Ep. 11
ลมหนาว ||Part||
" โดนมาขนาดนี้ เด็กยังอยู่ก็นับว่าโชคดีมากแล้วนะเธอ "
" นั่นสิ น่าสงสารจริงๆ " ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังคุยกัน แต่เสียงมันช่างไม่คุ้นหูเอาซะเลย พยายามลืมตาก็ลืมแทบจะไม่ขึ้น มันรู้สึกเพลียและปวดเนื้อตัวไปหมด ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย
" อ้าว คนไข้ฟื้นแล้ว รีบไปเรียกคุณหมอเร็ว "
" แจ้งญาติผู้ป่วยด้วย " ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น ถึงได้เห็นว่าเป็นพยาบาลในชุดขาวสองคนยืนอยู่ข้างเตียงที่ฉันนอนอยู่
" ขอน้ำ...ให้ฉันกินหน่อยได้มั้ยคะ? "
แอ๊ดดดดดด~~
" ลมหนาว!! มึงฟื้นแล้ว...เป็นไงบ้าง? "
" เรนนี่... "
4 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้
ที่คอนโดลมหนาว
" เขาไปแล้วสินะ ผู้ชายไร้หัวใจ " ฉันนอนนิ่งอย่างขยับตัวลำบากเพราะรู้สึกปวดร้าวระบมที่กลางกายนั้น ได้ยินเสียงปิด เปิด ประตูสักพักก่อนหน้านี้แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป
" ฮึก อ้ะ~ ทำไมถึงได้รู้สึกปวดขนาดนี้นะ " แค่พยายามขยับตัวนิดเดียวก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา ฉันค่อยๆลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่....ทำไมมันรู้สึกจุกที่ท้องน้อยขนาดนี้ พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างเตียง ถึงได้เห็นว่าจุดที่ฉันนอนอยู่เมื่อกี๊ มันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีสดเป็นวงกว้างบนผ้าปู รวมทั้งผ้าห่มที่ฉันใช้คลุมตัวก็เห็นว่ามีเลือดเปื้อนด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณทำให้ฉันรีบก้มมองลงที่ระหว่างขาของตัวเอง
" ละ...เลือด " ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังทำหน้ายังไงหรือสีหน้าเป็นแบบไหน รู้แค่ว่ามันรู้สึกชาไปทั้งตัวจากที่รู้สึกเจ็บจุกอยู่ก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากตรงนั้นมันทำให้ความรู้สึกก่อนหน้านี้ทั้งหลายอันตรธานหายไปหมดเลย
" นี่มัน....เกิดอะไรขึ้น " ฉันควรไปห้องน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วพาตัวเองไปโรงพยาบาล แต่ฉันตอนนี้มันก้าวขาไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพราะกลัวว่าเลือดมันจะไหลออกมามากกว่าเดิม แล้วฉันอาจจะสูญเสียบางสิ่งไป ทำไมฉันถึงคิดแบบนั้น อาจจะเป็นไปได้ถ้าหากจะมีบางสิ่งที่มีชีวิตกำลังก่อเกิดขึ้นในนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาฉันมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานนิทรรศการที่จะจัดขึ้น จนลืมกินยาคุม แถมยังไม่คิดว่า คุณมังกรจะมาหาฉันทุกคืนก่อนหน้านี้ มือบางวางทับลงบนหน้าท้องเบาๆคล้ายกำลังปลอบประโลม มืออีกข้างรีบควานหาโทรศัพท์มือถือจากประเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างเตียงเพื่อจะชาร์จแบต แล้วรีบเปิดเครื่องทันทีหลังจากนั้น
อ๊อดดดด อ๊อดดดด~~
" ใครมา " ฉันหันมองออกไปที่หน้าประตูอย่างมีความหวัง ระหว่างที่ฉันเปิดเครื่องติดปุ๊บ เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นไม่หยุด
ครืดดด ครืดดด ครืดดดด~
ครืดดด ติ๊ง!! ติ๊ง!! ครืดดด
LINE
Rainy: ' ลมหนาวมึงอยู่ห้องมั้ย? '
' กูผ่านทางคอนโดมึงพอดีอ่ะ เดี๋ยวแวะซื้อขนมไปฝาก '
' อีหนาว! มึงอยู่มั้ยเนี่ย! '
Messenger
3+ เรนนี่พยายามโทรหาคุณ กรุณาโทรกลับ Please call back this number.
เปิดดูข้อความก็เห็นว่ายัยเรนนี่ทั้งไลน์มาทั้งพยายามโทรหา ภาวนาขอให้คนที่กดออดอยู่หน้าห้องตอนนี้เป็นมัน หรือใครก็ได้ที่ฉันจะพึ่งพาได้ ตอนนี้ใจดวงน้อยก็ยังเต้นแรงไม่หยุด ฉันรีบติดต่อกลับไปหายัยเรนนี่ทันที แค่เสี้ยววินาทีมันก็รีบรับสายฉัน
' มึงอยู่ห้องมั้ยเนี่ย หรืออยู่ไหน? ซื้อขนมมาฝาก '
" เรนนี่..มึง! ช่วยกูด้วย! ฮึก ช่วยกูที~ " เป็นบ้าอะไรเนี่ยฉัน ว่าจะไม่ร้อง แต่มันอดไม่ได้จริงๆกับสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นในวันนี้ กับสิ่งที่ฉันเจอมาเมื่อกี๊ ทำให้หัวใจอ่อนแอ และความรู้สึกก็อ่อนไหวอย่างบอกไม่ถูก
' ลมหนาว มึงเป็นอะไร? ตอนนี้มึงอยู่ไหน? '
" กูอยู่ในห้อง กูอยู่ในห้อง~ " ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นปาดน้ำตา
' มึงใจเย็น ตอนนี้กูอยู่หน้าห้องมึง แต่กูเข้าไปไม่ได้ ประตูห้องมันล็อคอยู่ มึงต้องมาเปิดประตูก่อน '
' เกิดอะไรขึ้นหรอเรนนี่? มะ..มา~ ' ฉันได้ยินเสียงทุ้มของผู้ชายก่อนจะตามมาด้วยเสียงเด็กที่ยังพูดไม่ชัด
" คุณสิงห์ก็มาด้วยหรอ? "
' ใช่ ' ฉันตัดสินใจลองก้าวขาออกดูช้าๆเพื่อจะเช็คดูว่าเลือดมันยังจะไหลอยู่รึเปล่า ก้าวเบาๆเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบอาภรณ์ขึ้นมาส่วมปกปิดร่างกายไว้ เป็นเสื้อยืดตัวใหญ่สีดำ ก่อนจะพยายามลากขาเดินไปที่หน้าประตู
' ลมหนาว..ยังอยู่มั้ย? ' เรนนี่ถามออกมาเสียงร้อนรนไม่แพ้ความรู้สึกของฉันในตอนนี้
" มึงรอแป๊บนึงนะ...กูกำลังไป "
แอ๊ดดดดดดด~
" มึงโอเคมั้ยลมหนาว ไม่สบายหรอ?! " ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ก็เห็นคุณสิงห์ที่อุ้มลูกยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเรนนี่ ส่วนยัยเรนนี่มือยังกำโทรศัพท์ไว้แน่นพร้อมกับยกขึ้นแนบหูไม่ห่าง
" ช่วยกูด้วย.... "
" ลมหนาว!!!! คุณสิงห์ช่วยทีค่ะ เดี๋ยวเรนนี่อุ้มพี่เสือเอง " หูได้ยินแค่นั้น ทุกอย่างรอบตัวก็ดับวูบไปทันที ตื่นมาอีกฉันก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
ปัจจุบัน
" ฮึก~ เกิดอะไรขึ้นกับกู " ฉันพูดออกมาลอยๆ ถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว มันคล้ายจะบ่งบอกเรื่องราวได้ดีทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ฉันก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นในชีวิตฉัน มือข้างขวาของฉันยกขึ้นมาวางทาบไว้ที่หน้าท้องเบาๆ
" ฮึก~~ เขา...ยังอยู่รึเปล่า " น้ำตาฉันไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่ได้ รู้สึกสงสารเขาจับใจ ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่ที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก ทำไมเด็กคนนี้ถึงต้องอาภัพที่เกิดมาเป็นลูกของฉัน แม่..ขอโทษ
" อยู่สิ เขายังอยู่ มึงไม่ต้องกลัวนะ...ไม่ต้องร้อง " มันพูดแล้วเดินเข้ามาโอบฉันไว้ แล้วก็ยกมือขึ้นลูบหัวอย่างปลอบใจ ทั้งอีกมือก็ยังเกลี่ยน้ำตาออกให้ไม่หยุด
" กูไม่รู้ว่าควรจะโทรบอกแม่มึงดีรึเปล่า กูตัดสินใจไม่ได้ ก็เลยยังไม่ได้โทร.เลยน่ะ มึงอยากให้กูโทร.บอกท่านให้มั้ย? "
" ไม่ต้องหรอกกูไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง เดี๋ยวไว้ทุกอย่างดีขึ้น กูจะอธิบายกับท่านเอง "
" โอเค. แล้วพวกมันสองคนอ่ะ? "
" ตอนนี้ดึกมากแล้ว ค่อยบอกพวกมันพรุ่งนี้ก็ได้ มึงเองก็ไปพักเถอะ ขอบใจมึงมากนะ ลำพังเลี้ยงลูกก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยังต้อง... "
" หยุดเลยนะ พูดอะไรอย่างนั้น เราเป็นเพื่อนกันนะ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นจะลำบากอะไร ทำไมมีอะไรมึงไม่บอกพวกกู "
" เรื่องนั้น.... "
" เรื่องนั้น มึงพร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยเล่า ตอนนี้มึงทำใจให้สบาย พักผ่อนเยอะๆ ห้ามคิดมาก ห้ามเครียดด้วย " มันพูดแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ฉันอีกทีเบาๆ
ก๊อก ก๊อก~
" ขออนุญาตค่ะ หมอมาขอเช็คดูอาการของคนไข้นะคะ " คุณหมอวัยกลางคนเดินเข้าพร้อมยิ้มอบอุ่นให้ฉัน
" ตอนนี้คนไข้รู้สึกยังไงบ้างคะ? "
" รู้สึกเจ็บหน่วงๆที่หน้าท้องค่ะ " เธอก้มลงจดอะไรสักอย่างลงในกระดาษ
" แล้วที่อื่นมีมั้ยคะ? " ฉันคิดอยู่สักพักแล้วส่ายหัวกลับไป จะให้บอกว่าเจ็บตรงนั้นหรอ มันก็รู้สึกเจ็บอยู่นะ แต่มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น มันคล้ายๆกับจะเป็นความเจ็บที่ฉันคุ้นเคย แต่ดูเหมือนคุณหมอจะรู้อยู่แล้วโดยที่ฉันไม่ได้พูดมันออกมา
" ที่คนไข้รู้สึกเจ็บหน่วงที่ท้องน้อยแล้วก็ตรงจุดนั้น เหตุเนื่องมาจาก ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เมื่อตัวอ่อนที่กำลังฝังตัวอยู่ข้างในได้รับการกระแทกที่ค่อนข้างจะรุนแรงจึงทำให้ตัวอ่อนได้รับการกระทบกระเทือน แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เด็กๆแข็งแรงมาก เกาะแน่นทั้งสองคนเลยล่ะค่ะ ^^ " เธออธิยายแล้วยิ้มให้กำลังใจฉัน เพราะเห็นว่าฉันเริ่มจะหน้าเสียไปก่อนหน้านี้
" เด็กๆ ทั้งสะ..สองคนหรอคะ? "
" ค่ะ ^^ คุณได้ลูกแฝด แต่..หลังจากนี้คุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้มากๆนะคะ อย่าทำงานหรือยกของหนัก หรือเดินทางไกลและออกกำลังกายหนักๆ พวกนั้นนี่ห้ามเลยนะคะ ใช้ชีวิตได้ตามปกติแต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ "
" เดี๋ยวหมอจะให้นอนโรงพยาบาลรอดูอาการสักสอง สามวันก่อนหากมีอะไรผิดปกติจะได้ดูแลรักษาอาการทัน ^^ "
" ขอบคุณค่ะคุณหมอ " หลังจากที่คุณหมอและพยาบาลออกไปแล้วฉันก็หันไปคุยกับยัยเรนนี่บ้าง
" เรนนี่...มึงกลับไปพักเถอะ กูอยู่ได้จริงๆ " ที่จริงก็อยากมีเพื่อนอยู่ด้วยนะ แต่เกรงใจมันอ่ะ ไหนจะลูกไหนจะผัวมันอีก
" กูบอกว่าไม่! ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดเดี๋ยวกูจะโทร. บอกแม่มึงตอนนี้เลย! "
" .....ขอบใจมึงมากนะ ^^ "
" อือ...พักผ่อนได้แล้ว แล้วก็จำด้วยที่หมอบอกอ่ะ ห้ามทำงานหนัก "
" แต่กูไม่ได้ยกของหนักซะหน่อย "
" ที่มึงทำอยู่น่ะ ทำงานซะจนดึกดื่น หามรุ่งหามค่ำ หอบงานที่จากทำงานกลับมาทำต่อที่บ้านน่ะ นั่นแหละเขาเรียกทำงานหนัก เข้าใจหรือยัง! " =_=
เช้าวันต่อมา
เวลา 07:02 น.
" เรนนี่ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง " ฉันคิดอยู่นานตั้งแต่ลืมตาตื่นนอน ที่จริงคิดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โอกาสเหมาะๆแบบนี้ ฉันคิดว่าควรจะเปิดอกคุยเรื่องนั้นกับมันให้จบๆไปเลย
" ว่ามาสิ " มันที่กำลังนั่งปลอกแอปเปิ้ลอยู่บนโซฟาหันมาสบตากับฉันแป๊บนึงก่อนจะก้มหน้าก้มตาปลอกแอปเปิ้ลต่อ
" เรื่องงานของคุณสิงห์ เขาบอกมึงแค่นั้นจริงๆหรอ? " มันหยุดชะงักก่อนจะจ้องหหน้าฉันนิ่งๆ
" มึงเชื่อเขารึเปล่า ว่างานเขามีอยู่แค่นั้น เท่าที่เขาต้องการจะให้มึงเห็น "
" เดี๋ยวนะ..ทำไมอยู่ๆมึงถึงพูดเรื่องนี้? "
" กูกำลังคิดว่า คุณสิงห์เขากำลังทำงานบางอย่างที่ไม่ดีรึเปล่า? เขามีศัตรูที่คอยจะเล่นงานเขาอยู่ แค่เขาปกปิดไม่ให้มึงรู้ "
" .............. "
******* to be continued
เอ้าาาา เอาสมาชิกใหม่มาให้ได้ตื่นเต้นกัน ฮิฮิ
คุณพ่อเขายังไม่รู้ด้วยแหละ ไปทำวีรกรรมไว้เจ็บแสบขนาดนั้น แม่ของลูกเขาจะบอกมั้ยล่ะนั่น #น่าสงสารเขานะคะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 42
Comments