิดตาฟังนี่นึกว่าคนเกาหลีที่เกิดและโตในประเทศเกาหลีเลยนะเนี่ย ตอนนี้ทีมพวกเขามีกันประมาณสิบคนพอดีนายแบบห้านอกนั้นก็คงเป็นผู้ดูแลหรือสไตล์ลิสอะไรพวกนั้นล่ะมั้ง แล้วถ้าฉันฟังไม่ผิดจากที่ได้ยินยัยการ์ตูนคุยกับฝ่ายนั้นเมื่อกี๊จับใจความได้ว่าเจ้าของแบรนด์รองเท้าจะตามมาดูการถ่ายงานพรุ่งนี้ แต่ถูกผิดยังไงเดี๋ยวรอฟังยัยการ์ตูนแปลให้อีกทีดีกว่า
"เอ่อนี่ทุกคน คือเมื่อกี๊คุณลีเขาบอกว่าเจ้าของแบรนด์รองเท้าเนี่ย จะตามมาพรุ่งนี้ พี่ดรีมมีอะไรอยากจะคุยเพิ่มเติมมั๊ยคะ การ์ตูนจะได้ถามให้" ฉันกับยัยจิ๊บแอบส่งสายตาให้กันแล้วอมยิ้มออกมาเพราะเสียงที่ยัยการ์ตูนพูดเมื่อกี๊ถึงแม้จะพูดภาษาไทยแต่ก็ยังฟังดูแอ๊บๆยังไงไม่รู้ แต่ก็เข้าใจแหละว่ามันเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆการทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูเข้าไว้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าว่าผู้หญิงเลยผู้ชายก็เหมือนกัน ชอบเก๊กเท่เวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงไม่ใช่หรือไง.. เอ๊ะ! เขามองฉันอีกแล้ว หรือฉันควรจะถามเขาออกไปเลยว่ามีปัญหาอะไร หรือต้องการให้ช่วยเหลืออะไรรึเปล่า
จึกๆๆ
"มีอะไรหรอเมษา?" ยัยการ์ตูนหันมาพูดเสียงหวานกับฉันทันทีที่ฉันสะกิดแขนมัน รู้สึกขนลุกชะมัด ก็ปกติยัยนี่พูดแบบนี้กับฉันซะเมื่อไหร่กันล่ะ
"แกลองถามเขาดิ ว่ามีใครต้องการอะไรเพิ่มเติมรึเปล่า หรือมีปัญหาอะไรให้ช่วยมั้ยอะไรแบบนี้อ่ะ"
"โอ้ยย~ เรื่องแค่นี้ฉันไม่จำเป็นต้องรอให้แกมาบอกหรอกนะเมษา ถึงแกไม่พูดฉันก็กะจะถามอยู่แล้วย่ะ!" ยัยการ์ตูนกระซิบตอบกลับมาแล้วแอบเบะปากใส่ฉัน ฉันเองก็เบะปากใส่มันกลับไปเหมือนกัน แล้วก็รอดูว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดหรือจะถามอะไรรึเปล่า แต่เขากลับไม่พูดแล้วก็ยังเอาแต่นั่งมองหน้าฉันอยู่ได้ จนฉันต้องจ้องเขากลับแล้วก็ขมวดคิ้วใส่เบาๆ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าฉันไม่ชอบสายตาและการจ้องมองแบบนั้นของเขา...
******* to be continued

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 42
Comments