“เสด็จพ่อตอบลูกมาสิเพราะเหตุใด เหตุใดต้องขัดขวางลูกด้วย...."
ร่างบางปล่อยโฮโดยไม่สนใจคนรอบข้างว่าจะคิดยังไงกับนาง นางผิดรึที่รักโหย่วอี้มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“ ลูกกับองค์รัชทายาทแคว้นต่งเย่วไม่สามารถรักกันได้ ” ฮ่องเต้เทียนหลางพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ ในใจลึกๆแล้วก็อยากบอกความจริงแก่ลูกสาวตนแต่ก็กลัวนางจะทำอะไรสิ้นคิด
“ ลูกไม่สามารถเเต่งกับโหย่วอี้ได้จริงๆ”
“มันเป็นโชคชะตา เชื่อพ่อเถิด”
“แล้วก็กักบริเวณองค์หญิงตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าองค์ชายใหญ่จะกลับเเคว้นซีอย่างเเน่นหนา หากเจิ้นรู้ว่าองค์หญิงออกไปได้หัวพวกเจ้าทุกคนก็ยากที่จะรักษาไว้บนบ่า
เทียนหลางเอ่ยจบจึงเดินออกจากท้องพระโรงไปทันที เขาทำไปก็เพื่อปกป้องนางสักวันนางก็จะเข้าใจเอง
เหล่าขุนนางต่างพากันทยอยปลีกตัวกลับ ก่อนไปก็ปลอบใจนางเล็กๆน้อยๆ
ฮรึกฮืออ~~~~
หยดน้ำใสเกาะทั่วกรอบใบหน้างาม ดวงตาของนางเริ่มบวมเฉิ่งจากการร้องไห้หนัก
แผล็บๆๆ เฮยเซ่อเลียหยดน้ำใสเป็นเชิงปลอบประโลมนายตน
“เฮยเซ่อ.. เจ้าว่าข้าน่าสมเพชหรือไม่”
“เจ้าก็แอบหนีไปตงเย่วสิ” เฮยเซ่อพูดลอยหน้าลอยตาเหมือนมันง่ายมากแหล่ะ
“เฮยเซ่อ... เจ้าพูดได้”ร่างบางเผยอปากอย่างไม่เชื่อว่าเจ้ากระต่ายอ้วนจะพูดได้ด้วย
“เจ้านิโง่จนไม่มีใครเทียบ ข้ามีปากมั้ย”
“ย่อมต้องมีสิ”
“นั่นแหล่ะคำตอบข้า พวกเจ้าหาผ้าปิดจมูกกันด้วย” เฮยเซ่อเอ่ยจบก็กระโดดลงจากอ้อมอกร่างบาง รอบตัวของเฮ่ยเซ่อเปล่งรัศมีสีเเดงคละคลุ้งไปทั่วท้องพระโรงเหมือนอัดแก๊สไว้ข้างในรอวันที่พวกมันระเบิด
“ เจ้าจะยืนโง่อีกนานมั้ย... รีบมาเปิดประตูให้ข้าสิก่อนพลังข้าจะสลาย”
ร่างบางตั้งสติได้จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูท้องพระโรงอย่างว่าง่ายเมื่ออากาศข้างในลอยออกไปปะทะข้างนอกเหล่าทหารหลายร้อยนายที่ยืนเฝ้านางอยู่หน้าประตูก็ต่างกันพาสลบเป็นเเถว
“เฮยเซ่อ เจ้าทำได้เยี่ยงไรสอนข้าหน่อยสิ”
“พูดมาก”
“นะๆๆ”
“มีคนเคยบอกเจ้าบางมั้ยว่าเจ้าช่างเป็นคนน่ารำคาญ พูดมาก แถมโง่อีก”
“หึ ขอบคุณเจ้ามากที่ชม”
“องค์หญิงเพคะ เจ้ากระต่ายขี้เหร่ไม่ได้กล่าวชมท่านเสียหน่อย”
ทั้งสามคนรีบมุ่งหน้าออกจากแคว้นเเต่ระหว่างทางก็ด่าทอกันไปมาระหว่างกระต่ายหนึ่งกับหญิงสาวสองนางกินระยะเวลานานถึง 2 วัน 2 คืน ค่ำในพักนั่น
ณ แคว้นตงเย่ว
แคว้นตงเย่วมีขนาดใหญ่กว่าเเคว้นของนางถึง3ส่วน ไม่แปลกที่ผู้คนจะพลุกพล่านมากการเเต่งกายพวกเขาก็เเตกต่างเเคว้นนางเช่นกัน
ตัดมาที่นางตั้งเเต่วันที่หนีออกมาจากแคว้นก็ยังมิทันเปลี่ยนอาภรณ์ วันนั้นพี่ชิงชิงจัดเต็มให้นางมากไปหน่อยผู้คนเลยจับจ้องมาที่นางคนเดียว
“ดีนะที่ข้าพอมีวรยุทย์ไม่งั้นคงได้เดินไกลหลายสิบลี้เป็นแน่ ”
“องค์หญิงหนีมาเช่นนี้มันจะดีเเน่รึ แถม..ยังหนีออกมาง่ายดายอีก” ชิงชิงเกาหัวอย่างสงสัย มันไม่ง่ายไปหน่อยรึ
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกเราฉะนั้นเรียกข้าว่าคุณหนูก็พอ”{ รู้สึกเสียวคอแปลก แหะ} ชิงชิงพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ
นางเดินนำไปยังร้านขายอาภรณ์พลางหิ้วปลีกตัวภาระขาสั้นสีดำปุกปุยเข้าไปด้วย{เป็นภาระข้าจริงๆ รู้งี้จับผัดเผ็ดกินตั้งเเต่คราเเรกก็คงดี}
“เถ้าแก่ข้าเอาอาภรณ์สีแดงตัวนี้ ส่วนพี่ชิงชิงท่านเลือกเลยว่าต้องการสีใด” นางจับชุดสีแดงพลิกไปมาเพื่อฆ่าเวลารอคำตอบจากสาวใช้
“คุณหนูเรามีเงินไม่ถึง10ตำลึงนะเจ้าค่ะ”
“ใครว่าข้าไม่มี” นางหันหน้าเข้ากำแพงพลางส่งสายตาเป็นเชิงให้สาวใช้ดูเป็นตัวอย่าง มือน้อยค่อยๆลวงไปยังซาลาเปาสองข้างเฮยเซ่อถึงกับรีบเบือนหน้าหนี
“เจ้ามันโรคจิต ไร้ยางอาย”
นางเมินคำพูดของเฮยเซ่อก่อนจะยื่นถุงผ้าสีทองสองใบให้ชิงชิงถือ
“ข้าเห็นว่าเสื้อตัวนี้มันเหลือที่ว่างเลยยัดไปตรงนี้... แห่ะๆๆ” นางพูดอย่างเขินอาย
“ตรงนั้นของเจ้ารึ” เฮยเซ่อยื่นมือน้อยๆชี้ไปยังซาลาเปาสองลูกอย่างเหลือเชื่อ ร่างบางปรับสีหน้าก่อนจะหิ้วปลีกเจ้าเฮยเซ่อเช่นเดิม
“อยากลองชิมมั้ยล่ะ”
เฮยเซ่อทำหน้าเหมือนจะอยากตายนางจึงยื่นให้ชิงชิงดูเเละมันก่อนสลับเข้าไปเปลี่ยนอาภรณ์
[ อย่าให้ข้ากับร่างเดิมเถอะเจ้าแหลกคามือข้าเเน่]
ผ่านไป 15 เค่อ
ทั้งสองคนต่างพากันสลับเข้าไปเปลี่ยนชุดเสร็จจึงเดินเล่นหาซื้อของกินแถวนั้นจนไปหยุดอยู่ร้านขายเครื่องประดับ
"แม่นางหน้าตาท่านไม่เหมือนคนตงเย่วเลย”
“เถ้าแก่มีแววตาที่แหลมคมเสียจริง ข้าเดินทางมาจากแคว้นตรงข้ามเลยยังไม่คุ้นชินมากนักเถ้าแก่โปรดชี้เเนะด้วย” นางเอ่ยด้วยวาจาสุภาพทั้งชีวิตนางไม่เคยดัดเสียงหวานจริตขนาดนี้มาก่อน
“เช่นนั้นเเม่นางก็ยังมิทราบว่าพรุ่งนี้แคว้นตงเย่วจะจัดงานมงคลเฉลิมฉลองให้แก่องค์ชายโหย่วอี้ ที่ขึ้นรับตำแหน่งองค์รัชทายาทพร้อมอภิเสกสมรสพระชายาเอก "เถ้าแก่เอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางยื่นผ้าปิดหน้าให้สองผืน
"แม่นางโฉมงามเกินไปเดี๋ยวจะโดนจับไปเป็นนางสนมองค์รัชทายาทเสียก่อน”
“เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอกรึ”เป็นชิงชิงที่สงสัยจึงเอ่ยปากถาม
“นางสนม999คน ขาดอีก1 ถ้าเจ้าต้องการก็ไปสมัครกับองค์ไทเฮาได้”
ชิงชิงยิ้มแก้เขินก่อนจะหยิบผ้าคลุมหน้าส่งให้คุณหนูตน
“คงไม่ไปเป็นโรคป่วยตายก่อนวัยอันควรล่ะ”เฮยเซ่อพูดด้วยน้ำเสียงกระแหนะกระแหน
“เบาหน่อยเดียวเจ้าก็โดนคนจับไปผัดเผ็ดกินหรอก”
“ข้าเป็นกระต่ายผู้น่าเกรงขามใครจะกล้ากินข้า”เฮยเซ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
“ข้าเเล้ว1”
“ไปหาโรมเตี๊ยมพักกันเถิดพี่ชิงชิง”
“เจ้าค่ะ”
“อย่าให้ถึงทีข้าบ้างเถอะ ข้าจะจับเจ้าบดให้ละเอียดเเล้วก็ขยี้ๆให้แหลกเลยคอยดู”
ข้าจะรอ
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมาย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments