Ep. 18
' เวรแล้วไง! กู '
ผมหันไปมอง ก่อนจะเห็นลมหนาวจริงๆและข้างๆเธอเป็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่ง แต่..ไอ้ผู้ชายนี่แม่งทำไมผมรู้สึกคุ้นๆวะ เดี๋ยวนะ! นี่มันไอ้ผู้ชายที่ไปเที่ยวด้วยกันที่พัทยาแล้วแถมยังถ่ายรูปลงโซเชี่ยลด้วยกันอีกรึเปล่าวะ
" อ้าว คุณซันก็มาด้วยหรอคะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะตั้งแต่จบทริปที่พัทยา ^^ "
กูว่าแล้วไง! คิดไว้ไม่มีผิด ผมมองเคืองใส่ยัยซื่อบื้อแต่ยัยนั่นกลับเบือนหน้าหนีผม ไม่สบตาแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำหน้ายังไงเมื่อครู่นี้ ยัยนี่ทำให้อารมณ์ผมขึ้นง่ายมาก นี่ถ้าอยู่กันสองคน บอกไว้เลยว่าเธอได้เจ็บตัวแน่ แต่ตอนนี้ทำได้แค่กำมือที่มันกำลังสั่นเอาไว้แน่นๆ
End.
ลมหนาว ||Part||
" ครับ แล้วนี่คุณมาร์กี้เมื่อกี๊ได้ยินว่ามาซื้อแหวนหมั้น อย่าบอกนะครับว่า.... " มาร์กี้ไม่ได้ตอบคำถามคุณซันออกมาทันที เธอเอาแต่เงียบแล้วส่งสายตาที่สื่อถึงบางอย่างมองมาที่ฉันซึ่งฉันอ่านมันไม่ออกหรอกนะ หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองคู่หมั้นของเธอ และฉันก็เห็นผ่านหางตาว่าเขากำลังมองมาทางฉันอยู่เหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้สบมองเขากลับไปหรอก ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา อยู่ตรงนี้นานๆแล้วฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาแล้วสิ ใครจะหมั้นกับใคร ใครจะซื้นแหวนให้ใครก็ช่างเขาเถอะ
" เดี๋ยวพวกเราขอตัวก่อนนะ ตั้งใจจะมาดูหนังอ่ะ เดี๋ยวไม่ทัน ไปกันเถอะค่ะคุณซัน ไข่หวาน " พูดเสร็จก็จูงมือทั้งสองคนเดินออกมาทันที
" ลมหนาว คุณโอเครึเปล่า " แว๊บแรกฉันรู้สึกตกใจนิดหน่อยคิดว่าคุณซันจะรู้เรื่องความสัมพันธ์บ้าๆของฉันกับเขา และระหว่างเขากับมาร์กี้ซะแล้ว แต่คงไม่ใช่หรอก เขาจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่เคยเห็นคุณมังกรซะหน่อย
" เรื่องอะไรคะ? "
" ก็เห็นว่าคุณสีหน้าไม่ค่อยดี หรือว่าคุณหิวแล้ว งั้นเราไปกินข้าวกันก่อนก็ได้นะครับแล้วค่อยไปดูหนังกันทีหลัง "
" หวานว่าหวานรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนเมื่อกี๊มากเลยนะคะ แต่ก็นึกไม่ออกสักที ว่าเคยเจอที่ไหน " ส่วนไข่หวานเธอเคยเจอเขาเมื่อนานมาแล้ว หลายเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เขาเคยไปส่งฉันที่บริษัท วันนั้นบังเอิญเจอไข่หวานพอดี แต่เธอคงจำไม่ได้หรอกเพราะมันนานมากแล้ว
พวกเราใช้เวลาหลังเลิกงานไปกับการดูหนัง ทานข้าว เดินเล่นกันเพราะอยู่ๆสองคนนี้ก็ชวนมาด้วย ซึ่งฉันเองก็ยังไม่อยากกลับห้องเหมือนกัน อยู่คนเดียวบ่อยๆแล้วมันก็ชอบคิดมาก ได้ออกมาผ่อนคลายข้างนอกแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่ตอนนี้ข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู ก็เห็นว่ามันเพิ่งจะสองทุ่มกว่าๆเอง ทำไมฉันรู้สึกเริ่มง่วงแล้วนะวันนี้ สงสัยสองแสบของฉันงอแงอยากจะพักผ่อนซะแล้วหล่ะ
" ทุกคนวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีมั้ย ฉันเหนื่อยแล้วอ่ะ อยากนอนพักแล้ว หรือว่าเดี๋ยวฉันขอกลับก่อนแล้วสองคนจะเที่ยวกันต่อก็ได้นะ " ฉันพูดออกมาระหว่างที่เรากำลังเดินไปแถวโซนตู้เกมส์ เพราะสิ่งที่วางแผนกันไว้วันนี้คือ กินข้าว ดูหนัง เล่นเกมส์ แต่ฉันไม่ไหวจริงๆอ่ะ ตาจะปิดอยู่แล้ว
" งั้นก็กลับพร้อมกันเลยดีกว่าครับ เดี๋ยวผมไปส่ง "
ระหว่างที่นั่งรถกลับฉันตั้งใจว่าจะงีบสักหน่อย แต่พอเอาเข้าจริงๆมันก็หลับไม่ได้ แค่หลับตาในหัวมันก็คิดไปเรื่อย คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นนี้ ถ้าฉันเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ ฉันจะเป็นยังไง แล้วฉันควรจะทำอะไรต่อไป ก็ได้แต่หวังว่าถ้าเสร็จสิ้นงานนิทรรศการนี้ ฉันจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาสองคนอีกแล้วนะ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไปเถอะ
เอี๊ยดดดดดดด~~
" ถึงแล้วครับลมหนาว " เมื่อได้ยินเสียงเรียกฉันจึงลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าตอนนี้รถจอดอยู่ที่หน้าคอนโดฉันแล้ว
" ขอบคุณค่ะ คุณซัน ไข่หวาน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ " ฉันเปิดประตูลงจากรถ บอกลาเสร็จสรรพแล้วก็รีบเดินขึ้นห้องทันที
แกร๊กกกกกกก
เปิดตูไม่ได้ล็อค!! อย่าบอกนะว่าเขามาอีกแล้ว ให้ตายสิ! ต่อให้เปลี่ยนรหัสเป็นร้อยรอบ เปลี่ยนคีย์การ์ดไปกี่ใบกี่ใบ ก็ไม่วายเขาไปเสาะหาหนทางมาจนได้สินะ ฉันไม่ได้อยากรู้วิธีของเขาหรอกว่าเขาทำยังไง อยากรู้แค่ว่าเมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ซักที
เดินเข้ามาภายในห้องก็เห็นเขานั่งอยู่ที่โซฟา แต่ฉันไม่ได้มองเขากลับไปสักตาเดียว พยายามที่จะไม่สนใจเขาแล้วรีบเดินเร็วๆผ่านโซฟาเข้าห้องนอนไป
" ลมหนาว!! ลมหนาว!! " ได้ยินเสียงเรียกจากเขาบวกกับเสียงฝีเท้าที่เดินไล่หลังมาติดๆแต่ก็คิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ฉันถึงได้รีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที จะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
ปังงงงงงงงง!!!!
" ลมหนาว!!! "
ปั่กกก ปั่กกกก!!!
ได้ยินเสียงทุบประตูหน้าห้องน้ำอยู่สอง สามที แล้วเสียงทุกอย่างก็เงียบลง ห้ามร้องนะลมหนาว อย่าอ่อนแอ ห้ามให้น้ำตาไหลลงมาเด็ดขาด ' ลูกจ๋า ช่วยเป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะ หนูสองคนจะไม่โกรธแม่ใช่มั้ย ถ้าหนูต้องเกิดมาโดยที่ไม่มีพ่ออย่างเด็กคนอื่นๆ แต่ถึงยังไงแม่ก็จะรักและเลี้ยงหนูสองคนให้ดีที่สุด ฮึกก~ แม่รักหนูนะ ได้โปรดเข้าใจแม่ด้วย ' ฉันลูบเบาๆบนหน้าท้องที่เริ่มนูนออกมานิดๆ เพื่อสื่อสารกับลูกรักทั้งสองผ่านความรู้สึกของฉัน
จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานที่ฉันขังตัวเองในห้องน้ำ ใจจริงถ้าเขายังอยู่ข้างนอกฉันอยากจะนอนในห้องน้ำนี่เลยด้วยซ้ำ กลัวว่าเขาจะใช้กำลังกับฉันจนเผลอทำร้ายลูกอีก ถ้าเขากลับไปแล้วก็คงดี แต่ทว่า...พอเปิดประตูออกมาก็ยังเห็นเขานั่งอยู่บนเตียง ฉันเผลอสบเข้ากับสายตาของเขาที่เหมือนจะจดจ่อที่ประตูห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะรีบเบนสายตามองไปทางอื่นแทน
' เกือบไปแล้วลมหนาว แต่...สายตาของเขาเมื่อกี๊มันหมายความว่าไงกัน? ไม่ๆๆลมหนาวอย่าใจอ่อนเด็ดขาด เธออย่าลืมสิ ว่าเขาน่ะเล่นครเก่งที่หนึ่งเลยนะ ' ฉันคิดว่าจะได้เห็นสายตาแข็งกระด้างของเขาหรือไม่ก็แววตาประกายไฟลุกโชนที่พร้อมจะระเบิดอยู่ตลอดเวลาอย่างที่เขาชอบทำนั่นซะอีก แต่เมื่อกี๊มันไม่ใช่ แววตาคู่นั้นของเขาดูอ่อนลงอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน สายตาเว้าวอนนั้นยังส่งมาให้ฉันไม่หยุด ชักจะเริ่มทำตัวไม่ถูกกับสายตาของเขาที่เอาแต่จ้องมองดูทุกการกระทำของฉันนั่นแล้วนะ แต่ถ้าฉันทำเมินอยู่อย่างนี้ไม่นาน ถ้าทนไม่ไหวเขาก็คงจะออกไปเองนั่นแหละ
ฉันเดินไปปิดไฟทั่วห้องก่อนจะปีนขึ้นเตียงนอน ฉันรู้ตัวเองดีว่าจริงๆแล้วฉันก็แค่ทำเก่งไปอย่างงั้นแหละ แต่ลึกๆก็แอบกลัวเขาอยู่ ใจสั่นสะท้านเป็นห่วงสองแฝดกลัวว่าถ้าเผื่อเขาโมโหหรือโกรธที่ฉันทำอย่างนี้จนเผลอใช้กำลังทำรุนแรงกับฉันขึ้นมาจะทำยังไง แต่...ผิดคาด แสงไฟสลัวจากข้างนอกทำให้ฉันเห็นเงาของเขาเดินเบาๆมานั่งลงที่ข้างเตียง
พรึ่บบบบ!! หมับบบบบบ
ฉันรับรู้ได้ถึงเงาที่บดบังแสงสลัวตรงหน้าก่อนที่ฉันจะหลับตาลงเบาๆ เขาจะทำอะไรอีก จู่ๆมือของฉันก็ถูกมือใหญ่ดึงไปกุมไว้ ฉันลืมตาขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือตัวเองไปอยู่ในอุ้งมือใหญ่ของเขาแล้วเรียบร้อย
" เธอ......เป็นอะไร "
" ............................ "
" แม่งไม่ชอบเลยว่ะ ที่เธอเป็นแบบนี้ "
" ........................... "
" เรื่องฉันกับมาร์กี้ก็บอกว่าเป็นเพราะคุณปู่จริงๆ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องหมั้นกับมาร์กี้ ยัยนั่นก็เหมือนกัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าฉันกับยัยนั่นไม่ได้หมั้นกันเพราะฤทธิ์พิศวง พิศวาสอะไรทั้งนั้นอ่ะ "
" ......................... "
" ลมหนาว...เธอพูดอะไรสักหน่อยสิ ไม่เป็นแบบนี้ได้มั้ย ฉันอึดอัดนะ " ฉันหูฝาดไปรึเปล่าที่ได้ยินว่าเสียงของเขาตอนนี้มันฟังดูเหมือนจะสั่นๆ
" ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไร แล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ถ้าเธอรู้ก็ช่วยบอกฉันให้รู้ทีได้มั้ยวะ ทำไมฉันต้องรู้สึกอึดอัดที่เธอทำแบบนี้ มันกินข้าวไม่อร่อย ไม่อยากทำอะไรที่ต้องทำ ในหัวฉันมันก็มีแต่หน้าเธอลอยไปลอยมาในความคิดทั้งวัน จะทำอะไร จะไปไหนก็เห็นแต่หน้านิ่งๆ แววตาเศร้าๆของเธออ่ะ แบบนี้มันคืออะไรวะ "
" ........................ " มาถึงตอนนี้ฉันรู้สึกว่าลมหายใจเริ่มสะดุดไปชั่วขณะ หัวใจเต้นรัวเหมือนมีคนตีกลองอยู่ข้างในอกนี้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังปิดปากเงียบอยู่ดี และเอาแต่ทิ้งสายตาไปที่แผงอกของเขาตลอดเวลาเพราะไม่กล้าพอที่จะสบตากับเขาตอนนี้ กลัวว่าอะไรๆที่ฉันตั้งใจเอาไว้มันจะพังครืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า
" ฉันไม่ชอบเลยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ อยากเธอเป็นแบบเมื่อก่อนว่ะ " เสียงของเขาคล้ายจะแหบลงจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเขาเลยด้วยซ้ำ
" ทำไมฉันรู้สึกเจ็บตรงนี้เวลาที่เธอทำเป็นเมินกัน " มือของฉันถูกมือใหญ่ดึงไปทาบไว้กับอกข้างซ้าย จนรู้สึกถึงก้อนเนื้อที่เขาเรียกกันว่า 'หัวใจ' มันกำลังเต้นแรงอยู่ข้างในอกกว้างนั้น
" ไม่เป็นแบบนี้ได้มั้ยวะ ขอร้องล่ะ " ไม่นานก็รับรู้ถึงลมอุ่นๆรดลงบนหลังมือนั้นที่เขากุมเอาไว้ ฉันตกใจจนเกือบจะชักมือกลับแต่เขาก็ยังรั้งเอาไว้ไม่ปล่อย
เสียงหัวใจที่อยู่ภายในอกข้างซ้ายมันเต้นแรงกว่าเดิมจากที่เป็นอยู่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ส่วนเขาก็ยังคอยก้มจรดจูบริมฝีปากหนาลงบนหลังมือของฉันซ้ำๆอยู่อย่างนั้น จากใจที่ตั้งมั่นแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้ว เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เคยจะมีใจให้ฉัน มันเจ็บมามากพอแล้ว ' ใช่ เธอเจ็บมานานพอแล้ว จำใส่กะโหลกซักทีสิลมหนาว '
" .................. " ฉันไม่มีคำพูดไหนที่จะเอื้อนเอ่ยมันออกมาและก็ยังพยายามที่จะชักมือออกจากการเกาะกุมของเขา ทั้งที่การกระทำของเขาตอนนี้ทำให้หัวใจของฉันมันแทบจะอ่อนยวบ ไร้ซึ่งความแง่งอนหรือน้อยใจที่ฉันมีก่อนหน้านี้ แต่ฉันก็ยังพยายามต่อสู้กับหัวใจตัวเองอย่างหนักในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะฝืนได้อีกนานแค่ไหน
" ลมหนาว.....พูดอะไรหน่อยสิ พูดอะไรก็ได้ ทำไมต้องเมินกันวะ เธอทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแบบนี้มันแม่งโคตรเจ็บ ฉันรู้สึกเจ็บ...จริงๆ " เขาพูดแล้วดึงรั้งมือของฉันขึ้นไปแนบไว้กับแก้มของเขา การกระทำของเขาที่เปลี่ยนไปแบบนี้ฉันรู้สึกไม่ชินเลย เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ หัวใจที่อ่อนแอ่ของฉันมันกำลังจะพ่ายแพ้ แต่ฉันก็ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นคือตอนนี้ไม่ได้มีแค่ฉัน แต่ยังมีสองแสบซึ่งเป็นดั่งดวงใจที่ฉันต้องคอยดูแลและปกป้องความรู้สึกของพวกเขา ถ้าเกิดมามีพ่อแต่พ่อไม่ได้ต้องการ สู้ให้เขาไม่รู้จักพ่อตั้งแต่แรกยังจะดีกว่า
" นั่นแหละค่ะ ที่คุณพูดมามันคือสิ่งที่ฉันเคยได้รับจากคุณตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ฉันเป็นเหมือนคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาของคุณ ฉันเคยพยายามที่จะข้ามผ่านจุดนั้น ฉันเคยแอบคิดว่าวันหนึ่งคุณอาจจะมองเห็นฉันบ้าง แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆและตอนนี้ฉัน...เหนื่อยแล้วค่ะ "
" ไม่! ไม่นะลมหนาว อย่าพูดแบบนั้น...ได้มั้ย " เขาพูดเสียงสั่นแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับพยายามจะเอื้อมมือเข้ามากอดฉันไว้ จนฉันเองก็ต้องผละตัวลุกขึ้นนั่งบ้าง
" ฉัน...ขอโอกาส ขอโอกาสให้ฉันนะ " สองมือแกร่งประคองรั้งลำแขนของฉันไว้แล้วสบตาจ้องกับฉันผ่านไฟสลัวที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
ฉัน...กำลังเริ่มรู้สึกสับสน ฉันควรทำยังไงดี คำพูดและการกระทำของเขาเมื่อกี๊มันจะเชื่อได้แค่ไหนกัน และที่สำคัญ..เขากำลังจะหมั้นกับมาร์กี้ นี่ต่างหากที่มันคือความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ฮึกกก ฉันควรตัดสินใจยังไง ควรให้สิ่งที่เขาขอมั้ย
" ลมหนาว...เธอไม่ต้องห่วง เรื่องมาร์กี้เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง "
" ....................... "
" เชื่อฉันนะ... ได้โปรด "
********** to be continued
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 42
Comments