พวกเขามองหน้ากันสักพักจึงมีร่างหนึ่งถามออกไปว่า
“เดี๋ยวก่อนๆก่อนจะหลอมรวมกันพวกเรามานั่งจับเขาคุยกันก่อนเป็นไง?”
จิตวิญญาณทั้งสองเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงมองหน้ากันแล้วตอบกลับไป
“ดีเลยข้าเองก็ไม่อยากใช้จิตวิญญาณของตัวเองหลอมรวมกับใครนักหรอก”
“อืม..”
ทั้งสอง‘คน’พยักหน้าส่วนร่างที่เล็กกว่า‘คน’อื่นหนึ่งส่วนเพียงพูดคำว่า‘อืม’เพียงคำเดียวฟังเสียงแล้วดูเป็นคนมืดมนสุดๆ
“งั้นฉั-ไม่สิข้าจะเรียกตัวเองว่าบี1ส่วนพวกเจ้าบี2แล้ว3ก็แล้วกันนะ?”
ทั้งสองพยักหน้าเนื่องจากพวกเขาไม่มีปัญหาอะไร
“เอาละงั้นข้าขอถามหน่อยว่าพวกเราตายกันแล้วหรอ?”
เนื่องจากวิญญาณยังไม่ได้รวมกันอย่างสมบูรณ์จึงมีเพียงความทรงจำของคนอื่นเล็กน้อยพวกเขารู้จักกันว่ามาจากไหนชื่ออะไรเพียงเท่านั้นไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรขนาดนั้น
“ใช่แล้วจิตวิญญาณคือแกนหลักของร่างกายหากไม่มีวิญญาณก็เท่ากับตายก็คล้ายๆวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่มีร่างกายยิ่งนานวันวิญญาณก็จะสลายหายไปหรือไม่ก็กลายเป็นวิญญาณร้าย”
บี2อธิบายออกมาอย่างใจเย็น
“แล้วหลอมรวมวิญญาณละคืออะไร?”
บี1ขมวดคิ้วและถามกลับมาอีกครั้งบี3ก็มองไปที่บี2เช่นกันเนื่องจากเขาก็อยากรู้เพราะเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน
“หลอมรวมวิญญาณคือวิธีการพิเศษที่จะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในล้านแต่เป็นเพียงวิญญาณแค่สองดวงเท่านั้นแต่ตอนนี่มีถึงสามดวงคงไม่ต้องถามถึงโอกาสที่ตะเกิดขึ้นเพียงน้อยนิดจนไม่ต้องคิดด้วยซํ้าเอาจริงๆมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยเพียงแต่การหลอมรวมวิญญาณก็คือการต่อสู้ขนาดย่อมๆกันก็ว่าได้เนื่องจากจะมีวิญญาณเพียงดวงเดียวที่จะได้ครองร่างกายนี้คนที่ได้ครองคือคนที่จะได้ประสบการณ์ความทรงจําพรสวรรค์และอื่นๆ”
พูดจบบี1และบี3ร่างกายพลั่นสั่นสะท้านอย่างรุนแรงไม่คิดว่าการหลอมรวมวิญญาณจะเป็นการแย่งชิงกันเช้นนี้พวกเขาคิดว่าคงจะเป็นการแบ่งร่างกายกันใช้อะไรทำนองนั้น
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องกังวนไปจิตวิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บหนักไม่สามารถช่วงชิงร่างกายของใครได้หรอก จะเหลือก็แต่พวกเจ้าสองคนจะเอากันยังไงข้าต้องการเพียงคนเอาเคล็ดวิชาที่ข้าสร้างไปใช้เพียงเท่านั้นเองให้มันได้ผงาดบนโลกใบนี้สักครั้งหนึ่ง!!”
เมื่อได้ให้ทั้งสองคนมีสีหน้าซีดๆจึงได้หัวเราะออกมาพร้อมทั้งอธิบายให้ทั้งคู่ได้เข้าใจเจตนารมณ์ของเขาว่าต้องการหาคนที่จะทำให้เคล็ดวิชาของเขาผงาดขึ้นสักครั้งหนึ่งเพราะเขาทุ่มแทไปกับมันนับร้อยนับพันปีเพื่อจะสร้างเคล็ดวิชานี้ออกมาเนื่องจากโดนสังหารก่อนจะได้ใช่เคล็ดวิชาของตัวเองด้วยซํ่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าวิชาของตัวเองทำอะไรได้เหมือนกันเขาเพียงรู้ว่ามันทำอะไรได้คร่าวๆไม่ได้รู้ไปซะทั้งหมด
เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งสองก็มีสีหน้าดีขึ้นกว่าเดิมเพราะรู้สึกว่าบี2แข็งแกร่งมากเนื่องจากเขารู้เรื่องหลายๆเรื่องเลยทีเดียว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องต่อสู้กันอยู่ดีมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ไปต่อ บี1และบี3ได้มองหน้ากันเป็นเวลานานหลังนั้นบี3ก็ทำหน้าหมือนคิดอะไรออกและเขาก็ได้พูดออกมาด้วยนํ้าเสียงของเด็กหนุ่มแต่ฟังดูแล้วยังไงก็มืดมนสุดๆอยู่ดี
“เจ้าเองร่างกายนี้ไปเถอะร่างนี้เป็นของข้าเอง”
“ร่างนี้เป็นของเจ้า?”
บี1ถามออกไปอย่างไม่น่าเชื่อนี้เขาคิดว่าบี3ก็เป็นเหมือนพวกเขาที่จิตวิญญานออกจากร่างมาที่นี้
“ถูกต้อง ร่างนี่เป็นของข้าเอง”
“ทำไม?”
บี1ถามด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องให้ร่างเขา
“ข้า...ตายแล้ว!”
“ตายแล้วแต่วิญญาณยังอยู่ในร่าง!?”
บี3พยักหน้าให้บี1เพื่อเป็นการให้ตอบกับเขา
“อืมม...แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องให้ร่างกายแก่ข้า”
บี1คิ้วขวมดเข้าด้วยกันเป็นปมเพราะเขาก็ไม่เขาใจอยู่ดีว่าทำไม
“นี่เจ้าคนทวีปอะไรเนี่ย?ไปหลบอยู่หลังเขาที่ไหนมาไม่เข้าใจเรื่องพื้นๆแบบนี้ได้ไง?”
บี2อดจะพูดออกมาไม่ได้เขาเริ่มจะรู้สึกปวดหัวแล้วตอนนี้แม้จะไม่มีร่างกายก็เถอะไม่รู้จักเรื่องการหลอมรวมไม่ว่าเพราะเรื่องหลอมรวมน้อยคนนักที่จะรู้น้อยเสียยิ่งกว่าน้อยสะอีกแต่นี่เรื่องคนตายยังไม่รู้เรื่องเลยเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี
บี1เลยพูดออกมาอย่างเขินๆว่า“ก็..ก็..ข..ข้าไม่รู้นิหน่าข้าไม่ใช่คนของโลกนี้ด้วยซ้ำข้ามาจากทวีปเอเชียประเทศไทยพอใจไหม!??”
เขาแสร้งทำเป็นโกรธเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของเขาเอาไว้
“ไม่ใช่คนของโลกนี้??”
บี2และบี3พูดออกไปพร้อมกันด้วยความตกตะลึงไม่คิดว่าบี1ไม่ใช่คนของโลกนี้
“ใช่! แล้วจะทำไม?!”
บี1พูดออกไปด้วยความโกรธมีหน้ามาด่าเขาว่าเด็กหลังเขาไม่รู้เรื่องทางโลก ‘เจ้าน่ะสิพวกหลังเขา!! รู้จักมือถือรึป่าวก็ไม่รู้ หึ!’ เขาได้แต่พูดขึ้นมาในใจตัวเขาเองก็ไม่กล้าพูดออกมาโดยตรงเพราะกลัวโดนลากไปซ้อมแม้จะไม่มีร่างกายก็เถอะ
เมื่อเห็นบี1ถลึงตาใส่เขาแล้วพูดด้วยนํ้าเสียงโกรธๆจึงได้พูดขอโทษออกไปและอธิบายให้เขาฟัง
“ก็ได้ๆ ข้าขอโทษด้วยที่ไปว่าเจ้าเช่นนั้น ความจริงแล้วคือคนที่ตายแล้วนั้นจะไม่มีสิทธิ์ใช้ร่างของตัวเองอีกต่อไปถ้าตายแล้วใช้ร่างตัวเองได้แล้วตายไปทำไมจะไปเกิดใหม่ทำไม?”
พอบี1ได้ฟังแล้วเขาก็เข้าใจได้ในทันที นั้นสิถ้าตายแล้วใช้ร่างเดิมได้จะตายไปทำไมจะมีวัฎจักรของชีวิตได้ยังไง พอฟังแล้วมันก็สมเหตุสมผลดี
“ถ้าข้าหลอมรวมวิญญาณแล้วพวกเจ้าจะได้ไปเกิดใหม่หรือไม่?”
บี1พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนๆพร้อมครุ่นคิดอย่างหนักว่าถ้าเขาหลอมรวมจิตวิญญาณแล้วพวกเขาจะได้ไปเกิดใหม่ไหมเพราะเขาก็เป็นห่วงหากรวมกันแล้วเกิดใหม่ไม่ได้พวกเขาก็แย่น่ะสิ
เมื่อได้ฟังบี1พูดเช่นนั้นบี2และบี3พลั่นยิ้มออกมาจางๆยากจะสังเกตุเห็นได้ บี2จึงกล่าวออกไปว่า
“ไม่ต้องเป็นห้วงไปเจ้าแค่ได้หลอมรวมจิตวิญญาณของพวกเราเฉยๆไม่ได้รวมวิญญาณจิตวิญญาณกับวิญญาณมันต่างกันนะหากเจ้ารวมวิญญาณของเราจริงๆละก็ข้อจะสาปแช่งเจ้าให้ตายๆไปซะเลยดีกว่า”
“ฟู่ว! ได้ยินอย่างงั้นก็ดีข้าคิดว่าจะได้ทำบาปซะแล้ว!”
บี1ได้หายใจออกมาอย่างแรงพร้อมแสดงสีหน้ายินดีออกมาเต็มใบหน้าของเขายิ้มแฉ่งจนจะถึงหูอยู่แล้ว
“ก็เป็นเช่นนี้แหละงั้นมาเริ่มกันเถอะ”
“แหะๆ แล้ว....ต้องทำยังไงบ้างละ?”
บี1ได้ยิ้มแห้ยๆออกมาพร้อมกับถ้ามด้วยถ้าทีกระอักกระอวนเนื่องจากเขาไม่รู้อะไรเลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments