Horror rules

Horror rules

กฎการเอาตัวรอดในห้อง 333 ยามวิกาล

...⚠️ WARNING ⚠️...

เนื้อหาในนิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่น่ากลัวและละเอียดอ่อน ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการหวาดระแวงหรือแพนิค เนื้อหาในเรื่องไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลหรือสถานที่ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาทำให้บุคคลหรือสถานที่เสียหาย และแน่นอนว่ามันไม่มีอยู่จริง กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยล่ะ ขอบคุณ

...----------------...

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่คลังนิยายหลอนของเมย์ริน หากกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ในเวลากลางคืน ก็อย่าลืมปิดล็อกประตูให้สนิท แง้มหน้าต่างเพื่อให้มีอากาศเข้ามา คุณคงไม่อยากขาดอากาศหายใจหรอกจริงมั้ย ปิดไฟทุกดวงให้มืดมิด ปีนขึ้นเตียงหยิบผ้าห่มมาคลุมโปง และมาอ่านไปพร้อมๆกันเลย อ๊ะๆๆ อย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจนะว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังของคุณน่ะ : )

...----------------...

" เห้อ แย่จริงๆ ไม่น่าลืมสมุดการบ้านไว้ที่ห้องของรุ่นพี่เลย "

ผมกล่าวขึ้นเบาๆด้วยความหงุดหงิด ถ้าไม่เพราะวิชาที่ลืมเอาไว้จะต้องส่งในวันพรุ่งนี้ ผมคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ในเวลานี้หรอก ผมก้มมองนาฬิกาแอนะล็อกที่อยู่บนข้อมือแสดงเวลา 22:50 บรรยากาศในโรงเรียนตอนกลางคืนกลับน่าขนลุกอย่างประหลาด ช่างขัดกับตอนกลางวันเสียเหลือเกิน แต่ก็ช่างเถอะ ผมรีบปีนรั้วโรงเรียนเข้าไปและยังต้องคอยหลบยามอีกด้วย

" ห้องเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ไหนกันนะ "

ผมเดินขึ้นไปที่ตึกสามชั้นที่สาม น่าเเปลกใจที่ห้องเรียนนี้ตั้งอยู่ในห้องหมายเลข 333 พอดิบพอดี จึงทำให้หาห้องได้ไม่ยากนัก ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดแฟลชและไล่ส่องหมายเลขห้อง ผมไม่เปิดไฟดวงใหญ่เพราะไม่อยากให้ยามสังเกตได้ หากยามรู้เรื่องเขาล่ะก็ผมคงได้เข้าห้องปกครองเป็นแน่ ผมเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้องหมายเลข 333 ซึ่งเป็นห้องของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 และยังเป็นห้องที่คุณครูวิทยาศาสตร์ใช้สอนวิทยาศาสตร์อีกด้วย ผมค่อยๆเปิดประตูไม้เข้าไปช้าๆ เจ้าประตูบ้านี่ก็เล่นส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด จะมียามได้ยินเสียงเข้ามั้ยล่ะเนี่ย เอาเถอะ รีบหยิบรีบกลับก็แล้วกัน ผมเดินตามหาโต๊ะที่คาดว่าอาจจะมีสมุดของผมอยู่ หากโชคดีก็คงจะเจอ หวังว่าคงไม่มีรุ่นพี่คนไหนหยิบติดไม้ติดมือไปหรอกนะ...

...ติ๊ง!!...

เสียงไลน์ของผมดังขึ้น ตฤณเพื่อนของผมนั่นเอง

" จะทักมาทำไมเวลานี้วะ "

ผมกล่าวขึ้นเบาๆด้วยความหงุดหงิดแต่ก็ต้องตอบ

...****************...

: ' ได้ข่าวว่ามึงแอบปีนเข้ารั้วโรงเรียนเหรอวะ '

; ' เออ ก็กูลืมสมุดของสุนทรีไว้ ก็ต้องมาหาดิ '

: ' เออๆๆ มึงไม่รู้เหรอว่ามีกฎห้ามเข้าไปในอาคาร 6 หลังสี่ทุ่มอ่ะ '

; ' ไม่ ก็กูพึ่งย้ายมาแค่เทอมเดียวนี่ '

: ' ระวังตัวไว้เเล้วกัน มันมีตำนานเรื่องกฎของห้องม.5/3 อยู่นะเว้ย '

; ' กฎอะไรวะ '

: ' เขาเล่ากันมาว่า ถ้าเข้าไปในห้อง 333 ตอนกลางคืนจะเจอกับกระดาษแผ่นนึงที่เขียนกฎเอาไว้ ต้องทำตามกฎนั้นไม่งั้นจะไม่ได้ออกมา '

; ' โห มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย '

: ' เอาน่า เชื่อไว้ก็ดี มันเคยมีข่าวรุ่นพี่หายไปเพราะไปที่ห้อง 333 ตอนกลางคืนนะ '

; ' เออๆ งั้นกูขอหาสมุดก่อน เดี๋ยวจะรีบกลับ '

: ' เค '

...****************...

ตำนานงั้นเหรอ ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ผมเป็นนักเรียนใหม่นี่นา555555

สักพัก ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวมาอยู่ตรงหน้าผม ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่เจ้าตฤณเล่ามาทันที

" เป็นเรื่องจริงเหรอวะ "

ด้วยความสงสัย ผมจึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู กระดาษมีสีเหลืองซีดแลดูเก่าแก่ไม่ใช่น้อยแต่ตัวหนังสือยังคงชัดเจนเหมือนพึ่งเขียนมาหมาดๆ

หัวกระดาษมีตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า

" กฎการเอาตัวรอดในห้อง 333 ยามวิกาล "

...----------------...

...กฎการเอาตัวรอดในห้อง 333 ยามวิกาล...

สวัสดี คุณคงได้บังเอิญเห็นกระดาษแผ่นนี้เข้าสินะ หากคุณไม่ได้มาที่ห้อง 333 ในเวลา 22:00 ก็จงเผากระดาษนี่ทิ้งไปซะ แต่ถ้าหากคุณยังดื้อรั้นมาที่นี่ในเวลา 22:00 โดยฝ่าฝืนคำสั่งของโรงเรียน คุณคงต้องพึ่งกระดาษแผ่นนี้แล้วล่ะ จงปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดซะ แล้วคุณจะรอดชีวิตกลับไปได้ แต่หากไม่ทำตาม เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณจะปลอดภัย อย่างไรซะ ก็ขอให้โชคดีแล้วกัน

คุณจะยังคงปลอดภัยในเวลา 22:00 ขณะนั้นคุณมีตัวเลือก 2 ทาง คือ

1.1 จะกลับบ้านเลย หากคุณเลือกที่จะกลับบ้านเลย จงรีบลงจากตึกโดยใช้บันไดฝั่งขวามือของตึกเท่านั้น ย้ำ บันไดฝั่งขวามือเท่านั้น

1.2 เอาล่ะ หากคุณเลือกข้อนี้ คืออยู่ต่อ คุณคง

ดื้อรั้นพอสมควร ขอให้โชคดีและปฏิบัติตามกฎ

ต่อๆไปได้เลย

หลังจากเวลา 00:00 โรงเรียนนี้จะไม่ปลอดภัยสำหรับคุณอีกต่อไป เพราะคุณได้เข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งแล้วซึ่งไม่ใช่โลกมนุษย์ ห้องหมายเลข 333 อาจจะช่วยให้คุณอยู่รอดปลอดภัย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นก็ตาม จงอย่าได้ออกไปจากห้องนี้โดยเด็ดขาด(ยกเว้นสถานการณ์ในข้อ 10) ให้คุณล็อคประตูและหน้าต่างทุกบานเอาไว้ ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศหายใจ คุณมีแน่นอน

ในเวลาประมาณ 00:15 จะมียามเดินผ่านหน้าประตูห้องและฉายไฟเข้ามาในห้อง แต่คงไม่ใช่ยามในแบบที่คุณรู้จักและคุ้นชินหรอก ระวังอย่าให้แสงไฟส่องถูกตัวคุณ แต่ถ้าคุณหลบไม่ทันแล้วล่ะก็ เขาจะเขย่าประตูซ้ำๆๆอย่างแรงและตะโกนว่า " ใครอยู่ข้างใน " ซ้ำๆ คุณต้องมีสติ ห้ามขยับตัวเมื่อถูกแสงไฟส่องและห้ามตอบอะไรเป็นอันขาด สักพักเขาก็จะไปเอง แต่ระวังอย่าให้ถูกส่องได้เป็นครั้งที่สองล่ะ เพราะครั้งนี้จะไม่มีโอกาสสำหรับคุณอีกต่อไปแล้ว

หากมีเด็กผู้หญิงสวมกระโปรงสีแดงเดินเข้ามาในห้อง คุณสามารถขอความช่วยเหลือให้พาคุณออกไปจากที่นี่ได้ ย้ำว่าต้องใส่กระโปรงสีแดงเท่านั้น หากเป็นสีอื่นให้คุณหาที่ซ่อนตัวให้มิดชิดเเละเงียบที่สุด เธอแค่เข้ามาเอาของ สักพักก็จะออกไปเอง

ไม่ว่าใครจะมาเคาะและขอให้ประตู ก็อย่าเปิดให้ อย่าลืมสิ ใครจะมาที่โรงเรียนในเวลานี้ เพราะงั้นขอให้มั่นใจได้เลยว่าคนที่อยู่อีกฟากของประตูไม่ใช่คนที่คุณรู้จักแน่นอน ให้คุณทำเป็นเมินซะ และอย่าตอบโต้อะไรกลับไป ถ้าเขาเบื่อเขาก็จะไปเอง

เวลา 02:45 - 03:00 จะมีแมวสีดำเดินเข้ามาในห้อง นั่นหมายความว่าคุณสามารถออกไปทำธุระส่วนตัวเช่นการเข้าห้องน้ำได้ แต่ต้องเป็นตอนที่เจ้าเหมียวเดินมาแล้วนะ ไม่เช่นนั้นคุณอาจถูกฉีกร่างกายออกเป็นชิ้นๆได้ขณะที่คุณก้าวเท้าออกไป อย่าลืมกลับมาในห้องให้ทันเวลาและล็อกประตูอย่างเดิมล่ะ

หากมีหญิงวัยกลางคนสวมแว่นตาทำผมทรงกระบังเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของคุณ ให้เปิดประตูต้อนรับเธอซะ อย่าลืมกล่าวคำสวัสดีอย่างสุภาพด้วยล่ะ เธอคืออาจารย์เจ้าที่ประจำห้องนี้ จงทำตัวมีมารยาทกับเธอ ห้ามพูดอะไรเด็ดขาดเว้นแต่เธอจะถามคุณ ให้ตอบอย่างสุภาพนอบน้อม (คุณสามารถตอบความจริงได้แค่ชื่อจริงชื่อเล่นและชั้นที่คุณเรียนอยู่เท่านั้น) หากโชคดี คุณทำให้เธอพอใจ เธออาจให้เครื่องรางคุณมาซึ่งสามารถช่วยป้องกันอันตรายในยามคับขันได้ แต่ถ้าไม่ เสียใจด้วย คุณคงอยู่ยากแล้วล่ะ

หากคุณได้กลิ่นคาวเลือดคาวหนองพร้อมเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ห้อง 333 จงรีบมุดลงใต้โต๊ะซะและหายใจให้เบาที่สุดหรือกลั้นหายใจไปเลยก็ดี มีดอกไม้อยู่บนตู้หนังสือมุมห้อง ให้หยิบมันมาอยู่ใกล้คุณด้วย กลิ่นดอกไม้จะช่วยกลบกลิ่นของคุณทำให้มันไม่สามารถแยกคุณออกจากพวกมันได้

หากคุณผ่านสถานการณ์ในข้อ 8 มาได้ คุณมีเวลาสองนาทีที่จะเก็บสัมภาระของคุณและคลานเข้าไปในโต๊ะของคุณครู และให้ขึ้นไปนั่งบนที่รองขา ระวังอย่าให้หักลงมาและอย่าให้เท้าคุณอยู่บนพื้นล่ะ ไม่งั้นคุณอาจไม่รอด

เอาล่ะ ถ้าคุณผ่านเหตุการณ์ในข้อ 9 มาได้อีก คุณเก่งมากๆเลย สนใจจะไปเป็นนักผจญภัยมั้ยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาสนใจเรื่องนั้น สิ่งอื่นกำลังตามมา สังเกตุโคมไฟทั้งสองที่อยู่หน้าห้อง 333 เอาไว้นะ

10.1 ถ้าไฟหรี่ลงเรื่อยๆจนเกือบจะดับ มันมาแค่ตนเดียว เพราะงั้นไม่ต้องตกใจไป ให้พยายามสังเกตรูปลักษณ์ของเจ้าตัวนั้น ถ้ามันมีลักษณะเหมือนในข้อแปด ให้ทำตามข้อแปด ถ้ามีลักษณะเหมือนในข้อเก้า ให้ทำตามข้อเก้า

