02 : เดียวดาย

...ตอนที่ 2...

@สถานนีตำรวจ

"นี่.. ผลชันสูตรศพของคุณจี" การัณย์ยื่นเอกสารชันสูตรศพของจิรัจฌาให้กับเมฆา

"ศพก่อนเสียชีวิตไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย แต่เป็นการถูกกระแทกอย่างแรง.. คาดว่าน่าจะถูกรถชน และกูไปหาข้อมูลมา มีที่หนึ่งอยู่ชานเมืองมีตู้โทรศัพท์เสียหายเมื่อคืนและคาดว่าน่าจะถูกชนเมื่อคืนด้วยความเร็วสูง เพราะเมื่อวานตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย และถัดไปไม่ไกลจากจุดตู้โทรศัพท์มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ตรวจสอบทะเบียนรถแล้วเป็นทะเบียนปลอม แล้วภายในรถมีรอยเลือด และกระจกรถมีรอยแตก คาดการณ์ว่าน่าจะใช้ปืนยิงมาจากทิศไหนสักที่.." การัณย์บอกเมฆา

"มึงคิดว่า.. มีคนจงใจฆ่าจีเหรอ?" เมฆาขมวดคิ้วแน่น

"ถูก.. เอ้อ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ เอกสารสำคัญๆและก็กระเป๋าของคุณจีก็หายไปด้วยว่ะ ตามจีพีเอสแล้วแต่ไม่เจอ คาดว่าน่าจะถูกทำลายไปแล้ว.." การัณย์สันนิษฐาน

"พวกมันต้องการอะไรวะ แล้วมันจะฆ่าจีทำไม"

"อันนี้กูไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ พวกมันไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ" การัณย์บอก

"กูไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นใครมาจากไหน แต่กูต้องลากตัวมันเข้าคุกให้ได้ ต่อให้กูต้องพลิกแผ่นดินก็ตาม.."

"กูจะพยายามช่วยมึงเต็มที่.. แต่กูว่าคุณดาวิกาไม่ได้ทำ.. เพราะถ้าเธอเป็นคนชนแล้วทั้งรถทั้งตู้โทรศัพท์เละขนาดนั้นทำไมเธอไม่มีบาดแผลหรือเป็นอะไรเลย.."

"กูไม่รู้ว่ะ.. แล้วต่อจากนี้กูจะใช้ชีวิตอยู่ต่อโดยที่ไม่มีจียังไง.. กูชินที่มีจีอยู่ข้างๆไปแล้วว่ะ" ว่าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆ

"อยู่ๆไปสักพักเดี๋ยวมึงก็จะชินไปเองแหละ ช่วงแรกๆมันก็จะทรมานหน่อยนะ.."

"แล้วมึงล่ะ.. ยังคิดถึงเธออยู่เหรอวะ?"

"..ช่างเรื่องกูเถอะ ว่าแต่มึงไปงานศพคุณจียัง?"

"ยังเลยว่ะ.. กูไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง กูกลัวว่าความรู้สึกกูจะรับไม่ไหวว่ะ.. ขนาดกูเตรียมใจมาแล้วนะ.." หลังจากที่เหยียบสนามบินฯ เมฆาก็นำลูกชายตัวน้อยของเขาไปฝากไว้.. แล้วก็ตรงมาหาการัณย์ที่ สน. ทันที เมฆายังไม่พร้อมที่จะไปเจอจิรัจฌาในสภาพแบบนั้น.. ไม่พร้อมเลยจริงๆ..

เมฆาคบหาดูใจกับจีรัจฌามานานหลายปี จิรัจฌาเป็นแฟนคนแรกของเมฆา และยังเป็นแม่ของลูกของเมฆา เมฆาอยากให้จิรัจฌาเป็นคนสุดท้ายของเขา.. แต่ในตอนนี้จิรัจฌาได้ทิ้งเมฆากับลูกไปแล้ว.. จิรัจฌาทิ้งเมฆากับลูกไปโดยที่ยังไม่ได้บอกลาสักคำ..

ชีวิตคนเรามันสั้นเสียจริง.. ยิ่งโตขึ้นก็เหมือนนับเวลาถอยหลัง.. วันนี้อาจจะดีๆอยู่ วันต่อมาอาจจะต้องตาย.. เมฆาน่าจะใช้เวลากับจิรัจฌาให้มากกว่านี้.. อยากจะกอด อยากจะจูบ อยากได้ยินคำว่ารักจากปากของจิรัจฌาอีกครั้ง.. แต่มันสายไปแล้ว..

เมฆาที่อุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนเดินเข้ามาภายในศาลาวัด.. มองตรงไปที่โลงเย็นที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยพวงหรีดสีขาวดำ.. ข้างหน้ามีรูปภาพของจิรัจฌาตั้งอยู่.. เป็นภาพที่มีรอยยิ้มที่ร่าเริงของจิรัจฌา ในภาพจิรัจฌาดูมีความสุขมาก.. ภายใต้สีขาวดำ

คุกเข่าลงตรงหน้าศพ มือหนาหยิบธูปขึ้นมาจุด.. เมฆาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับร่างกายที่ไร้ลมหายใจของจิรัจฌาในโลงศพ เมฆาต้องพูดร้องไห้คร่ำครวญหรือเอ่ยบอกให้จิรัจฌาไปสู่สุขคติดี? ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ

"จี.. ผมกับลูกมาหาจีแล้วนะ.. เราไม่ได้เจอกันตั้ง 1 อาทิตย์เลยนะ.. ผมไม่คิดเลยว่าเราจะได้มาเจอกันอีกครั้งแบบนี้.. และผมก็เชื่อว่าจีก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน.." ในหัวของเมฆาตอนนี้ มันมีสตอรี่ของจิรัจฌาเต็มไปหมด.. ความทรงจำดีๆที่เคยสร้างไว้ไปจิรัจฌามันกำลังตีกันในหัวของเมฆา

"ตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา.. ผมกับลูกคิดถึงจีมากๆเลยนะ ผมอยากกอดจี อยากจูบจี แต่มันไม่ทันแล้ว.. จีไปแบบไม่ลาผมกับลูกเลย.." มาบอกตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว จิรัจฌาเธอไม่รับรู้อะไรแล้ว

"ผมรักจี รักมากด้วย รักที่สุด.. แต่จีใจร้ายมากเลยนะรู้ไหม จีโคตรใจร้ายเลยอ่ะ ไหนจีเคยบอกว่าจะไม่ทิ้งผมกับลูกให้อยู่ตามลำพังล่ะ.. " ตั้งแต่เด็กจนโตเมฆาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและไม่มีความหมายจนกระทั่งมีจิรัจฌาเข้ามาในชีวิต เธอทำให้ต้นไม้ที่กำลังจะตายอย่างเมฆากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง..

จิรัจฌาเป็นความสุขและเป็นทุกๆอย่างของเมฆา และวันนี้เธอได้จากไปแล้ว.. และดูเหมือนว่าถ้าไม่มีเจ้าเมฆาตัวน้อยคนนี้.. เมฆาคงจะกลับไปเป็นต้นไม้ที่กำลังจะตายดังเดิม เหมือนตอนที่จิรัจฌายังไม่ได้เข้ามาในชีวิต..

"..จีจำได้ไหม วันนี้วันเกิดผมนะ ทุกๆปีวันนี้ผมจะมีจีอยู่ข้างๆและจีจะคอยเป็นคนให้ของขวัญเป็นคนแรกอยู่เสมอ ปีนี้ก็เช่นกัน แต่ผมไม่อยากได้ของขวัญจากจีแบบนี้เลย.."

"ปีนี้ผมไม่ขออะไรมาก ผมขอให้จีกลับมาหาผมกับลูก.. ขอให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ฝันร้าย.. คำขอนี้มันไม่มากไปใช่ไหม"

"ผมคิดถึงจีมากๆ คิดถึงจนใจแทบขาดแล้วนะ.. อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันคบรอบแต่งงานของเราแล้วนะ.. อีก 4 เดือนสายหมอกลูกของเราก็จะคบปีแล้วนะ.. ตอนนี้จีบอกผมได้ไหมว่าตอนนี้ผมกำลังฝันร้ายอยู่ ถ้าผมตื่นขึ้นมาผมจะเห็นจีกอดผมกับลูกอยู่ข้างๆ"

"ชีวิตที่ผมไม่มีจี มันว่างเปล่าโคตรๆเลยนะ มันดูไร้ค่า ไร้ความหมายเมื่อไม่มีจี.. ผมกับลูกยังอยากมีจีอยู่ในชีวิตอยู่นะ.. ทำไมจีถึงได้.. ถึงได้ทิ้งผมกับลูกไว้ในฝันร้ายแบบนี้ ถ้านี้มันเป็นความฝัน จีช่วยปลุกผมกับลูกของเราให้ตื่นจากฝันร้ายนี้สักทีได้ไหม.. ได้ไหมจี.."

...: 5 ปีต่อมา :...

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ระยะเวลาร่วงเลยมาแล้ว 5 ปี ตอนนี้เมฆายังคงจดจำจิรัจฌาไว้ในใจเสมอ และยังไม่ลืมความแค้นที่มีต่อคนที่ทำให้จิรัจฌาต้องตาย ส่วนเด็กชายเหนือสมุทร(สายหมอก) ลูกชายตัวน้อยของเมฆาตอนนี้ได้โตขึ้นมากแล้ว แถมยังเป็นเด็กช่างพูด สดใสและซุกซนตามวัย ทำให้เมฆาไม่มีเวลาได้เหงาเลย

การที่เมฆาเป็นพ่อที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวมันแสนจะเหนื่อยเสียจริง.. แต่เมฆาก็เต็มใจที่จะเหนื่อยเพื่อคนที่เมฆารัก..

เมฆาไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะจับตัวคนร้ายได้ ผ่านมา 5 ปีแล้วยังไม่รู้ได้ว่าใครเป็นคนทำเพราะศาลได้ตัดสินว่าดาวิกาไม่มีความผิด แต่เมฆาก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าดาวิกาเป็นคนทำแต่เพียงหลักฐานไม่มากพอก็แค่นั้น..

ตอนนี้เมฆาได้เลิกทำธุรกิจเหมืองแร่ตามที่จิรัจฌาเคยเอ่ยปากขอร้องเมฆาไว้เนื่องด้วยจากว่ามันอันตราย บวกกับที่เมฆากลัวว่าเขาจะไม่มีเวลาให้ลูกชายตัวน้อย เพราะเมฆาไม่ยอมให้ให้ใครเลี้ยงลูกชายเลยนอกจากคนที่เมฆาไว้ใจเท่านั้น..

เมฆาหันมาทำธุรกิจสัมปทานรังนกและรีสอร์ตหรูกลางเกาะเป็นธุรกิจหลักแทน.. และก็ยังมีธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย.. การตายของจิรัจฌามันทำให้เมฆารู้ได้เลยว่าเมฆาต้องมีอำนาจให้มากที่สุดถ้าอยากจะลากคนทำผิดเข้าคุก.. และชดใช้กรรม

เมฆากลายเป็นพ่อลูกอ่อนเต็มตัว เมฆากับลูกชายตัวติดกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอด ถึงจะมีหลายครั้งที่เมฆาไม่ให้ลูกชายตามไปด้วยเนื่องจากว่ามันอันตราย ด้วยความที่เมฆาเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอดถึงจะมีบางครั้งที่มีคนมาช่วยเลี้ยงบ้าง แต่ 95% นั้นเป็นของเมฆา

เด็กชายเหนือสมุทรติดเมฆาเอามากๆ แถมยังหวงเมฆามากอีกด้วย ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เลยก็ว่าได้.. แต่ถึงอย่างนั้นเมฆาก็ไม่คิดที่จะมีใครอยู่แล้ว

ทางด้านของการัณย์ เขาถูกปลดออกจากข้าราชการตำรวจแล้ว.. เนื่องจากผู้มีอำนาจต้องการปลดเขาเพราะการัณย์พยายามสืบหาหลักฐานคดีของจิรัจฌามากเกินไป..

ในช่วงแรกการัณย์ก็ได้ไปทำงานที่เกาะสัมปทานรังนกของเมฆา(เกาะสัมปทานเมฆา) แต่หลังจากนั้นการัณย์ก็ได้มาเปิดธุรกิจสนามยิงปืนบนเกาะของเมฆา(เกาะสมุทรเมฆา).. และการัณย์ยังเป็นคนเดียวที่นอกจากเมฆาแล้วเด็กชายเหนือสมุทรสนิทด้วยมากที่สุด..

ทางด้านของดาวิกา หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทที่อเมริกาก็ได้ทำงานเก็บประสบการณ์อยู่ที่นั้นอยู่หลายปี และไม่ติดต่อใครเลยที่เมืองไทยนอกจากนภาพราว..

ดาวิกาเรียนจบปริญญาตรีสาขาการจัดการโรงแรมที่ประเทศไทย ก่อนที่จะถูกส่งมาที่อเมริกา และเรียนจบปริญญาโทสาขาบัญชี(?)

ในปัจจุบันเรื่องราวของผู้หญิงคนนั้นยังฝั่งใจดาวิกาจนทำให้ดาวิกาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น และทำงานหาเงินเองเนื่องจากเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวที่ดาวิกาต้องเป็นคนยอมมาเสมอ ยอมมามากจนตัวเองนั้นเกือบที่จะเข้าคุกแทนน้องสาวของตนเอง..

ดาวิกาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาอย่างโดดเดี่ยว ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายคอยเข้ามาคุย หรือเข้ามาจีบอยู่เรื่อย แต่ดาวิกาก็รู้สึกว่าตนนั้นไม่เหมาะสำหรับความรักหรอก..

ดาวิกานับวันรอที่จะกับไปแก้แค้นและทำลายทุกคนที่เคยกดดาวิกาลงในวันที่ดาวิกาอ่อนแอ ในตอนนี้ดาวิกาได้เปลี่ยนไปแล้ว ดาวิกาได้รู้โลกมากกว่าเดิมแล้ว..

ดาวิกาได้ทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามานาน และวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ดาวิกาต้องกลับเมืองไทยสักที..

ผู้คนมากมายหลากหลายสัญชาติต่างหลั่งออกมาจากสนามบินฯเช่นเดียวกับดาวิกา.. เท้าสวยก้าวเดินออกมาจากสนามบิน.. ตากลมกวาดสายตามองไปรอบๆ..

"เปลี่ยนไปมากกว่าที่คิด.." พึมพำเบาๆ ดาวิกาไม่คิดว่าสนามบินจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้.. แต่ก็นะ เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนตาม.. เช่นเดียวกับดาวิกาในตอนนี้..

5 ปีที่ผ่านมามันสอนให้ดาวิกาได้เข้มแข็ง และรู้ทันโลกให้มากขึ้น และได้ทำความรู้จักกับคุณนายพิมพ์ดาวในมุมต่างๆที่ไม่ใช่มุมที่ดาวิกาได้สัมผัสรวมถึงดาริกาด้วย..

ตอนที่ดาวิกาได้ไปอยู่ที่อเมริกามันทำให้ดาวิกาได้เรียนรู้อะไรอะไรหลายๆอย่างมากมาย.. มันก็ทำให้ดาวิกาโตขึ้นกว่าเดิม..

@พัทยา

ดาวิกาลงจากแท็กซี่ ในมือขวาถือกระเป๋าเดินทาง ส่วนมือซ้ายก็กดออดประตูรั้วหน้าบ้าน..

"มาแล้วค่ะ!!" รอสักพักก็เสียงผู้หญิงเจ้าของบ้านร้องดังออกมาจากภายในบ้าน.. ก่อนที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะถูกเปิดออกโดยเจ้าของบ้าน เผยให้เห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน

"ดาวเหนือ!!" หญิงสาวเจ้าของบ้านร้องเสียงหลงอย่างตกใจ ไม่คิดว่าดาวิกาจะมายืนกดออดที่หน้าบ้านของตน

"สบายดีไหมคะคุณแม่พราวฟ้า คุณแม่ผอมลงมากเลยนะ เหนื่อยมากใช่ไหมล่ะ" ดาวิกาเอ่ยทักทายนภาพราวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะอ้าแขนกว้างก่อนที่นภาพราวจะโผเข้ากอดอย่างคิดถึง..

"โคตรคิดถึงแกเลยว่ะ" นภาพราวบอกอย่างจริงใจ เธอคิดถึงดาวิกามากๆ ตั้งแต่ดาวิกาได้ต่างประเทศก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามามากมาย..

"ไม่ถามหน่อยหรอว่าทำไมฉันไม่บอกแกว่าจะกลับเมืองไทย" ดาวิกาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ดาวิกาคิดว่านภาพราวจะเอ่ยถามประโยคดังกล่าวแทนที่จะบอกคิดถึงเสียอีก..

"ฉันว่าแกต้องมีเหตุผลของแกที่ไม่บอกฉัน ฉันจะคิดว่าแกมาเซอร์ไพรส์ละกัน แต่ฉันว่าเราเข้าบ้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะมีคนมาเห็น.." ว่าก่อนจะช่วยดาวิกาถือกระเป๋าเข้าไปภายในตัวบ้านโดยที่ไม่ลืมปิดประตูรั้วหน้าบ้าน..

พื้นที่บ้านของนภาพราวมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จึงสามารถสร้างอาคารได้ถึง 2 หลัง แต่เป็นอาคารที่ไม่ได้ใช้เนื้อที่มาก..

เดินเข้ามาภายในจะพบกับลานกว้างตรงหน้าเป็นอาคารบ้านสีขาว 2 ชั้น เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ชั้นล่างข้างหน้าจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนไม้ข้างเดียวขนาดใหญ่เผยให้เห็นภายในตัวบ้านทั้งหมด บันไดจะอยู่ทางซ้ายมือสุด ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน มีทั้งหมด 2 ห้องนอน ถ้ามองจากด้านหน้า หน้าต่างกระจกของชั้นบนจะอยู่ด้านขวามือสุด..

ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นอีกอาคาร เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ภายนอกถูกทาสีเขียวเข้ม ส่วนภายในถูกทาด้วยสีขาว ภายในจะเป็นโถงกว้างจะมีโซนนั่งเล่น โซนครัว โซรับประทานอาหาร โซนโต๊ะทำงาน และโซนเลี้ยงเด็ก ส่วนข้างนอกจะมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ..

"แกจะเอาไงต่ออ่ะ" นภาพราวเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งภายในอาคาร 2 ทางซ้ายมือ..

"ไม่รู้สิ.. ยังไม่ได้คิด" ดาวิกาตอบพรางมองไปรอบๆห้องโถงขนาดใหญ่.. "รู้ไหมว่าทำไมอยู่ๆฉันถึงกลับมาเมืองไทย ทั้งที่ฉันไม่อยากจะกลับมาเหยียบที่นี้" หันมาสบตานภาพราวก่อนจะเอ่ยถาม..

"แกคงไปรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้มา.." นภาพราวตอบตามความคิด..

"แกเนี่ยเนาะ แสนรู้จริงๆ" ดาวิกาว่าก่อนจะยิ้มกว้าง

"คนเว้ย ไม่ใช่หมา"

"มีคนใหญ่คนโตที่นู้นที่ฉันสนิทด้วยบอกกับฉันว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีคนใช้ชื่อและนามสกุลเก่าของฉันจดทะเบียนสมรส.. และยังป่าวประกาศว่าเธอคือฉัน แต่ดีนะฉันแอบไปเปลี่ยนนามสกุลก่อนที่จะไปอเมริกา ทะเบียนสมรสเลยถือเป็นโมฆะ.. ซึ่งคนนั้นก็คือน้องสาวฉัน" ดาวิกาบอก แน่นอนว่าเมื่อเราไปอยู่แปลกที่เราก็อยากจะหาเพื่อน หาคนสนิท และหาที่พึ่ง.. และคนที่ดาวิกาเลือกที่จะคบค้าสมาคมต้องเป็นคนที่ดาวิกามั่นใจว่าจะไม่มาหักหลังเธอทีหลัง..

นภาพราวนั่งเงียบ ไม่คิดเลยว่าดาริกาจะทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ แต่งงานทั้งทีใยต้องใช้ชื่อของดาวิกา แล้วเจ้าบ่าวของดาริกาคือใครกันนะ

"และแกจำคนที่ชื่อคณุฒน์ได้ไหม?" ดาวิกาถามอีกครั้ง..

"คนที่จู่ๆก็เกลียดแกแบบไม่มีเหตุผลอ่ะนะ?" ถ้านภาพราวจำไม่ผิด เมื่อตอนที่ดาวิกายังไม่ไปต่างประเทศ คุณที่ชื่อว่า 'คณุฒน์' มักจะตามมารังควานดาวิกาอยู่ตลอดๆ ไม่รู้ว่าดาวิกาไปทำอะไรให้เขาเกลียดชัง..

"เขา.. สั่งให้ใครคนหนึ่งมาฆ่าฉันที่อเมริกา" ดาวิกาบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง.. ไม่รู้ว่าดาวิกาไปทำอะไรให้คณุฒน์ เขาถึงได้เกลียดจนต้องการฆ่าดาวิกา.. ถ้าดาวิกาจำไม่ผิด ดาวิกาไม่เคยรู้จักหรือไปทำอะไรให้เขาเลยสักนิด..

"ที่แกกลับมา.. ก็เพราะเขาอย่างนั้นเหรอ?" นภาพราวถามไถ่

"มันก็ส่วนหนึ่ง แต่หลักๆคือ.. แม่" บอกด้วยสีหน้าที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ดาวิกาต้องเจ็บมากี่ครั้งแล้วกับคำว่า 'ที่ทำไปก็เพราะอยากปกป้องดาวิกา/รักดาวิกา'

"แม่แก? น้าพิมพ์อ่ะนะ?"

"อืม.. แม่จะไปลากตัวฉันให้แต่งงานกับตาแก่บ้ากามที่ไหนไม่รู้" ดาวิกาบอก..

"แกรู้ได้ยังไง? ใครบอกแก?" นภาพราวถามอย่างสงสัย คนที่บอกดาวิกาเขาเชื่อได้มากแต่ไหนกัน?

"น้าเทวา.. น้าเทวาไม่มีทางโกหกฉัน" ดาวิกาบอก "น้าเทวาเป็นทั้งที่พึ่ง เป็นทั้งพ่อ เป็นคนให้ข้าวให้น้ำฉันกินตอนที่แม่ไม่กลับบ้าน.. ถ้าไม่มีน้าเทวา.. ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้.."

"..ไม่เอาสิ แกอย่าร้องไห้สิเหนือ" ว่าพรางเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ดาวิกา

"แล้ว.. นิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง.." สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป

"5 ปีมานี้ดาวนิลเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แถมยังใส่ร้ายฉันให้โดนไล่ออกจากโรงพยาบาล ใบอนุญาตทางการแพทย์ฉันเลยถูกระงับ 3 ปี หลังจากนั้นฉันเลยไปได้ติดต่อกับนิลเลย" นภาพราวว่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่เข้าใจในตัวของดาริกาบวกกับความโกรธ..

"ฉันก็ไม่ได้ติดต่อเหมือนกัน แต่สองปีแรกดาวนิลก็โทรศัพท์มาหาฉันบ่อยๆนะ แต่หลังจากนั้นก็หายไปเลย ฉันก็ไม่อะไร.." ดาวิกาบอก.. "เอ้อ! แล้วลูกฉันล่ะ อยู่ไหน?" ดาวิการีบเช็ดน้ำตาก่อนจะปรับความรู้สึกของตัวเองให้กลับมาปกติอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามนภาพราว..

"ลูกแกอะไร ลูกฉัน!" นภาพราวบอก ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมา "ก้องฟ้านอนหลับอยู่อ่ะ อีกเดี๋ยวก็คงจะตื่นแล้วมั้ง นี่ก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว" นภาพราวตอบ.. ก่อนจะเริ่มทำอาหารเย็น..

"พราวฟ้า.." นั่งเงียบอยู่นาน ลังเลว่าว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี..

"ห้ะ?" นภาพราวขานรับ..

"เปล่าหรอก.." และดาวิกาก็ตัดสินใจไม่พูด..

"ฉันรู้ว่าแกมีอะไรจะพูด.. พูดมาเถอะ" นภาพราวว่า..

"ฉัน.. ขอยืมก้องฟ้ามาเป็นลูกฉันตบตาแม่ได้ไหม.. ฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าฉันบอกว่าฉันมีลูกแล้วแม่อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้.." ดาวิกาพูดออกไปในที่สุด นภาพราวเงียบ เธอหยุดทุกอย่างก่อนจะยืนแน่นิ่ง.. ดาวิกาคิดไว้อยู่แล้วว่านภาพราวเธอไม่อนุญาตหรอก.. ใครจะบ้าให้คนอื่นมายืมลูกไปเป็นของตัวเอง

"เอาสิ.. ยังไงแกก็เป็นเหมือนแม่ก้องฟ้าอยู่แล้ว แกจะเอาไปเป็นลูกแกตลอดชีวิตฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก" ผิดคาด! ดาวิกาคิดว่านภาพราวจะไม่อนุญาตเสียอีก..

"ว่าแต่แม่ฉันเคยเห็นหน้าก้องฟ้าไหม?"

"ไม่หรอก ตั้งแต่แกไปต่างประเทศฉันก็ถูกไล่ลาออก แล้วก็เลิกยุ่งกับแม่แกและน้องแก ช่วงแรกๆแม่แกก็มีส่งคนมาตามประมาณ 1 ปีกว่าๆ แล้วก็หายไปเลย แม่แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันติดต่อแกหรือว่าฉันมีลูก" นภาพราวตอบ..

"อ๋อ.. ลำดับแรก เราต้องปลอมแปลงเอกสาร" ดาวิกาบอกนภาพราว

"แกจะทำเดี๋ยวนี้เลยเหรอ?" นภาพราวถามอย่างแปลกใจ

"เราต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ เผื่อว่าแม่ส่งคนมาตามหาแก และเผอิญเจอฉัน ถ้าแม่จะลากตัวฉันไป ก็ยื่นเอกสารให้แม่ดูเลย" ดาวิกาบอก

"แกกลายเป็นคนเจ้าแผนการตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" นภาพราวถามอย่างติดตลก

"ก็ตั้งแต่รู้ว่าโลกนี้มันไม่มีคนที่จริงใจกับเราทุกคนหรอก ขนาดแม่ฉันยังไม่จริงใจกับฉันเลย ฉันจะเชื้อใจใครได้ล่ะ" ดาวิกาตอบ

"ก็ฉันไง.. แกเชื่อใจฉันได้ ฉันจะอยู่ข้างๆแกเอง.."

...แนะนำตัวละคร ตอนที่ 2...

คณุฒน์ วิมลสรากร (31)

-เครดิต คิม นัมจุน-

เทวา ธนินวราธร (38)

-เครดิต จองโฮซอก-

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!