จักรพรรดิต้านสวรรค์
มหาทวีปเทียนหยาง
ณ หุบเขากลืนดารา
“ฮ่าๆๆ!!”
มีชายคนหนึ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งภายในหุบเขากลืนดาราพร้อมบาดแผลฉกรรจ์นับไม่ถ้วนโลหิตไหลย้อมทั้วทั้งพื้นดินแถบนั่น
“หนี่เทียนยอมแพ้ซะลมปราณทั่วร่างแตกซ่านสู้ไปก็เปล่าประโยชน์”
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสุดอำมหิตพร้อมกองทัพนับร้อยนับพันซึ่งอยู่ข้างหลังของชายวัยกลางคนในมือถือด้วยอาวุธเตรียมเข่นฆ่าสังหาร
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทรยศเช่นนี้ข้าเคยหลงคิดว่าเจ้าเป็นพี่น้องเป็นสหายเป็นครอบครับของข้า! รู้ตัวรึป่าวว่าแม้แต่สัตว์เดรัจฉานเองก็ยังรู้คุณคนมากกว่าเจ้าเสียอีกฟงหยาง!!”
ชายที่ถูกเรียกว่าฟงหยางคิ้วได้ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำพูดเช่นนั้นแต่ก็คลายออกจากกันอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดด้วยนํ้าเสียงที่เย้ยหยันตอบกลับไป
“หึ! ครอบครัวอย่างงั้นรึ! ฝันอยู่ละสิไม่ว่า ข้อเห็นเจ้าเป็นเพียงแค่หินรองเท้าให้ข้าได้เหยียบย่ำขึ้นไปเพียงเท่านั้นและข้ากำลังจะเหยียบย่ำเจ้าให้จมดินเดี๋ยวนี้แหละ”
พูดจบฟงหยางก็กำกระบี่ในมือจนแน่นเล็งไปที่คอของหนี่เทียนพร้อมกับฟันอย่างรวดเร็วเหมือนประกายแสงพุ่งผ่านออกไป
“ฟั่ฟ!!”
เสียงหอนจากกระบี่ดังขึ้นพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากแขนขวาไม่ใช่ที่ลำคออย่างที่คิดไว้เนื่องจากหนี่เทียนเอาแขนมากันไว้ได้และได้กล่าวออกไปอย่างเย็นชาปานจะแช่แข็งผู้คน
“คิดจะฆ่าข้าไม่ได้ง่ายขนาดนั้น! หากข้าจะตายข้าก็ขอลากพวกเจ้าลงมาพร้อมกับข้าด้วยอีกคน!!”
เมื่อกล่าวจบก็ได้มีแสงสว่างปานดวงอาทิตย์ออกมาจากร่างกายของหนี่เทียนเหมือนจะย้อมโลกใบนี้ให้มีแต่แสงสว่าง
หลังจากฟงหยางได้เห็นเช่นนั่นหน้าตาของเขากลายเป็นซีดเผือดและได้ตะโกนออกมาอย่างร้อนรน
“แย่แล้วนี้มันจะระเบิดพลังจากดันเถียนออกมาเกินขีดจำกัดทำให้กลายเป็นระเบิด!! ไอ้เวรเอ้ยขนาดโดนยาสลายลมปรานไปแล้วแถมยังจะตายอยู่แล้วแท้ๆยังจะมีแรงไปปะทุพลังออกมาอีก หนีเร็ว!!”
“สายไปแล้วไอ้พวกสวะ!!!”
พลั่นพูดจบร่างกายของหนี่เทียนก็ระเบิดออกมาดัง “ตูม!!!!!” อย่างรุนแรงเหมือนระเบิดปรมาณูถล่มลงมาใส่หุบเขากลืนดาราอย่างแรงทำให้หุบเขากลืนดารากลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของหนี่เทียนล่องลอยขึ้นไปบนนภา
..............
ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ภายในห้องหมายเลข123มีชายพิการนอนอยู่บนเตียงเป็นโรคร่างกายอ่อนแอตั้งแต่กำเนิดต้องนอนเป็นผู้ปวดติดเตียงอยู่ครึ่งค่อนชีวิตสุดท้าย มีงานอดิเรกของตัวเองเช่น อ่านนิยาย เล่นเกมส์ ถึงเขาจะ ฉลาดมากและความจำดีแต่ก็แลกมาด้วยความพิการของเขา ชายคนนั้นได้ถ่อนหายใจพร้อมพึมพำขึ้นมาว่า
“เฮ่อ... ทั้งที่วันนี้เป็นเกิดฉันแท้ๆแต่กลับไม่มีใครมาเยี่ยมสักคนเหมือนเดิม... ก็ใช่นิก็ฉันน่ะมันตัวคนเดียวนี่หว่า... เฮ่อ.... _วย เหอะครับไอ้ _ัส ไม่สนก็ได้วะ เล่นเกมต่อดีกว่า”
“นี่เจ้าน่ะ..”
หลังจากจะเล่นเกมต่อเขาพลั่นได้ยินเสียงกระซิบราวกับเสียงของปีศาจดังขึ้นมาข้างหูของเขา
“ใครอะ!!”
เขาได้หันซ้ายหันขวาแต่ไม่เจอกับใครซักคนเลยพูดขึ้นมาว่า “คงหูฝาดไปเองมั่ง?”
“นี่เจ้าน่ะอยากแข็งแกร่งขึ้นรึหรือไม่? แลกกับความพิการของเจ้าไม่ว่าจะเป็น ร่างกาย ตา หู จมูก ลิ้น เส้นเสียง สายเลือด เส้นลมปราณ กระดูก เส้นเอ็น ประสาทสัมผัส ปัญญา จิตใจ อารมณ์ความรู้สึก โชค และ แม้แต่ วิญญาณ เป็นเวลานับสิบปี แต่ความรู้สึกของเจ้าจะเหมือนกับตกนรกนับร้อยนับพันปี เพื่อแลกกับโอกาส ถ้าเจ้าไม่รู้สึกอยากตายสะก่อนละก็นะ หึหึ......”
เสียงกระซิบยังคงดังออกมาจนจบเขาจึงถ่ามไปต่างๆนาๆทั้งตะโกนทั้งด่าแต่ก็ไม่มีใครตอบกับมาสักทีเขาจึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า
“ฮ่าๆๆ ถ้ามันทำให้ฉันลุกขึ้นจากเตียงบ้าๆนี้ได้ละก็ไม่ว่าขอเสนออะไรจะให้พิการมาเกือบชีวิตแล้วจะให้รอสักหน่อยจะเป็นไรไปต่อให้เป็นยังก็ยอมละวะ”
“ย่อมได้....”
เสียงนั้นได้ดังขึ้นอีกครั้งและเงียบไป
“สงสัยฉันจะหลอนแล้วละม้างง--”
“ตึกตัก! ตึกตัก!”
เสียงหัวใจของเขาได้เต้นอย่างรุนแรงราวกับจะระเบิดออกมา
“ตี๊ดดดดดด.........”
ทันใดนั้นเสียงของที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ส่งเสียงร้องออกมาหมายความว่าหัวใจของเขาไม่เต้นอีกต้อไปแล้วชั่วนิรันด์
หลังจากนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ลอยออกมาจากร่างและได้พุ่งขึ้นไปทะลุเพดานห้องลอยขึ้นไปบนท้องนภาอีกครั้ง
............
มหาทวีปเมฆาฟ้า
จิตวิญญาณทั้งสองดวงนั้นได้ล่องลอยไปยังมหาทวีปเมฆาฟ้าลอยเข้าไปในบ้านไม้เก่าๆหลังหนึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนติดเตียงอยู่ ภายในห้องไม่มีของตกแต่อะไรทั้งนั้นมีแต่ของจำเป็นจำพวกเตียง โต๊ะ เก้าอี้ โต๊ะวางของที่อยู่ข้างเตียง พร้อมกับเทียนที่ดับอยู่ มีช่องหน้าต่างอยู่บานหนึ่ง
ทันใดนั้นก็มีวิญญาณสองดวงลอยเข้ามาภายในแล้วพุ่งเข้าไปในร่างของของเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าเป็นหรือตายกันแน่ร่างกายของเด็กหนุ่มพลั่นกระตุกขึ้นมาอย่างแรงจากนั้นก็แน่นิ่งไป
ภายในร่างกายของเด็กหนุ่ม “นายเป็นใคร!? เจ้าเป็นใคร!? เจ้าเป็นใคร!?”
ภายในร่างกายของเด็กหนุ่มได้เกิดเสียงพร้อมกันทั้งสามเสียง เสียงทั้งสามคล้ายกันมากจนแทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใครแต่เสียงสุดท้ายนั้นจะเสียงเด็กลงไปหน่อยจึงพอจะแยกออกได้
“ฉันถามว่--- ข้าถามว่--- ข้าถามว่---”
แต่ว่าก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไรจบก็ได้มีความทรงจำ ประสบการณ์ ความรู้สึก หลั่งไหลเข้ามาราวกับนํ้าที่ไหลเชี่ยวกรากถาโถมเข้ามาภายในจิตวิญญาณของพวกเขาทั้งสามคนพร้อมกันและได้พูดออกมาพร้อมกันว่า
“ข้าคือเจ้า เจ้าคือข้า! จิตวิญญาณนี้เราจะหล่อหลอมมันเข้าด้วยกันให้กลานเป็นเนื้อเดียวกันเป็นทั้ง เพื่อน ทั้ง พี่ ทั้ง น้อง และครอบครัวคนเดียวที่มี”
พวกเขาพูดออกมาราวกับว่ามีโปรแกรมตั้งไว้ว่าให้พูดอะไรเหมือนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ข้าไม่ได้จะพูดเช่นนั้นนะมันน่าอายจะตายชัก*x3” (*x3 คูณสาม สามคนพูดพร้อมกัน)
เมื่อพวกเขามีความทรงจำเดียวกันคำพูดบางคำจึงเปลี่ยนไปด้วย
“ดูเหมือนพวกเราจะต้องหล่อหลอมจิตวิญญาณเขาด้วยกันก่อนเนื่องจากร่างหนึ่งร่างมีวิญญาณได้แค่ดวงเดียว”x3
พวกเขาได้มองจิตวิญญาณของกันและกันอยู่อย่างนั้นและเดินเข้ามาที่จุดศูนย์กลางเหมือนจะหล่อหลอมวิญญาณเข้าด้วยกันและเป็นหนึ่งเดียวกัน!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments