[มิโดริยะ อิซึคุที่ตัวจริงคือจักรพรรดิที่จุติ part]
ข้ามองไปยังชายร่างผอมผมบอร์นที่มองข้ามาตั้งนาน
ความรู้สึกที่ตกค้างของร่างกายนี้ต่อคนตรงหน้าคือความนับถือ และข้ายังมองเห็นว่าเขามีชะตาคือฮีโร่โดยกำเนิด ไว้ใจได้แน่นอน
เป็นความรู้สึกที่แปลกดีนะ ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรกับใครที่ไหนนอกจากความรู้สึกที่อยากเอาชนะท่านพ่อและพี่ๆคนอื่นๆเท่านั้น
นี่น่ะหรือ มนุษย์ ซับซ้อนอย่างที่ข้าเคยอ่านเจอในหนังสือของท่านแม่เลย
เป็นความรู้สึกที่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีคนๆนี้ แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่สามารถบอกเรื่องของข้าต่อเขาได้ ไม่เช่นนั้นตัวเขาจะเป็นอันตรายแน่ๆ
ว่าแต่ ทำไมไม่มีความทรงจำเดิมของร่างนี้ไว้ให้ข้าบ้างเลยเล่า โธ่!
ดูเหมือนคนๆนี้จะสติลอยไปไกลแล้ว ดูตลกจัง
"คิกๆ"
อ่ะ ดูเหมือนเขาจะรู้สึกตัวแล้ว มองข้าแล้วตกใจใหญ่เลย
[มิโดริยะ อิซึคุที่ตัวจริงคือจักรพรรดิที่จุติ Part end]
"หนุ่มน้อยมิโดริยะ เป็นยังไงบ้าง"
เด็กหนุ่มมองสำรวจตัวเองแล้วหันไปพยักหน้าให้ชายร่างผอม
"ปกติดีนะ...ครับ"
เสียงแหบเล็กฟังดูลื่นหูยังคงเหมือนเดิม เหมือนกับร่างจริง
ดวงตาสีเขียวที่ตอนนี้ดูเหมือนอัญมณีสีมรกตเข้มมองมาที่ชายร่างผอมอย่างสดใส
ยากิ โทชิโนริ รู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกวูบ จนเขาสงสัยว่าวันนี้เขาจะหัวใจวายหรือเปล่า หนุ่มน้อยมิโดริยะของเขาน่ารักมาก!
"ถึงจะมีเรื่องสงสัยมากมายแต่ ฉันจะไม่ถามเซ้าซี้อะไรเธอ จะรอจนกว่าวันที่เธอตัดสินใจบอกฉันด้วยตัวเอง"
"ขอบคุณครับ ออลไมท์"
"ไหนๆก็หายดีแล้ว เธอจะกลับเลยไหม?"
"ก กลับหรอครับ?"
'ข้าเห็นว่าดาวดวงนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่พอสมควรเลย แล้วข้าจะกลับที่พักของเด็กคนนี้ได้อย่างไร? ร่างกายนี้ไม่มีความทรงจำอะไรเหลืออยู่เลยสักนิด ต่อให้มีความรู้สึกตกค้างและความคุ้ยเคยบางอย่างของร่างกายนี้ก็ตาม!'
'ถ้าหากบอกนิดหน่อย ว่าข้าไม่มีความทรงจำเหลือเลย คงไม่เป็นไรมั้ง..'
เด็กหนุ่มช้อนดวงตาสีมรกตมองยากิ โทชิโนริอย่างน่าสงสาร
"เฮือก!" ยากิ โทชิโนริยกมือกุมอก
"ค คือว่าออลไมท์..ความจริง..." เด็กหนุ่มก้มหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆและเงยหน้าขึ้นเอ่ยต่อ
"ผม จำอะไรไม่ได้เลย"
นั่นทำให้ยากิ โทชิโนริ ตกใจมาก
"หมายความว่ายังไงกัน?"
"ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาเห็นคุณก็มีชื่อของคุณปรากฏขึ้นมาในหัวและผมก็เผลอเรียกออกไปเอง ทั้งยามที่คุณเรียกชื่อที่ผมไม่รู้จักผมก็ขานตอบรับคุณไปเองโดยไม่รู้ตัว..."
เด็กหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปก็เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาฉ่ำน้ำคล้ายจะร้องไห้ ยากิ โทชิโนริ ตกใจรีบกล่าวปลอบเป็นพัลวัน
"ฉันเชื่อเธอหนุ่มน้อย ครั้งที่เธอเรียกชื่อออลไมท์ออกมา มันก็ยังคงเหมือนกับเธอคนเดิมที่มักเรียกฉันอยู่เสมอ ฉันรู้สึกได้! ยังพูดไม่จบใช่ไหมล่ะ นี่หนุ่มน้อยมิโดริยะ อย่าร้องเลยน้าาาา"
เด็กหนุ่มค่อยๆแย้มรอยยิ้มกว้าง พยักหน้าหงึกหงักอย่างเชื่อฟัง
"ความรู้สึกภายในผมน่ะนับถือคุณมาก รู้สึกเสมอว่าเมื่อมีคุณทุกอย่างจะไม่เป็นไร ถึงจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครก็เถอะ"
คำกล่าวนี้ทำให้ยากิ โทชิโนริ รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ เขายิ้มให้กับเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน
'เหมือนฉันมีลูกชายเลย จะว่าไป คุณนายมิโดริยะ(หมายถึงอิงโกะ)ก็ตัวคนเดียวนี่นะ ดีล่ะ ฉันจะเป็นพ่อเด็กคนนี้เอง ลูกชายของฉัน แมลงตัวผู้ตัวไหนมันกล้าเข้ามาตอมฉันจะไล่ไปให้หมด!' ยากิ โทชิโนริ หรือออลไมท์ตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้ว
เย็นวันนี้ออลไมท์จึงไปส่งเด็กหนุ่มที่บ้านในร่างมัสเซิลฟอร์ม เมื่อถึงหน้าบ้านออลไมท์เปลี่ยนกลายเป็นร่างทรูฟอร์ม
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองประตูบ้านตรงหน้าเขา แล้วหันกลับไปมองคนที่พามาส่ง
ออลไมท์ก็มองเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จะทำอะไรอยู่หน้าบ้านตัวเองอย่างขบขัน
เด็กหนุ่มยืนนิ่ง เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ปกติเขาที่มักไม่อยู่ติดปราสาทเสียเท่าไหร่ มักจะมีพวกคนอัศวินเปิดประตูให้หรือคอยปรนนิบัติตลอด และตัวเด็กหนุ่มเองพึ่งจะได้เห็นสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์จริงๆก็ตอนที่ตื่นขึ้นมาในร่างนี้นั่นแล
ออลไมท์เห็นเด็กหนุ่มยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตูบ้านตนเองอยู่นานจึงตัดสินใจเดินเข้าไปเคาะประตู
ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนด้านในพร้อมประตูที่เปิดออก
"ค่าๆ มาแล้วค่า"
แกร๊ก
"อิซึคุ!" มิโดริยะ อิงโกะพุ่งเข้าสวมกอดลูกชายของเธอทันทีที่เห็น
"แม่เห็นข่าววิลเลินบุกแล้วนะ เป็นห่วงแทบแย่ อิซึคุต้องกลัวมากใช่ไหม โธ่" เธอทั้งกอดทั้งลูบหัวลูบหลังปลอบอย่างอ่อนโยน
ตัวเด็กหนุ่มที่พึ่งจะได้รับกอดเป็นครั้งแรกในชีวิตนั้นได้นิ่งค้างไปแล้ว แต่ก็กลับมาตั้งสติได้รวดเร็ว
เด็กหนุ่มสวมกอดหญิงสาวตรงหน้าตอบกลับไป ใบหน้างามซบลงบนอกหญิงสาว
'อุ่นจัง...นี่น่ะหรอ แม่?'
'ทุกครั้งที่ข้าถามเรื่องท่านแม่ออกไปพวกพี่ๆหรือท่านพ่อมักบอกเสมอว่า ท่านแม่ตายไปแล้ว ข้าไม่ได้อยากได้ยินแบบนั้นสักหน่อย ข้าแค่อยากจะรู้ว่าท่านแม่เป็นใคร แต่กลับไม่มีใครบอกอะไรข้าเลย ท่านแม่ที่ข้าไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เข้าใจนิยามคำว่าแม่ด้วยซ้ำ'
'แต่ตอนนี้ ข้ามีแล้ว แม่ อบอุ่นเหลือเกิน..'
อิงโกะพึ่งจะสังเกตุเห็นใครอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยก็รีบคลายกอด ส่งยิ้มแห้งๆ
"อาจารย์ที่โรงเรียนของอิซึคุสินะคะ ขอบคุณที่พาอิซึคุมาส่งนะคะ" เธอกล่าวพร้อมก้มหัวขอบคุณจนออลไมท์รีบหยุดเธอแทบไม่ทัน
"ไม่เป็นไรๆ"
"ถ้ายังไงอยู่ทานข้าวด้วยกันเถอะนะคะ"
"เอ่อ.."
"เถอะนะคะ วันนี้ทำกับข้าวเหลือเยอะด้วยสิ" อิงโกะเอ่ยพร้อมนำมือแนบกับใบหน้าอย่างคิดหนักฉบับคุณผู้หญิง
ออลไมท์ปฎิเสธไม่ลง
"ก็ได้.."
หญิงสาวได้เชิญออลไมท์เข้าไปในบ้าน
ขณะที่เด็กหนุ่มที่ถูกเมินอย่างฉับพลันกำลังมองอิงโกะอย่างอาลัยอาวรณ์กับกอดนั้นอยู่
ออลไมท์อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ ยกมือขึ้นไปลูบหัวปลอบเด็กหนุ่มความจำเสื่อมในสายตาของเขา
.
.
โต๊ะอาหารขนาดไม่ใหญ่นัก นั่งทานข้าวกัน3คน บรรยากาศอบอุ่นอย่างยิ่งในความรู้สึกเด็กหนุ่ม ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกินก็เถอะ ก็ปกติเขาไม่ค่อยจะกินอะไรเท่าไหร่นอกจากว่าสิ่งนั้นจะให้พลังงานที่มากพอและเป็นประโยชน์สามารถล่อเลี้ยงเพิ่มพลังของเขาได้
แต่คุณแม่ที่เขาพึ่งเคยมีครั้งแรกของเขากินเขาก็จะกิน
ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ก้มหน้าก้มตาทานอย่างเดียว จนแก้มกลมป่องอย่างน่ารักสร้างรอยยิ้มเอ็นดูจากทั้งคุณนายมิโดริยะและออลไมท์
.
.
เมื่อกินข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว อิงโกะลุกขึ้นนำจานไปล้าง ตอนนี้จึงเหลือแค่ออลไมท์ในร่างแห้งกับเด็กหนุ่มความจำเสื่อมจำเป็นของเขา
"พรุ่งนี้โรงเรียนปิด2วันนะหนุ่มน้อยมิโดริยะ" ออลไมท์กล่าวบอก
ศัพท์ใหม่ที่เด็กหนุ่มพึ่งจะเคยได้ยินสร้างความงงงวยให้เขาอย่างมาก
"โรงเรียน?" เด็กหนุ่มเอียงคอถามอย่างสงสัย
"..." ออลไมท์ตบหน้าผากตัวเองดังเพี้ยะ
เด็กหนุ่มมองมาที่เขาในสายตาประมาณว่า
คุณตบหน้าตัวเองทำไม?
ออลไมท์ถอนหายใจออกมาและเอ่ยถาม ถึงแม้เด็กหนุ่มตรงหน้าเขาจะยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนเดิม ถึงจะเห็นว่ายังปกติดีแต่เจ้าตัวนั้นจำอะไรไม่ได้
"หนุ่มน้อยมิโดริยะ เธอจำอะไรได้บ้างในตอนนี้"
เด็กหนุ่มส่ายหัวตอบรับเสียงใส
"ไม่มีสักอย่าง"
"รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการใช้ชีวิต"
"ต้องกินอาหาร3ครั้งต่อ1วันแล้วก็ตามด้วยดื่มของเหลวสีใสๆทุกครั้งหลังอาหาร ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมก็เถอะ ครับ"
"อย่างอื่นล่ะ มีอีกไหม"
เด็กหนุ่มทำท่าคิดสักครู่ก็ตอบออกมาอย่างสดใสเหมือนเดิม
"ต้องหลับตาตอนกลางคืนครับ"
ออลไมท์กุมขมับ
เด็กหนุ่มมองเขาด้วยความคาดหวัง เหมือนมีตัวหนังสือแปะไว้บนหน้าว่า
ผมตอบได้ ชมผมสิ ผมเก่งนะ รีบๆชมเร็วๆ
"อืม หนุ่มน้อยมิโดริยะ เก่งมาก" ออลไมท์ยิ้มอ่อน
เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง เหมือนมีเอฟเฟคต์ดอกไม้สีขาวเบ่งบานสดใส
ออลไมท์ขยี้ตาแล้วมองอีกครั้ง เด็กหนุ่มมองเขาอย่างงุนงง
'ตาฝาดหรอ?'
"งั้นหนุ่มน้อยมิโดริยะ พรุ่งนี้เราไปฝึกกัน ฉันจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนให้ฟัง"
'ฝึกหรอ? ผมชอบการฝึก! และร่างกายนี้ก็อ่อนแอมาก!'
"ไปครับ!" เด็กหนุ่มตอบรับอย่างกระตือรือร้น
.
.
เด็กหนุ่มยืนนิ่งค้างหลังจากเปิดประตูห้องที่แม่บอกว่าเป็นห้องของเขา
โปสเตอร์และฟิคเกอร์ของชายกล้ามโตฉีกยิ้มหน้าขนลุกเต็มผนังห้อง โต๊ะ ชั้นหนังสือและชั้นเก็บของ หรือแม้แต่เตียงผ้าห่มลายออลไมท์กับตุ๊กตาออลไมท์
ถึงเด็กหนุ่มจะคิดว่ามันหลอนแต่ด้วยความรู้สึกตกค้างของร่างกายเขากลับชอบมัน
'บ้าอะไรเนี่ย!? จะว่าไป ความรู้สึกเดียวกันกับคนๆนั้นเลย ออลไมท์มี2ร่างหรอ? สุดยอด!'
"จะว่าไป ต้องอาบน้ำสินะ.."
"ทำความสะอาดร่างกายที่มนุษย์เรียกว่าอาบน้ำ...."
"แต่แค่ทำความสะอาด ใช้เปลวไฟแห่งการชำละก็ได้แล้วนี่นา ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย!" สิ้นคำเปลวไฟสีขาวที่ออกฟ้านิดๆถูกจุดขึ้นบนปรายนิ้วเรียวและค่อยๆลามไปทั่วร่างกาย จนกระทั่งปกคลุมทั้งร่างเปลวไฟก็หมอดดับไป ปรากฏร่างกายเปลือยเปล่าสีขาวนวลจนเกือบซีดของเด็กหนุ่ม เนื่องเพราะ เสื้อผ้าถูกเผาไหม้หายไปแล้ว
"อืม..พลังถูกผนึกไปเยอะเลยแฮะ แต่ช่างมันเถอะ ข้าก็แค่รอเท่านั้น ยังไงซะข้าจะปลดผนึกเมื่อไหร่ก็ได้"
ร่างกายเปลือยเปล่าที่ใครมาเห็นต่างต้องหลงใหลได้ขยับขึ้นไปซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนหนา หลับตาลงเพื่อเป็นการพักผ่อนร่างกายอย่างที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือ
ㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡㅡ
ตอนนี้จะเป็นตอนเบาๆ อ่านเพลินๆ
ให้ทุกคนพอรู้ว่าอิมเมจนิสัยน้องเป็นยังไง ความโบ๊ะบ้ะ น่ารักกับความอ่อนต่อโลกของน้องอะนะ
ในอดีตน้องรู้จักสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์แค่เพียงผิวเผินผ่านตัวหนังสือเท่านั้น
และที่สำคัญ
ไรท์ด้นสดค่ะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments