รอยยิ้มคุณ ผมจะสร้างให้เอง
ณ ชนบทแห่งหนึ่ง ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณยายครับ คุณยาย อยู่ไหมครับ" เด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มที่สดใส ยืนเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งอยู่ พร้อมสะพายกระเป๋าใบใหญ่ และมีของเต็มไม้เต็มมือไปหมด บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว ที่ทำด้วยแผ่นไม้ขนาดใหญ่มาเรียงต่อกัน หลังคาทำด้วยกระเบื้อง เป็นบ้านหลังขนาดกลางไม่ใหญ่มาก
เมื่อเด็กหนุ่มไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากด้านใน ซึ่งวางของทุกอย่างที่โต๊ะ ที่ตั้งอยู่ชานบ้าน แล้วเดินดูรอบๆบ้าน รอบบ้านของคุณยายนั้น มีดอกไม้เต็มไปหมด และมีดอกกล้วยไม้สกุลฟาแลนอปซิส ที่อยู่ในกระถางดินเผาแขวนอยู่หน้าบ้าน และยังมีกระดิ่งห้อยอยู่ที่ปลายหลังคาบ้าน ส่งสินค้ากรุ่งกริ้งไม่ดังมาก เด็กหนุ่มเดินไปด้านหลังของบ้าน และได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งนั่งผ่าฟืนอยู่ที่นั่น หญิงชราใส่เสื้อผ้าฝ้าย
"ยาย" เด็กหนุ่มส่งเสียงเรียกหญิงชรา เธอวางมีดและท่อนไม้ลง หันมาตามเสียงเรียก เธอยืนขึ้นแล้วมองดูเจ้าของเสียงด้วยสายตาที่มีแต่ความคิดถึง หญิงชรายังไม่ได้พูดอะไร เด็กหนุ่มก็ได้ผัวเข้ากอดหญิงชราด้วยความคิดถึง
"ยายครับ ยายสบายดีไหม ผมคิดถึงยายมากๆเลยนะครับ" หญิงชราร้องไห้แล้วรูปไปที่ศีรษะของเด็กหนุ่มด้วยความอ่อนโยน
ทั้งสองคนเคยอยู่ด้วยกันในเมือง แต่ด้วยคุณยายนั้นอยากที่จะมีชีวิตที่เรียบง่าย เธอจึงกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านของสามีที่อยู่ในชนบท ส่วนอังเกรนั้นอยู่กับพ่อแม่ โดยพ่อแม่ของเขาได้ก่อตั้งบริษัทมู่หลานจำกัด ขึ้น โดยมี concept การใช้กล้วยไม้สกุลฟาแลนอปซิสในผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำหอม และสกินแคร์ต่างๆ ต่อมามีคู่แข่งทางธุรกิจ เป็นคู่แข่งที่มีการเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า มีการปรับสูตรตามความต้องการของผู้บริโภค มีเทคโนโลยีการผลิตที่ดีกว่า ทำให้บริษัทของพ่อแม่เขาต้องทำการปิดตัวลง สู้คู่แข่งทางการตลาดไม่ไหว พ่อแม่ของเขาจึงได้มีการทำวิจัยศึกษาสิ่งใหม่เพิ่ม เพื่อที่จะให้บริษัทได้เปิดทำการใหม่
ส่วนอังเกรเขาไม่เคยสนใจบริษัทอยู่แล้ว อังเกรเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายในเมือง เขามีความฝันตั้งแต่เด็กว่าวันหนึ่งเขาอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ชนบท เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อังเกรจึงได้ขอพ่อแม่ของเขามาอยู่กับคุณยายที่ชนบท เพื่อลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวและเขาก็ขอพ่อแม่ว่าจะไม่เรียนต่อ ตอนแรกพ่อแม่เขาก็ไม่ยอม อังเกรเขาก็ได้ตามตื๊อ และบอกเหตุผลว่า
"พ่อครับแม่ครับ ผมไม่เคยชอบเลยกับการอยู่ในเมืองที่วุ่นวายแบบนี้ และผมก็ไม่ชอบสังคมในโรงเรียนที่ทุกคนเอาแต่อวดโน่นนี่กันไปวันๆ สวมหน้ากากใส่กันจนผมเห็นแล้วอยากจะมุดดินหนี อีกอย่างผมมีความฝันที่อยากจะใช้ชีวิตเรียบง่ายในชนบท แล้วผมก็อยากจะดูแลคุณยายด้วยครับ" เขาได้พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา พ่อแม่ของเขาที่จริงก็รู้สึกผิดเรื่องของคุณยาย เพราะตั้งแต่คุณยายกลับไปอยู่ที่ชนบท พวกเขาก็ไม่เคยไปเยี่ยมท่านเลย
"เฮ้อ~เอาเถอะ ถ้าลูกต้องการแบบนั้น แต่ถ้าหากอยู่ไม่ได้ก็กลับมารู้ไหม" พ่อของอังเกร พูด และตบไหล่เขาเบาๆ
"จะ-จริงหรอครับ ขอบคุณนะครับ" อังเกรยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปห้องของตนเอง "อังเกร! แล้วลูกจะไปวันไหน?" แม่ของเขาร้องถามตามหลัง "พรุ่งนี้เช้าครับ~~" อังเกรตะโกนตอบกลับ น้ำเสียงของเขาดูมีความสุขมาก
"คุณแน่ใจใช่ไหม" แม่ของอังกฤษหันกลับมาถามสามี
"ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตนเองอยากทำนะ" สามีเข้าไปลูบหัวของภรรยาเบาๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น อังเกรก็จะออกจากบ้าน
"แน่ใจนะจะไม่ให้พ่อกับแม่ไปส่ง" แม่ของเขาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"ครับ ผมไปเองได้" ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยไป แต่เขาก็มีแผนที่หมู่บ้านที่คุณยายเคยให้ไว้
"งั้นแม่ฝากสวัสดีคุณยายด้วยนะ แล้วถ้าว่างๆพวกเราจะไปเยี่ยมนะ" อังเกรหิ้วของที่จะเอาไปฝากคุณยายแบบพะลุงพะลัง ไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่หน้าบ้าน
"ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ" อังเกรยื่นของให้คนขับรถเอาของขึ้นรถ
"โชคดีนะลูก" ทั้งสองโบกมือลาอังเกร ก่อนอังเกรจะขึ้นรถ และแล้วรถก็ได้ขับเคลื่อนออกไป เป็นรถของพวกเขาเอง
แต่พอไปถึงอังเกรก็เลือกที่จะลงหน้าหมู่บ้าน เพื่อที่จะได้ลองใช้แผนที่ของคุณยาย แต่ถึงเขาจะหลงทาง ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะคนในหมู่บ้านก็รู้จักกันหมด
.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments