ฉันรู้สึกว่า ร่างฉันถูกคนดึงออกจากขอนไม้ใต้น้ำก่อนที่ฉันจะหมดสติ จนฉันพ้นจากความตาย เมื่อฉันลืมตาขึ้นมองเขา ฉันคลางออกมาเบาๆว่า "คุณนั่นเอง"
"ผมเองครับ วารินคุณปลอดภัยแล้วนะครับ ผมดีใจที่คุณฟื้นครับ"
ฉันยังคงนอนตักเขาด้วยความอ่อนเพลีย และฉันก็ไม่อยากลุกจากตักเขาด้วย ฉันไม่ได้แกล้งทำมารยาอยากนอนหนุนตัดเขานานๆ แต่ฉันหมดแรงจริงๆ
เวลานี้เขาสามารถที่จะทำอะไรกับฉันก็ได้เพราะที่นี่ไม่มีใคร และฉันก็ไม่มีแรงที่จะต่อสู้ แต่เขาคือสุภาพชนที่ไม่ฉวยโอกาสลวนลามฉันเลย
"วันนี้ผมรู้สึกร้อนใจจนไม่สามารถอยู่บ้านได้ จึงมาที่นี่ก็มาพบกับคุณอยู่ใต้น้ำนั่นเองแหละ น้ำนะมันไม่ลึกแต่มันเชี่ยว"
เขานั่นเอง เขาคือผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ที่สำคัญกว่านั้น เขาคือคนที่ทำให้ฉันพ้นจากความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ด้วยคำพูดสั้นๆ
"ผมนะชอบคุณนะครับ เพราะคุณเป็นหญิงพิเศษคนเดียวมีค่าต่อผมมาก ผมไม่เคยเห็นหญิงคนไหนมาก่อนที่แกร่งเหมือนคุณเลยจริงๆครับ"
คำชมของเขา มันทำให้ฉันตื่นเต้น เสียยิ่งกว่าความตายที่กำลังจะพรากชีวิตของฉันที่ผ่านไปหยกๆนี่เอง
เพราะคำชมของเขามันสามารถเยียวยาความรู้สึกเจ็บปวดที่คอยกัดกินดวงใจของฉันตลอดมา ทำให้ฉันมีความสุข มีกำลังใจ แม้ว่าฉันจะยังคงจดจำคำสาปแช่งของใครต่อใครได้ชัดเจนอยู่ แต่ก็รู้สึกเจ็บน้อยลง และรู้สึกเหมือนแค่ฝันร้ายที่ผ่านไป
ที่ผ่านมา แม้ว่าฉันจะทำงานอย่างหนักแต่ฉันกลับไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ก็เพราะฉันทำเพื่อครอบครัวของฉัน ฉันหวังว่าถ้าฉันทำงานอย่างหนักเราจะพ้นจากความยากจน
และฉันคิดไปอีกไกลว่า หากฉันสามารถทำให้ครอบครัวมีฐานะดีได้นั่นคือฉันสามารถใช้หนี้ชีวิตฉันได้ วันนั้นฉันจะพ้นจากความต้อยต่ำ
ก็เพราะคำพูดเหล่านี้ไงที่ทำให้ฉันต้องทำงานหนัก และการทำงานหนักของฉันมันยังมีผลทำให้เขาชอบฉันอีกด้วยโดยที่ฉันก็มิได้คาดคิดมาก่อน
"มึงจะเกิดมาล้างมาผลาญครอบครัวเหรอ คนที่มันไปเรียนมันคนโง่ทั้งนั้น คนที่ส่งลูกเรียนมันก็ยิ่งโง่ ที่ยอมเป็นขี้ข้าลูกของตัวเอง"
"เลี้ยงโตแล้วยังไม่พออีกเหรอ ยังจะเอาความลำบากมาให้พ่อแม่ไม่รู้จักจบจักสิ้นอีกเหรอ"
"ใครในครอบครัวของเราได้เรียนบ้างละ ทุกคนยังอยู่ได้ ไม่เห็นมีใครตายซักคน"
"มึงคอยดูนะ ไอ้คนที่เรียนนะ มันจะไปได้แค่ไหน มาลองแข่งกันดูก็ได้ว่าคนที่เรียน กับคนที่ไม่เรียนใครจะได้ดีกว่ากัน"
คำพูดทุกคำ มันดูเหมือนคำสั่งห้าม แต่ว่ามันไม่ใช่ มันเป็นมากกว่านั้น มันคือความชิงชังและการดูหมิ่นการศึกษา เป็นคำสบถแช่งด่า
เป็นความเกลียดชังต่อครอบครัวที่ส่งลูกหลานเรียนต่อ เพราะครอบครัวเหล่านั้นมันทำให้ลูกหลานของใครต่อใครอยากเอาอย่าง อยากเรียนเหมือนกับเขาบ้าง
เพราะในทางตรงข้าม หลายครอบครัวต้องการใช้ให้ลูกทำงาน หาเงินให้พ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหาเงินแบบใดก็ตาม ขอแค่ให้ได้เงินมาตอบแทนค่าข้าวปลาอาหารที่พ่อแม่เลี้ยงดูมาได้ก็พอ
ความจริงนะไม่ต้องแช่งด่ากันด้วยความชิงชังกันขนาดนั้นก็ได้ เพียงแค่พูดง่ายๆว่า
"พ่อแม่หวังดีกับแกนะ ถึงไม่ให้ไปร่ำไปเรียน เพราะมันจะทำให้แกเสียเวลาทำงานหาเงิน"
"อีกหน่อยแกก็ต้องมีผัวแล้วจะเรียนไปทำไม อย่าเรียนเลยนะ"
พูดแค่นี้พวกลูกๆก็เกรงใจจะตายอยู่แล้ว พวกลูกๆคงไม่กล้าฝืนคำพ่อแม่หรอก
ก็เพราะลูกๆถูกสอนสั่งให้มีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อยู่แล้ว ที่ท่านทำให้ลูกๆเกิดมา และเลี้ยงดูลูกๆให้เติบโตเป็นผู้เป็นคนกับเขาได้
ส่วนลูกๆก็อย่าไปหวังว่าท่านจะส่งเสริม หรือส่งเสียให้เรามีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หรือมีความเจริญรุ่งเรืองเลย...
ชาวบ้านหลายคนคิดแค่สั้นๆว่า การเรียนมันทำให้สิ้นเปลือง สู้การรีบใช้งานลูกเราเสียตั้งแต่ยังเล็ก ในเมื่อมันก็ทำงานได้แล้วนี่
พวกเขาไม่ได้คิดว่าหากลูกๆมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ท่านก็จะได้รับผลนั้นด้วย และหากลูกๆตกต่ำแล้วท่านก็จะแย่ไปด้วย
สิ่งเหล่านี้มันฝังอยู่ในใจชาวบ้านส่วนใหญ่ และมันก็กระจ่างชัดอยู่ในหัวฉันอยู่แล้ว ซึ่งมันทำให้ฉันอดที่จะเปรียบเทียบความคิดของชาวบ้านบางคนกับเขาและพ่อของเขาซึ่งเป็นถึงนายอำเภอมิได้
"ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ฉันยินดีมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีให้กับคุณ เป็นการตอบแทน"
คือคำพูดที่ฉันคิดว่าดีที่สุด และเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุด...เขาก็ได้แค่ยิ้มเท่านั้น...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments