…หมู่บ้าน…ธารจันทร์…
แสงภูติน้อยลอยร่อง บินว่อนไปทั่วหมู่บ้าน เงาสูงใหญ่นั่งผิงกองไฟอยู่ด้วยความหนาว ใบหน้านิ่งสงบคิ้วขมวดอยู่นานสองนาน คนรอบๆข้าง เพื่อนพ้องลูกน้องช่วยรบ ต่างพากันไม่สบายใจ…
ลินเมื่อเห็นนายตน เหมือนกำลังกลัดกลุ้มเคร่งเครียด นั่งอยู่ลำพังพียงคนเดียวนั้น ก็ได้เดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ
ลิน " ท่านชาย ท่านเป็นห่วงท่านเธียร์มากเหรอคะ "
อัลเลน " อืม.. แต่เรามีกฎของการชิงตัวเจ้าสาวที่ทำให้เธียร์ปลอดภัยอยู่คงจะไม่เป็นไร แล้วขาเจ้าหละ เป็นยังไงบ้าง"
ลิน" ดีขึ้นมากแล้วค่ะ คอร์นรักษาให้ และยาที่ทำจากธารจันทร์ของเรา วิเศษกว่าที่ไหนๆอยู่แล้ว"
อัลเลนเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อย ลินรู้อยู่เต็มอกว่า อัลเลนกำลังปวดใจ ที่ไม่สามารถรักษาคู่หมั้นไว้ได้ และยังคิดถึงคู่หมั้นมากเพราะเฝ้ารอมานานแสนนาน ทั้งรู้สึกเห็นใจ และสงสารในฐานะผู้พิทักษ์ และเพื่อนเล่นของอัลเลนมาตั้งแต่เด็กๆ
ลิน “โดยตามธรรมเนียมแล้ว ท่านเธียร์ต้องเดินทางไปกับท่าน แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ก็ไม่คิดว่าท่านเรเว่นจะขอท้าทาย การชิงตัวเจ้าสาวในครั้งนี้ ถึงขนาดยอมทำพิธีผูกใจให้ท่านเธียร์ โดยได้รับการรับรองจากท่านผู้เฒ่าสูงสุดแล้วด้วย”
มาเลย์ เซริน และอาวน์ ผ่านมาได้ยินพอดี จึงเดินเข้ามาร่วมวงผิงกองไฟกับนายผู้เงียบขรึม
เซริน " เฮ้ย..ฝ่ายนั้นใช้วิธีผูกใจ แต่ฝ่ายเราสิ หัวใจเพรียวๆ จะให้ทำพิธีอย่างเค้าบ้างก็ไม่เอา กลัวท่านเธียร์จะเป็นอะไรไป…เฮ้ย "
อัลเลน " พวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะนะ ข้าจะไปพักผ่อนเหมือนกัน "
พูดจบร่างใหญ่ ก็เดินจากไปด้วยแผ่นหลังกว้างๆ แต่ดูเหงาและเศร้า หายไปพร้อมกับความมืด
อาวน์ " นายเราแสดงออกก็ยาก พูดก็น้อย ท่านเธียร์จะเข้าใจได้อย่างไร"
มาเลย์ " ถ้าท่านเธียร์ ไม่เลือกท่านชายจริงๆ ท่านชายจะเป็นอย่างไร"
ลิน " ข้าก็ไม่รู้ได้ ตั้งแต่ข้าดูแล เป็นเพื่อนเล่นท่านชายมาตั้งแต่เด็กๆ ท่านก็มีแค่ฝ่าบาท กับคู่หมั้นก็คือท่านเธียร์เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ฝ่าบาทเล่าให้ท่านชายฟัง ถึงภาระและหน้าที่ ที่ต้องทำร่วมกันกับคู่หมั้น ท่านก็ดีใจมาก ท่านบอก ท่านไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป ท่านชายมีคนที่ต้องการท่าน และต้องการให้ท่านปกป้อง ตั้งแต่วันนั้น ท่านชายใช้ชีวิต เหมือนมีท่านเธียร์อยู่ร่วมด้วยทุกเวลา เฝ้ารอนับคืนนับวัน การมาของท่านเธียร์ และชื่อ..เธียร์...ท่านก็เตรียมชื่อนี้ไว้ตั้งแต่ยัง เยาว์วัยแล้ว"
มาเลย์ " ท่านเรเว่น ทั้งๆที่รู้ และสนิทกันมาตลอด กลับขอท้าชิง แถมยังเอาชื่อนี้มาใช้อีก ถึงแม่ท่านเรเว่นจะเคยเป็นราชินีก็เถอะนะ แต่ก็ไม่น่าทำแบบนี้"
อาวน์ " ท่ายชายก็น่าจะลำบากใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะคิดกับท่านเรเว่น เหมือนน้องชายแท้ๆ..เฮ้ย.."
มาเลย์ " ข้าเป็นห่วงท่านเทียร์นะ พิธีผูกใจทำให้มีความรู้สึกที่ดีเกิดขึ้นต่อกัน หากท่านเธียร์ใจอ่อน ตอบรับฝั่งนั้นไปแล้ว ท่านชายของเราหัวใจสลายแน่นอน"
ลิน " จากที่ข้าใกล้ชิดท่านนะ ข้าว่าท่านเธียร์ ถึงจะดูเหมือนชอบท่านเรเว่นเข้าแล้ว แต่ท่านคงไม่ตกลงปรงใจ กับท่านเรเว่นเร็ว แบบนั้นหรอก เราต้องรีบชิงกลับมาก่อน เพื่อสร้างโอกาส ให้ท่านชายเราบ้าง"
อาวน์ " ข้าว่าท่านชายหาทางอยู่"
เซริน" แต่มันก็ยากอยู่นะกฎการชิง ให้เข้าไปชิงตัวได้ เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ฝ่ายตั้งรับสิมีเป็นสิบ "
อาวน์ " เพื่อป้องกันการขอท้าชิง หรือเมื่อท้าชิงแล้วก็ยากที่จะชิงเจ้าสาวออกไปได้ด้วยตัวคนเดียวไงหละ"
ลิน " มีคนใช้กลอุบายตั้งแต่แรกแล้ว วันที่พวกเราไปรับตัวท่านเธียร์ ตามจุดที่ท่านผู้เฒ่าสูงสุดบอก ทันทีที่ท่านเธียร์มาถึง จะตื่นมาพบหน้าท่านอัลเลนเป็นคนแรก กลับมีคนใช้เวทมนตร์ส่งท่านเธียร์ไปสถานที่อื่น กว่าท่านอัลเลน จะหาเจอ ท่านเรเว่นก็เจอก่อนซะแล้ว"
มาเลย์ "ข้ายังจำได้ ตอนที่ท่านชายอัลเลนเจอหน้าท่านเธียร์ที่หลับอยู่ แม้จะแค่แวบเดียว มันเป็นใบหน้าของ คนที่มีรักแรกพบเลย "
ลินยิ้มตามสิ่งที่มาเลย์เล่าเล็กน้อย
ลิน " ท่านชายรักและปักใจ ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่ามีคู่หมั้นแล้ว...เจ้าหละ มาเลย์ เคยมีรักแรกพบเหรอ ถึงได้รู้ดีนัก "
มาเลย์ “ก็อยู่ตรงหน้านี่ไง..”
เซริน “อยู่ไม่ได้แล้วหละอาวน์ วัยรุ่นเค้าจะคุยกัน…55”
อาวน์และเซรินรีบแยกตัวออกไป ลินเงียบไปไม่ขัดข้อง หรือโต้แย้งใดๆกับคำพูดของมาเลย์ ได้แต่นั่งเงียบๆข้างกองไฟ สายตาจ้องมองอย่างเป็นกังวลด้วยความเป็นห่วงนาย อย่างสัตย์จริงเท่านั้น มาเลย์เห็นปฏิกริยาของลินเช่นนั่น ก็ยิ้มที่มุมปากนิดหน่อย และลุกเดินจากไปเงียบๆ ไม่ให้รบกวนลิน
...รุ่งสาง ณ ธารจันทร์ เหล่าภูตติดตามผู้ภักดี นั่งรวมกลุ่ม เพื่อรอนายมาบอกกล่าวเรื่องราว ในการเรียกรวมตัวครั้งนี้ ร่างใหญ่แต่คงรวดเร็ว เดินเข้ามาด้วยท่าที ที่เคร่งขรึมกว่าเดิม
อัลเลน " ที่เรียกประชุมกันตอนเช้ามืดวันนี้ เพราะข้าจะเดินทางเพื่อไปช่วยคู่หมั้น ข้าอยากได้ความคิดเห็นจากพวกเจ้าหน่อย
ภูตติดตาม" ครับ..ค่ะ"
อัลเลน " ข้าให้ภูตรับใช้ไปติดตาม เรเว่นแล้ว และตอนนี้เรเว่น กำลังเตรียมตัวอยู่ที่ ขุนเขากุหลาบ ที่นี่ไม่สามารถเข้าไปได้เลย เมื่อเรเว่นอยู่ที่นี่ บ้านแม่ของเค้า พลังเค้าจะแข็งแกร่งขึ้นมากแม้แต่ข้าเองก็คงไม่ชนะ ทางเดียวที่เราจะชิงคู่หมั้นข้ากลับมาได้ คือรอวันที่ออกจากหุบเขาเท่านั้น
คอร์น "ถ้าเราใช้วิธีเดียวกับที่ ท่านเรเว่นทำหละครับ"
อัลเลน " จะส่งใครไปล่อเรเว่น ที่จะไม่ต้องเสียชีวิต…พวกเจ้าก็รู้ฝีมือของเรเว่นดี และข้าจะไม่ยอมให้ใครไปตายแบบนั้น แม้ว่าคู่หมั้นข้ารู้ เธียร์ก็คงไม่ดีใจหรอก"
ธารา " ท่านอัลเลนบุกเดียวเข้าไป ก็คงไม่ไหวแน่ครับ ท่านเรเว่นฝีมือดี และยังมีผู้พิทักษ์ฝีมือเยี่ยมอีกตั้งสิบคน"
เหล่าภูตติดตามเงียบไปสักพัก กำลังครุ่นคิดถึงแผนการ การชิงตัวเธียร์กลับมาให้ได้
ลิน " แต่ถ้าเราล่อ พวกผู้พิทักษ์ออกมาแทนหละคะ "
อาวน์ " จะล่อด้วยวิธีไหนดีหละ ที่พวกมันจะไม่ยอมเฝ้าท่านเธียร์และทิ้งออกมาหมด ข้าว่ายากนะ ดีไม่ดีพวกมันคงรู้ตัวก่อน และอย่าลืมนะว่าต้องเข้าเพียงคนเดียว"
เซริน " ข้าว่าท่านเรเว่นคิดการณ์นี้ ไว้แน่นอน ยังไงท่านเรเว่นรู้ว่าเราต้องบุก"
อัลเลน " ถือว่าเรเว่นเก่งที่ใช้ป่าขนหลับใหลให้เป็นประโยชน์ แต่ก็น่าเสียดายผู้พิทักษ์ที่ภักดี "
อัลเลนนิ่งไปสักพัก เพราะการชิงเธียร์ ด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องยาก นอกเรเว่นที่เก่งกาจ ไม่แพ้อัลเลน และยังมีผู้พิทักษ์ ที่ฝีมือดีไม่แพ้กันอีกสิบคน หากคิดอ่านไม่ได้ ผลีผลามเข้าไป คงต้องเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ และอัลเลนเข้าใจข้อนี้ดี
อัลเลน " ข้าจะจัด ชุดภูตนักรบสักสามชุด ชุดละสิบสองคน ยกว้นชุดหลักแค่สิบคน ให้มุ่งหน้าไปรอที่สถานที่ถัดไป อีกสองชุด ซุ่มติดตามเรเว่นไปเงียบๆ และชุดสองข้าอยากได้ ภูตนักรบเวทย์ ที่สามารถแปลงกายได้โดยไม่สะดุดตา เฝ้าติดตามเรเว่น เพื่อสร้างโอกาส ให้ข้าเข้าไปชิงตัวเธียร์ให้ได้ และเมื่อใดที่ชิงตัวสำเร็จ ชุดที่สาม ให้ทำเป็นทีท่าว่า เป็นขบวนชิงตัวของข้า ล่อเรเว่นไปอีกทาง หาภูตที่รูปร่างคล้ายเธียร์ไปด้วยก็น่าจะช่วยได้เยอะ ชุดที่สองเองก็พยามยามหลอกล่อ ว่าเป็นขบวนข้าด้วยเช่นกัน จะได้ถ่วงเวลาได้นานขึ้น ข้าจะพาเธียร์เดินทางเพียงสองคนลำพัง เพื่อหลบเลี่ยงสายตา และถ้าข้าไปรวมชุดหลักได้แล้ว ให้พวกเจ้าทั้งสองชุดหากว่าถูกจับได้แล้ว รีบกลับมาสมทบ เดินทางอย่างลับๆคอยป้องกันชุดหลักไว้ และจงอย่าลืม หากเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่า จงยอมรับว่าเจ้าสู้ไม่ได้ และหาทางเอาชีวิตรอดกลับมาพบข้า การรบที่ชนะอย่างแท้จริง..สำหรับข้า...คือการชนะที่ไม่ต้องเสียสละชีวิตพวกพ้องเลย!!! "
เฮ้..เฮ้!!!! เสียงที่เปล่งจากลำคอ ดังกึกก้องไปทั่วธารจันทร์ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เสียงจากกลุ่มภูตนักรบเท่านั้น แต่เป็นเสียง ที่ส่งมาจากใจ จากเหล่าบรรดาภูตทุกตน..ณ ธารจันทร์แห่งนี้ เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด..ต่ออัลเลน
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายออกไป เตรียมตัวตามหน้าที่ เพื่อจัดเตรียมเสบียง ข้าวของที่จำเป็น เมื่อรุ่งอรุ่นมาถึง อัลเลน ก็สั่งให้เคลื่อนทัพย่อยๆ ไปตามตำแหน่ง ที่ได้ตกลงกันไว้ทันที
อัลเลน " ฝากดูแลชุดหลักด้วยนะอาวน์ ลิน"
ลิน " รับทราบค่ะ ท่ายชาย ดูแลตัวเองด้วยนะคะ เราจะรีบไปรอที่จุดนัดพบ"
อัลเลนและอาวน์ทั้งสองมองตา และพยักหน้าให้กัน ลิน อาวน์กับพวกรีบออกเดินทางทันที
มาเลย์ " ชุดสามพร้อมแล้วครับ"
อัลเลน " ไปซุ่มดูปากทางหุบเขา ปลอมตัวให้กลมกลืน กับคนถิ่นนั่นไว้ เรเว่นรู้แน่นอนว่าเราต้องไปซุ่ม ระวังตัวด้วย"
มาเลย์ " รับทราบครับ "
มาเลย์ก็รีบเดินทางไปโดยเร็ว
คอร์น " ชุดเวทมนตร์ พร้อมแล้วครับ"
อัลเลน "แปลงตัวเป็นสิงสาราสัตว์ต่างๆ ที่พอจะคอยจับตาดูได้ แต่อย่าเข้าไปใกล้มาก "
คอร์น " ครับท่านชาย"
ทุกคนในชุดเวทย์ ได้รับคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็รีบแปลงกาย ทั้งบิน ทั้งคลาน ทั้งเลื้อย ทั้งวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
อัลเลนเมื่อ เห็นเหล่านักรบของตนออกเดินทาง อัลเลนจึงเรียก ผู้พิทักษ์ราชันย์แห่งดิน มีร่างกายเป็นลาวาร้อนสีทอง เดือดปุดๆ แต่แอบมีเกล็ดเพชรแวววาว ติดทั่วทั้งตัวที่มีรอยปริตามผิวหนัง ความสามารถดั้งเดิม คือรับรู้การเคลื่อนที่ ทุกๆสิ่งที่สัมผัส ลงบนพื้นดินได้ อัลเลนสามารถใช้ความสามารถนี้ในการติดตามสิ่งที่อยากรู้ได้ เพียงแค่เรียกให้ราชันย์แห่งดินนี้ ให้ปรากฏกายขึ้นมา แล้วร่ายเวทมนตร์ ใช้ผู้พิทักษ์ตนนี้ ซึ่งเวทมนต์นี้สืบทอดกันมา จากราชาแห่งสายน้ำรุ่นต่อรุ่น
อัลเลน" ปรากฏตัวขึ้นเถอะ ผู้พิทักษ์แห่งข้า"
อันเลน" อัลเลน ในนามราชาแห่งวารี ข้าขอยืมใช้พลังแห่งเจ้า ราชันย์แห่งดินผู้ยิ่งใหญ่"
ผู้พิทักษ์ ราชันย์แห่งดิน คุกเข่าลงหนึ่งข้าง อัลเลนใช้มือสีฟ้า เเตะกึ่งกลางหน้าอกของผู้พิทักษ์ แล้วแสงพลังสีเหลือง ก็วิ่งผ่านมือสีฟ้าเข้ามา รวมตัวเป็นแสงสว่างวาป ที่ตรงหัวใจของอัลเลนแล้วหายไปในร่างกายสีฟ้านั่น อัลเลน แตะมือสีฟ้านั่นลงกับพื้นดิน หลับตาเงี่ยหูฟัง พลันลืมตา แล้วใช้ความสามารถดังเดิม ที่วิ่งได้แบบมองแทบไม่เห็นตัว วิ่งหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
...หุบเขา...กุหลาบ…
ฉันรู้สึกเหนื่อยจากการนอนร้องไห้ รู้สึกน้ำตายังไหลออกมาไม่หยุด ถึงตอนนี้จะเช้าแล้ว ฉันลืมตาขึ้นมา และเวียนหัวนิดหน่อย ด้วยความเครียด แม่บ้านเดินเข้ามาจับตัวฉันเบาๆ
แม่บ้าน " ตื่นแล้วเหรอค่ะ ไปอาบน้ำอุ่นๆก่อนดีกว่านะคะ อารมณ์จะได้ดีขึ้นนะคะ”
เธอช่วยประคองฉันลงจากเตียง ช่วยอาบน้ำ นวดตัวด้วยน้ำมันหอม ช่วยเปลี่ยนชุดให้ฉัน โดยที่ฉันไม่อยากขัดขืนอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันไม่อยากสนใจอะไร ใครอยากทำอะไรก็ทำ มันรู้สึกเจ็บรู้สึกจุกอยู่ในอก รู้สึกสมน้ำหน้าตัวเอง...ถ้าเป็นคนอื่นที่ทำแบบนี้ ก็คงไม่เสียใจเท่าเรเว่นเป็นคนทำ..
แม่บ้าน " เดี๋ยวทานข้าวก่อนนะคะ จัดไว้ที่สวนกุหลาบด้านนอกค่ะ "
ฉันโดนประคองไปกินข้าวด้วยแม่บ้าน อากาศดีเสียจริง แต่ใจคนสิที่ไม่ดี ฉันนั่งมองวิวของเมืองนี้ไป กินข้าวไปแบบเงียบๆ ได้ยินแค่เสียงนกร้อง สักพักฉันได้ยินฝีเท้าเดินเข้ามาทางด้านหลัง มันคุ้นเคยและถ้าเดาไม่ผิด
เรเว่น " เป็นไง อาหารอร่อยจริงๆใช่ไหม ไม่ต้องกินแต่ผลไม้แล้วนะ…55”
เรเว่นทักทายฉันเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ฉันเองก็คิดว่าชอบเค้า และก็พยายามทำใจให้ได้ พอเจอเรเว่นคนที่ใจดีเช่นเดิม เดินยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ฉันชอบเข้ามา ทักทายแบบอบอุ่นเช่นเดิม ปากของฉันเริ่มสั่น ร้อนในหน้าอกจนแน่นไปหมด พลันน้ำตาไหลโดยไร้เสียง…
เรเว่น " โอ๊ะ..ขี้แยแต่เช้าเลย งั้นเอาไว้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นก่อน แล้วข้าจะมาหาใหม่นะ"
เรเว่นพูดแล้วพลันหมุนตัวกลับเดินออกไป เรเว่นเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง หยิบแจกันตั้งโต๊ะ ที่จัดดอกไม้ไว้ ตีหัวตัวเองจนเลือดอาบ เลือดไหลเป็นทางยาวลงมาจนถึงตา ไม่รู้ที่ไหลลงมา เพียงเลือดอย่างเดียวหรือมีน้ำตาผสมลงมาด้วย เมื่อภูตรับใช้ได้ยินเสียงเพล้งดังออกมา ก็รีบเข้าไปดู ยิ่งทำให้ตกใจไปกันใหญ่ ที่เห็นเรเว่นเลือดอาบ ฮาริมวิ่งเข้ามาตามเสียงเอะอะโวยวาย
ฮาริม " เจ้าจะบ้าไปแล้วเหลือ เรเว่น"
เรเว่น " ข้าขอโทษ ข้าคุมอารมณ์ไม่อยู่ "
ฮาริม " ถอนมนตร์สะกดนางเถอะเรเว่น แล้วบอกความจริงนางไป เจ้าทำให้นางรักได้ไม่ยากหรอก ดีกว่าเป็นกันอยู่แบบนี้ ทรมานใจกันไปเปล่าๆ"
เรเว่น " บอกว่าอะไร บอกนางต้องเลือกข้า ห้ามเลือกกลับบ้าน อย่างนั้นเหรอ ข้าไม่อยากได้ความเห็นใจ แม้แต่กลับนาง ข้าจะเป็นราชา เรื่องแค่นี้ ข้าจะผ่านมันไปได้เอง"
ฮาริมเงียบเสียงลง พร้อมกับสั่งภูตรับใช้ให้ทำแผลของเรเว่น อย่างเงียบๆไป ฮาริม เริ่มคิดถึงคำพูด ของท่านผูเฒ่าสูงสุดขึ้นมา พิธีผูกใจ หากทำไปแล้ว เรเว่นอาจมีผลกระทบ จากการตีกลับของเวทมนตร์ แต่เรเว่นก็อยากจะทำ และนี่คงเป็นบทลงโทษสินะ ที่ใช้เวทมนตร์บังคับหัวใจคน และเจ้าก็กำลังรับโทษอยู่ใช่ไหมเรเว่น ถึงทำให้เจ้าตัดสินใจ ทำอะไรแบบนี้..
ฉันได้ยินเสียงโวยวาย โครมคราม แต่ใจฉันมันไม่สนใจ ฉันเดินเข้าห้อง นอนลงบนเตียงใหญ่นิ่งๆ นอนครุ่นคิด ฉันคิดว่าไม่อยากเจอหน้าเค้าอีก ฉันทนอยู่ เห็นหน้าเค้าไปทุกๆวัน แบบนี้ไม่ได้ ฉันรู้สึกคับแค้นใจ แม้แต่คำขอโทษหรือคำพูดว่าเค้าเมามันยังจะพอรับได้บ้าง แต่การกระทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย มันทำให้ฉันรู้สึกแค้นเคืองใจเรเว่นอย่างมาก อยากจะหนีเรเว่นไปให้พ้นๆจริงๆ แต่ฉันจะไปไหนได้ จะออกไปได้ยังไง ลองคิดหาทางดูดีไหมนะ
เธียร์ “แม่บ้าน ฉันอยากไปเดินเล่นในเมืองค่ะ”
แม่บ้าน " จริงๆหรือคะ ข้าจะพาท่านไป ท่านเรเว่นก็สั่งไว้ ถ้าท่านอยากไปที่ใด ก็พาท่านไปได้ค่ะ"
ใช่สิ…ฉันคงไม่ไปกับเรเว่นแน่นอน แม่บ้านเดินพาฉันมาเที่ยวในเมือง แต่ฉันกำลังมองหาทางออก มองไปด้านไหน ทางไหนก็เจอแต่ภูเขา จะออกไปได้ก็คงต้องบินไปเท่านั้น ฉันเดินสำรวจต่อได้สักพัก ฉันเหลือบเห็นภูตที่ไม่มีปีก ขายของอยู่ที่ตลาดมากมาย ฉันจึงเกิดความสงสัยขึ้น
เธียร์ " ภูตที่ขายของอยู่ ดูแปลกจากภูตในเมืองส่วนใหญ่นะคะ แม่บ้าน"
แม่บ้าน "ภูตงาน ค่ะ "
เธียร์ " ภูตงาน.."
แม่บ้าน " ภูตงาน คือแรงงานหลักของเราในโลกนี้ และเป็นภูตประเภทที่สำคัญที่สุด ภูตงานจะไม่มีเวทมนตร์ พวกเค้าจะเหมือนกับท่าน ไม่มีความสามารถดั้งเดิม เพียงแต่รูปร่าง ผิวกายยังคงมีลักษณะดังเดิมเท่านั้น ท่านดูนั่นสิคะ เค้าชื่อคลิฟ เค้าดูเหมือนนกฟลามิงโก้ แต่บินไม่ได้ ใส่เสื้อผ้าและพูดได้ใช่ไหมค่ะ ข้างๆคือภรรยาเค้า ชื่อ ฮันเน่ นางมีลักษณะของกบ แต่ไม่กระโดดเหมือนกบ ที่ใส่ชุดเดรสสวยงามอยู่ตรงนั้น ภูตงานมีที่ชีวิตที่สงบสุข ทุกคนทำงานเพื่อดูแลครอบครัวตัวเองเหมือนมนุษย์ บ้างก็ทำการเกษตร นำพืชผลมาขาย บ้างก็เก็บของป่ามาขาย บ้างถ้ามีความรู้หน่อย ก็ไปทำงานในบ้านภูตในส่วนอื่นๆ ภูตอื่นๆ ก็จะมี ภูตนักรบ ก็ทำหน้าที่เหมือนกับทหารที่ต้องดูแลปกป้องภูตงาน จากสิ่งที่จะเป็นอันตราย อย่างเช่นสัตว์ฟันปี ภูตเวทมนตร์ต่างๆ นี่ก็จะมีหลายประเภท ภูตเวทมนตร์นักรบ ภูตเวทมนตร์รักษา คือหมอสำหรับภูตงานเจ็บป่วย ภูตดอกไม้ ต้นไม้ต่างๆ คอยช่วยดูแลธรรมชาติ ให้อุดมสมบูรณ์ เพื่อภูตงานจะได้อยู่ดีมีสุข และยังมีภูติอีกเยอะที่ข้าเองเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นค่ะ แต่เราอยู่ร่วมกันได้ อ้อ..แต่ที่นี่ก็มีพวกสัตว์ธรรมดาที่พูดไม่ได้ ที่เรานำมาดำรงชีวิต ทุกชีวิตที่เรานำมาใช้ เราก็จะทำพิธีขอบคุณ"
เธียร์ " ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ธรรมดาเหมือนฉันอยู่สินะ"
ทุกอย่างที่ฉันเดินดูช่างดูแปลกตา แต่ให้ความรู้สึกสงบสุข บ้างก็บิน บ้างก็เดิน...บ้างก็เดิน!!! เดิน..บินไม่ได้นี่นา เอ๊ะ!!
เธียร์ " เมื่อกี้คนที่ชื่อคลิฟ เค้าขายน้ำผึ้งใช่ไหม"
แม่บ้าน " ใช่ค่ะ ที่บ้านเราก็มาซื้อน้ำผึ้ง ของเค้าบ่อยๆ รสชาติดีมากทีเดียวค่ะ"
เธียร์ " เค้าคงจะเลี้ยงผึ้งเก่งน่าดูเลย รสชาติถึงดี"
แม่บ้าน " ไม่ใช่หรอกคะ เค้าเข้าไปเก็บที่ในป่ามาทุกๆวัน"
เธียร์ " โห..เค้าคงจะเหนื่อยน่าดูเลยนะ ขนาดตอนฉันบินเข้ามา ใช้เวลาตั้งครึ่งคล่อนวันนะ"
แม่บ้าน " ไม่หรอกค่ะ ภูตงานเค้ามีทางเดินลัดเสมอ ที่จะออกไปโดยที่พวกเราจะไม่รู้ค่ะ"
เธียร์ “เค้าทำอย่างไรหละค่ะ”
แม่บ้าน " ท่านเธียร์คะ อยู่กับท่านเรเว่นเถอะคะ สิ่งที่ท่านเรเว่นทำ ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลเลยทีเดียว ท่านเรเว่นเอง ก็ไม่ใช่คนไม่ดี แต่อาจจะมีบางอย่างที่ไม่สามารถ บอกใครได้ ท่านเธียร์ได้โปรดเชื่อใจท่านเรเว่น อีกครั้งเถอะคะ"
เสียงแม่บ้านพูดกับชั้นด้วยโทนเสียงต่ำ ฉันขนลุกขึ้นมา แม่บ้านรู้ทันฉันเหรอนี่ เธอรู้หรอว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่..เชื่อใจเรเว่นเหรอ จะเชื่อใจเค้าอีกได้ยังไง สิ่งที่ฉันเสียใจมากที่สุด ไม่ใช่ที่เรเว่นล่วงเกินฉัน แต่เป็นเรื่องที่เค้าหลอกฉันภายใต้หน้าตาที่ฉันชื่นชมต่างหาก..ฉันจะไม่มีวันให้อภัย....
...บ้านเรเว่น…
เสียงเปิดประตูรั้วบ้านสีขาวดังขึ้น เรเว่นยืนมองเธียร์เดินกลับเข้าบ้าน พร้อมด้วยแม่บ้าน ใบหน้าของเธอดูไม่สดใสเช่นเดิม เรเว่นเจ็บแปล๊บที่ใจ ได้แต่ยืนแอบมองผ่านบานหน้าต่างเท่านั้น เค้ารู้ถ้าปรากฏตัวออกไปให้นางได้เห็น มันจะสร้างความทุกข์ ให้นางอย่างมาก เค้าเริ่มรู้ถึงพิษของพิธีผูกใจ เมื่อได้แลกมันมาก็ต้องได้รับผลของมัน
ฮาริม " เดี๋ยวนางก็จะดีขึ้นเอง ต้องให้เวลานาง ตอนนี้อย่าเข้าไปหาจะดีกว่า"
คำเตือนของเพื่อนผู้หวังดี ดังขึ้น เรเว่นหันมาตามเสียงทันที
ฮาริม " พรุ่งนี้ พวกเราจะเริ่มออกเดินทาง เจ้าจะมีแผนยังไงบ้างเรเว่น"
เรเว่น " อัลเลนมาแน่ และข้าคิดว่า เค้าอาจจะมาซุ่มอยู่แล้วตอนนี้ "
ฮาริม " ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้ผู้พิทักษ์ไปสืบหา และคอยระวังตรงทางออกของหุบเขาให้มากกว่าเดิม "
เรเว่น " ทำแบบนั้นก็ดี อัลเลนจะได้คิดว่าพวกเราออกทางนั้นจริงๆ"
ฮาริม" เจ้าจะไม่ออกทางนั้นเหรอ.."
เรเว่น " ไม่หรอก พวกเราจะออก ที่ทางเดินภูตงานแทน เรามีปีก ก็ไม่ใช่เราจะบินอย่างเดียว เราเดินบ้างก็ได้"
ฮาริม " เป็นความคิดที่ดีมากเลยเรเว่น ข้าเองยังคิดไม่ถึงว่าคนอย่างเจ้า จะเดินออกจากหุบเขา ด้วยทางเดินของภูตงาน
เรเว่น "ส่งคนไปทางออก ไม่ต้องซ่อนให้ดูเหมือนข้าจะไปทางนั้นจริงๆ รวมทั้งเจ้าและคนสำคัญ ที่อัลเลนจะเชื่อได้ ข้าและผู้พิทักษ์ และเธียร์ จะปลอมตัวเป็นภูตงานออกไปทาง ป่าสนร้องไห้ แล้วตัดออกไปตรง ทางเห่าหอน ก็ถึงหมู่บ้านโอ๊คแดงที่แรกที่ข้าจะพิชิต"
ฮาริน " เจ้าส่งผู้พิทักษ์ที่เลือกไว้ตั้งแต่แรก เพื่อเดินทางไปกับเจ้า ให้ไปล่อที่ทางออก แล้วเจ้าจะให้ใครไปคุ้มกันแทน รวมทั้งข้า ที่ไม่ได้ไปกับเจ้าด้วย "
เรเว่น " ผู้พิทักษ์ ที่เคยรับใช้แม่ข้า"
ฮาริม " เจ้าจะใช้ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาหรือ"
ฮาริมยังไม่ทันได้พูดจบ เรเว่นก็ชิงพูดตัดบทขึ้นมาก่อน
เรเว่น " ใช่ "
ฮาริม เท่าท่าดีใจ เพราะพวกเค้าก็มีชื่อเสียงมากช่วงราชินีเอเวอร์รีนยังมีชีวิตอยู่
ฮาริม " ตั้งแต่แม่เจ้าเสียไป ก็ไม่มีใครได้พบเห็นสิบผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาอีกเลย เจ้าพบได้อย่างไร..เรเว่น"
ฮาริม ถามด้วยความตื่นเต้นปนตกใจ เพราะลืมชื่อนี้ไปเสียนานแล้ว สิบผู้พิทักษ์ราชินีเอเวอร์รีน ทุกคนเป็นผู้มีชื่อเสียงเรื่องฝีมือการต่อสู้ไม่แพ้เผ่าใด หากเรเว่นได้มาช่วยทั้งสิบคน มันก็ทำให้ฮาริมเบาใจลงได้ ว่าเธียร์จะไม่ถูกชิงตัวไปโดยง่ายแน่นอน และหากพูดถึงความภักดีพวกเค้าเป็นที่ล่ำลือที่สุดในยุคนั้น และนายเก่าของพวกเค้าก็คือราชินีเอเวอร์รีน แม่ของเรเว่น และราเชลนั่นเอง มันยิ่งตอกย้ำถึงความภักดีนั้นขึ้นไปอีก
เรเว่น " หนึ่งในนั้น เค้าอยู่กับเรามาตลอด "
ฮาริม คิดด้วยความฉงนสงสัย
เรเว่น " แอนนา แม่บ้านที่อยู่กับเธียร์ในตอนนี้..คือหนึ่งในสิบผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 158
Comments