Ep. 11
" ไม่ดีใจหรอ? ที่พี่กลับมาเร็ว " ผู้ชายตัวโตที่กำลังทำหน้าที่ขับรถอยู่ถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่นั่งเงียบ
" แล้วตกลง..คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? "
" เพิ่งมาถึงเลยครับ แล้วก็มารับพริ้มนี่ไง " เขาพูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม จากนั้นก็ขับต่อไปเรื่อยๆสักพักถึงได้จอดลงที่หน้าคอนโดฉัน
" ขอบคุณนะคะ " ฉันพูดพร้อมกับมือที่กำลังจะเปิดประตูรถออก แต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของเขาซะก่อน
" พี่หิวน้ำจัง คอแห้งอ่ะขอขึ้นไปกินน้ำหน่อยได้มั้ย?" ถ้าฉันปฏิเสธเขาอาจจะเอาเรื่องที่ขับรถมาส่งฉันขึ้นมาอ้างก็ได้ ตั้งแต่ช่วงนั้นที่เรายังคุยกันเขาก็เคยมาที่คอนโดฉันบ้าง อ้างสารพัดที่จะให้ฉันลงมาเจอเขาให้ได้ อย่างเช่น ซื้อขนมมาฝากบ้าง บางครั้งก็บอกว่าทางผ่านไปทำธุระก็เลยแวะมาบ้าง เพื่อจะมาเจอฉัน แต่ฉันจะเป็นคนลงมาเจอเขาเองตลอดไม่เคยที่จะให้เขาขึ้นไปเลยสักครั้ง และเขาก็ไม่เคยเอ่ยปากขอเหมือนอย่างตอนนี้ด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดแบบนี้ มันก็เลยทำให้ฉันคิดหนักนิดนึง
" มาถึงไทยปุ๊บก็ขับรถไปรับสาวปั๊บ แต่แค่ขอน้ำกิน...เขากลับไม่ให้ เฮ้ออออ " เขาพูดแล้วยกมือขึ้นเสยผมเหมือนคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ผิดหวังอย่างแรง ซึ่งฉันก็รู้อยู่แล้วแหละว่าเขาแค่เสแสร้ง แต่ ' แค่ขึ้นไปดื่มน้ำ...คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง '
" เฮ้อออ ขึ้นไปดื่มน้ำก่อนสิคะ " ฉันตัดสินใจพูดเอ่ยชวนเขา แล้วรีบเปิดประตูรถลงไปทันที ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็รีบเดินตามหลังมาติดๆ
" ชั้นไหนหรอ พี่กดให้ " เขาขยับเข้ามายืนซ้อนหลังฉันแล้วยื่นมือแกร่งออกมาเพื่อจะกดลิฟท์ แต่ด้วยท่วงท่าของเขามันทำให้กลายเป็นเหมือนว่าเขากำลังกอดฉันจากด้านหลังอยู่ก็ไม่เชิง เพราะเขาขยับมาใกล้ซะจนฉันรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังของฉันตอนนี้กำลังเบียดอยู่กับแผ่นอกตึงแน่นไปด้วยมัดกล้ามของเขาและดูเหมือนว่าเขาตั้งใจลงแรงเบียดเพิ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ฉันก้าวขาขยับเดินหน้าออกมานิดหน่อยเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา รีบกดลิฟท์แล้วขยับตัวออกซึ่งรอบนี้เขาเองก็ยอมขยับห่างออกไปเช่นกัน
ติ๊งงงงงงง~~
เมื่อลิฟท์เปิดออกฉันก็รีบเดินหนีออกมาทันทีระหว่างที่อยู่ในลิฟท์นั้นฉันไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลยสักคำ เขาเองก็เอาแต่มองแล้วก็อมยิ้มจนฉันเริ่มจะหมั่นไส้ขึ้นทุกที จนมาถึงห้องซึ่งเขาเองก็เดินตามเขามาช้าๆ และจากหางตาของฉันที่เหลือบมองทำให้รู้ว่าเขากำลังมองสำรวจห้องของฉันอยู่ในตอนนี้เพราะสายตาของเขาที่มองไปรอบๆห้องด้วยความสนใจ
"ชอบสีฟ้าหรอ ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ ผ้าพันคอที่พี่ซื้อให้รอบนู้นมันเป็นสีชมพูนี่ สีหน้าของพริ้มตอนที่รับมันไป ....พี่นึกว่าพริ้มชอบสีชมพูซะอีก" เขาเคยซื้อผ้าพันคอจากเวียดนามเมื่อตอนที่เขาไปทำงานที่นั่นมาฝาก ซึ่งฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบสีชมพูหรอกนะ เพียงแต่ว่าชอบสีฟ้ามากกว่าก็แค่นั้นเอง แล้วอีกอย่างความรู้สึกของฉันตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นของชิ้นไหนจะมีค่ามากหรือน้อยแค่ไหนหรือว่าสีอะไรถ้าได้รับจากเขาก็ชอบหมดนั่นแหละ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไปจากคำถามเมื่อกี๊
" น้ำค่ะ " ฉันยื่นแก้วน้ำให้เขา หวังว่าเมื่อเขาได้ดื่มแล้วก็คงจะรีบกลับไปสักที เพราะสายตาของเขาตอนนี้เริ่มทำให้ฉันรู้สึกหวั่นๆขึ้นมาแล้วหล่ะ เขารับน้ำไปดื่มจนหมดแก้วก่อนจะยื่นคืนมาให้ฉัน แต่เมื่อฉันหันหลังกลับกำลังจะเอาแก้วไปเก็บ แขนแกร่งของเขาก็รวบตัวฉันเข้าไปกอดไว้ซะก่อน
ปึกกกกก!!!
แรงที่เขากระชากตัวฉันไปกอดไว้จนแผ่นหลังฉันชนเข้ากับอกหนาจนมันเกิดเสียงกระแทก แน่นอนว่าฉันต้องตกใจอยู่แล้ว อยู่ๆก็มาทำแบบนี้ เมื่อกี๊ฉันแทบจะกรี๊ดออกมาอยู่แล้วแต่ก็พยายามตั้งสติเอาไว้
" ทำไมพริ้มต้องเกร็งเวลาอยู่กับพี่... พี่ไม่ชอบเลยอ่ะ ที่พริ้มทำท่าทางแบบนี้ เหมือนกลัวพี่ มันทำให้พี่รู้สึกเหมือนเป็นคนอื่นสำหรับพริ้ม " เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบพูดกับข้างหูของฉัน
" คุณ..ช่วยปล่อยฉันก่อนได้มั้ย " มือของฉันที่ถือแก้วน้ำไว้ก็พยายามที่จะแกะมือและแขนที่เขาใช้รัดตัวฉันออกด้วย
" แล้วนี่ก็เหมือนกัน เมื่อไหร่จะเลิกเรียก คุณๆ ฉันๆ สักที ทำไมไม่แทนตัวเองว่าพริ้มแล้วเรียกพี่ว่า พี่ เหมือนเมื่อก่อนล่ะ "
" ตอนนั้นคุณใช้เวลาแค่ไหนคะ? กว่าที่ฉันจะยอมทำแบบว่าที่คุณว่า แล้วอีกอย่างตอนนี้มันก็ไม่เหมือนกัน ฉันยังไม่สะดวกใจที่จะพูดแบบนั้น.. "
" พริ้มยังโกรธพี่เรื่องนั้นอยู่อีกหรอ? ถ้าพี่ขอโทษอ่ะ จะให้พี่ขอโทษพริ้มกี่ครั้งก็ได้ หรือจะให้พี่ทำอะไรพี่ทำให้ได้หมดเลย ขอแค่พริ้ม.. " ฉันยังเงียบรอฟังเขาอยู่ว่าเขาจะขออะไรจากฉันอีก ขอโอกาสก็ให้โอกาสแล้ว เพราะไม่งั้นเขาไม่ได้มายืนอยู่ในห้องฉันแบบนี้แน่ แต่เขายังไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วค่อยๆรั้งร่างของฉันให้เดินถอยหลังตามเขาไปเรื่อยๆจนเขาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลและรั้งตัวฉันให้นั่งซ้อนบนตักเขาไว้อีกที มือก็ยังกอดเอวฉันไว้อยู่อย่างนั้น
" ตอนนี้พี่รู้สึกว่าพริ้มกำลังปิดกั้นพี่ ถึงพริ้มจะบอกว่าให้โอกาสแต่พี่รู้ว่าพริ้มยังไม่ได้เปิดใจให้พี่จริงๆ " เขาเข้าใจถูกแล้ว และฉันก็เคยบอกไปแล้วว่าจะไม่ยอมลงลึกความรู้สึกกับเขารวดเร็วเกินไปเหมือนครั้งนั้นอีก เราเพิ่งจะกลับมาคุยกันอีกครั้งแค่ไม่กี่วันนี้เอง จากเหตุการณ์ครั้งก่อน..มันก็ต้องมีบ้างที่ฉันจะสร้างเกราะให้ตัวเอง ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งคำพูดของเขาทำให้ฉันเกือบจะยอมพ่ายแพ้ให้ทั้งหมดก็เถอะ
" พี่กลัวว่า หากมีผู้ชายเข้ามาจีบพริ้ม แล้วพริ้มเกิดถูกใจเขามากกว่าพี่ขึ้นมา และถ้าพริ้มไปพี่ก็ต้องกลายเป็นคนอกหัก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเรามันแทบไม่มีหลักประกันอะไรให้พี่มั่นใจได้เลย " เขาพูดอย่างตัดพ้อแล้วใช้ปลายจมูกสะกิดที่แก้มฉันเบาๆ ฉันพยายามเอียงหน้าหนีแต่เขาก็ยังยืดตัวยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วกดจมูกสูดดมแก้มฉันแรงๆ ด้วยความเร็ว
" อื้ออออออ " ฉันเอียงหน้าหลบมาอีกทางเมื่อเขาทำท่าจะหอมแก้มฉันอีกข้าง
" ตัวพริ้มหอมจัง " ฉันไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไงในตอนนี้เพราะเขากำลังฝังหน้าลงกับแผ่นหลังของฉัน บางอย่างที่แข็งขึงก็กำลังดันบั้นท้ายฉันอยู่ตอนนี้ ถึงแม้ว่าฉันพยายามจะไม่คิดว่ามันคือสิ่งนั้น แต่มันก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆ
" ปล่อยก่อนได้มั้ยคะ? " ฉันบอกเสียงสั่นเพราะเริ่มกลัวทั้งใจเขาและใจตัวเองด้วย แล้วพยายามขยับตัวลงจากตักเขา
" อืออออ พริ้ม...นิ่งๆก่อนได้มั้ย อย่าเพิ่งขยับ นะ..." เขาพูดพร้อมกับกอดรัดฉันแน่นขึ้น และสูดดมแผ่นหลังของฉันแล้วตอนนี้ก็ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆจนเกือบจะฝังหน้าไว้ที่ซอกคอฉันอยู่แล้ว
" คุณกำลังทำให้ฉันกลัว.... "
" ถ้าพริ้มยังไม่พร้อมที่จะเลื่อนสถานะกับพี่ตอนนี้ พี่ก็เข้าใจ แต่...ขอจูบมัดจำไว้ก่อนได้มั้ย? ได้มั้ยครับ.. " ฉันยอมรับเลยว่าผู้ชายคนนี้เขามีเทคนิคและวิธีการเล้าโลมที่น่าใจสั่นมาก ฉันพยายามฝืนตัวเองแต่ใจมันก็เหมือนจะคล้อยไปตามการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขา
เขาผลักตัวฉันให้นอนลงบนโซฟาเบาๆก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาหาแล้วประกบปากจูบกับฉัน จูบของเขามันทั้งละมุนแล้วก็นุ่มนวล ความตั้งใจที่จะปฏิเสธและความคิดอะไรต่างมันถูกละลายหายไปจากหัวฉันทั้งหมดเพราะจูบของเขาตอนนี้ ริมฝีปากที่ขยับดูดดึงอย่างอ่อนโยนทำให้ใจฉันแทบจะละลาย หูอื้อหัวโล่งทุกอย่างมันขาวโพลนไปหมด เขายังขยับจูบอยู่อย่างนั้นไม่หยุด มันปฏิเสธยากมากจริงๆที่จะบอกว่าฉันไม่ชอบจูบของเขา เพราะรสจูบนี้มันดีมากจนมีความรู้สึกหนึ่งที่มันวูบเข้าในหัวฉัน 'ไม่อยากให้เขาหยุดเลย' ลิ้นหนาที่ไล่กวาดต้อนรัดดึงลิ้นของฉันอยู่ตอนนี้ก็เหมือนกัน เพราะฉันไม่มีประการณ์ที่โชกโชนเหมือนเขามาก่อนเลยไม่รู้จริงๆว่าจะต้องตอบโต้เขายังไง จึงได้แต่ปล่อยให้เขาดูดลิ้นของฉันอยู่ฝ่ายเดียว ฝ่ามืออุ่นๆของเขาก็บีบขย้ำอยู่ที่เอวของฉัน ค่อยๆลูบไล้ไล่มาที่หน้าท้อง ตัวฉันเริ่มสั่นขึ้นมานิดหน่อยเพราะสัมผัสของเขา ...มันกำลังทำให้ฉันแทบจะลืมสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้
" อึกกกกก พอเถอะค่ะ! " เมื่อมือใหญ่เขาของเริ่มเลื้อยขึ้นมาถึงส่วนบนซ้ำยังลูบไล้ไปมาอยู่ที่ทรวงอก ทำให้ฉันฝืนสติตัวเองอีกครั้งแล้วรีบผลักเขาออกห่างและดีดตัวลุกขึ้นหนีจากตักเขาทันที เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวและอันตรายจริงๆ
" พี่จองไว้แล้วนะ " ประโยคนั้นที่ออกมาจากปากเขาทำให้ฉันต้องหันหลังกลับไปมองและเห็นว่าเขากำลังนั่งฉีกยิ้มจนตาหยีอย่างชอบใจ ฉันเลิกสนใจแล้วเดินไปเปิดประตูห้องออกเพื่อให้เขารู้ตัว ว่าควรออกไปได้แล้ว
" ถึงกับไล่พี่เลยหรอ? ทำงานมาเหนื่อยๆยังไม่ทันจะได้ซบอกให้หายเหนื่อยเลย " ตอนนั้นฉันก็แค่พิมพ์ตอบเขากลับไปเล่นๆเพราะกว่าเขาจะกลับไทยก็อีกตั้งหนึ่งอาทิตย์และคิดว่าเขาต้องลืมมันไปแล้ว แต่กลายเป็นว่าเขาดันจำได้อยู่ แล้วก็เอามาพูดเล่นพูดล้อฉันอยู่นี่ไง ตั้งแต่อยู่ที่หน้าบริษัทแล้วนะ
" หน้านิ่งแต่แก้มแดงนะเนี่ย " เขาเดินตามมาที่หน้าประตูแล้วหันมาพูดกับฉัน และก่อนจะออกไปก็ยังขยับมากระซิบที่ข้างหูยั่วฉันอยู่อีก
" จูบพริ้มหวานมาก พี่ชอบ... "
ปังงงงงงงงงงงง!!!
" เฮ้ออออออ อีพริ้มเอ้ยย! " ฉันกระแทกประตูปิดใส่หน้าเขาทันทีก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง โล่งเพราะเขาออกไป ถ้าเขายังอยู่ที่นี่...ฉันเองก็อาจจะต้านทานอารมณ์ตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน
End....
กองทัพ ||Part||
ระหว่างทางที่ขับรถกลับมาบ้าน ทั้งสีหน้าและแววตาของพริ้มมันก็ยังฝังอยู่ในหัวผม ผู้หญิงอะไรยั่วให้ผมอยากทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ความหวานจากรสจูบของเธอก็ยังคลุ้งอยู่ในปากผม ไม่อยากหยุดจูบเลย
" กองทัพลูก..ทำไมหนูไม่เห็นบอกแม่เลยครับว่าจะกลับมา นี่แล้วหนูกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับลูก? " เมื่อแม่เห็นผมเดินเข้ามาในบ้านก็รีบเดินเร็วๆเข้ามาหาผมทันทีสีหน้าทั้งตื่นเต้นและดีใจ และก็อย่างที่ทุกคนเห็นนั่นแหละ แม่กับยายชอบเรียกผมว่าหนูตั้งแต่เด็กๆแล้ว พอโตขึ้นเป็นวันรุ่นก็ยังเรียกแบบนี้อยู่ จนผมอายเพื่อนสั่งห้ามไม่ให้แม่กับยายเรียกผมแบบนั้นอีก พวกท่านก็เลิกเรียกผมว่าหนูแต่ดูเหมือนว่าท่านทั้งสองจะซึมๆหง่อยๆไปเลย จนผมต้องอนุญาตให้กลับมาเรียกว่าหนูเหมือนเดิม ถึงค่อยกลายมาเป็นมาเป็นแม่กับยายคนเดินของผมได้
" สวัสดีครับ ผมเพิ่งกลับมาวันนี้ครับแม่ ขอโทษครับที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า แล้วยายอยู่ไหนครับ? "
" ยายนั่งอยู่ศาลาหลังบ้านครับลูก แล้วคืนนี้หนูจะนอนที่กับแม่หรือเปล่าครับ? " มือแม่ยังลูบหน้าลูบแก้มผมไม่หยุดและผมเองก็ต้องยืนก้มโค้งตัวอยู่อย่างนั้นเพื่อให้แม่ยื่นมือมาถึง
" น่าจะนอนที่นี่แหละครับ " ผมตอบพร้อมกับก้มหน้าไปหอมแก้มแม่เบาๆ
" เมื่อไหร่แกจะหาเมียของตัวเองสักทีวะ มาแย่งหอมแก้มเมียฉันอยู่ได้ " เสียงนั้นไม่ใช่ตาแก่ที่ไหนหรอกครับ แต่เป็นพ่อผมเอง เป็นลูกครึ่งเกาหลี-ออสเตรเลีย แต่มาฝึกพูดภาษาเพื่อจะจีบแม่ผม เคยได้ยินแม่เล่าให้ฟังว่างั้นนะ ผมหันไปมองแล้วยั่วอวัยวะเบื้องล่างของพ่อด้วยการก้มลงไปหอมแก้มแม่อีกข้าง
" ก็แก้มเมียพ่อมันห๊อมหอมนี่ครับ " แล้วยังแกล้งต่อด้วยการทำปากจู๋แล้วขยับยื่นเข้าไปใกล้ๆ
" เฮ้ยๆๆๆ พอเลยๆ มึงพอเลย!! แก้มได้..แต่ปากห้าม! " พ่อรีบร้องห้ามทำหน้าตาจริงจังจนผมหลุดขำออกมา
" เลิกแกล้งพ่อเขาได้แล้วน่า หนูเอาของไปเก็บก่อนนะครับ แล้วค่อยลงมาทานข้าวกัน "
" ขัดกับบุคลิกมันเหลือเกิน! โตเป็นควายแต่เรียกหนู! " เสียงพ่อไล่ตามหลังมาเมื่อผมกำลังเดินขึ้นบันได แล้วยังได้ยินเสียงพ่อร้องโอดโอยที่โดนแม่ฟาดด้วย ถึงจะไม่ได้เห็นแต่รู้ว่าคงจะแสบแน่นอน เพราะแม่ไม่ชอบให้พูดคำหยาบแบบนั้นไงครับ ถ้าแม่ได้ยินผมพูดบ้างก็คงโดนไม่ต่างจากพ่อเมื่อกี๊นี้แน่นอน
********* to be continued
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 41
Comments