10.2 ถ้าไฟกระพริบถี่ๆ มันมากันเป็นฝูงเลยล่ะ เก็บสัมภาระ แล้ววิ่งออกจากห้อง 333 เดี๋ยวนี้ ห้องนี้ไม่ช่วยคุณอีกต่อไปแล้ว วิ่งให้ไวที่สุดในทิศทางตรงข้ามกับไฟตัวที่กระพริบ(จะมีไฟดวงหนึ่งที่ไม่กระพริบ) วิ่งไปจนสุดทางเดินและให้ออกนอกเขตของเเสงไฟ ความมืดจะช่วยพรางตัวคุณจากพวกมันเอง ทางที่ดีควรถอดสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ในความมืดเช่นนาฬิกาที่หน้าปัดเรืองแสงในความมืดได้ออกไปซะ เพราะนั่นจะเป็นจุดสนใจให้พวกมันอย่างมากทีเดียว หลังจากพวกมันออกไปแล้ว ให้จับเวลา 5 นาทีจนมั่นใจว่าพวกมันไปกันหมดแล้ว ค่อยกลับไปที่ห้อง 333 อีกครั้ง ยินดีด้วยคราวนี้คุณปลอดภัยแล้วล่ะ

คุณยังอ่านจนถึงตรงนี้อยู่เหรอ เก่งมากๆ อีกไม่กี่นาทีก็จะ 6 โมงเช้าแล้ว ทนอีกหน่อยนะ

ปล.ลำดับเหตุการณ์อาจไม่เกิดขึ้นตามลำดับหัวข้อที่ถูกเขียนเอาไว้

^^^**ด้วยรัก ,^^^

^^^ม.5/3 รุ่นที่ 13**^^^

...----------------...

อ่า บ้าบอมาก รุ่นที่ 13... นั่นมันตั้ง 10 กว่าปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มันรุ่นที่ 25 แล้วนะ แต่คนเขียนนี่ขยันเขียนไม่ใช่เล่นเลย เล่นเอาอ่านซะสนุก แต่ผมก็เเอบขนลุกซะด้วยสิ อ่านไปมาๆ รู้ตัวอีกทีก็ 23:30 แล้ว นี่เวลามันเร็วหรือผมอ่านช้ากันแน่นะ... แต่ว่าเรื่องราวนี้มันชักน่าสนุกจนต้องอยากลองเสี่ยงซะแล้วสิ วันนี้อยู่บ้านคนเดียวด้วย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง555 เอาล่ะ ทีนี้ก็รอจนเที่ยงคืนสินะ สิ่งที่ผมกลัวกว่านี้น่าจะเป็นถูกยามจับได้มากกว่าล่ะมั้ง ผมขำเบาๆและนั่งรอไปพลางๆ จนเสียงเข็มนาฬิกาในห้องเรียนดังขึ้น

......แก่ก........

เสียงบอกเวลาเที่ยงคืนที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้ต่างรู้กัน ที่เหลือก็..

" อ๊ะ กระดาษ กระดาษหาย!! "

ผมอุทานขึ้นมาเสียงดัง กระดาษที่ผมถือเอาไว้เมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งที่ผมกำมันเอาไว้แน่นขนาดนั้นแท้ๆ โชคดีที่ผมความจำค่อนข้างจะดี ผมจำได้อย่างคร่าวๆ เขาบอกว่ายังไงนะ... ไปล็อกประตูและหน้าต่างใช่มั้ย... ผมค่อยๆเดินไปล็อกประตูและปิดหน้าต่าง มีอากาศหายใจจริงๆด้วย ผมถือโอกาสเปิดเครื่องปรับอากาศด้วยเลย เพราะจะให้รอในนี้จนเช้าก็คงร้อนตายพอดี นี่ประเทศไทยนะไม่ใช่เเคนาดา จะให้อากาศเย็นสบายคงไม่ได้ ทีนี้ก็รอพิสูจน์ว่ายามจะมาตอน 00:15 จริงมั้ย ในใจผมคิดว่าคงเป็นเรื่องหลอกเด็กเอาไว้ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎโรงเรียนมากกว่า แต่ความมืดบวกกับบรรยากาศที่วังเวงก็แอบหลอนอยู่ไม่ใช่น้อย ปกติโรงเรียนของผมจะมีนกค่อนข้างมาก แต่ทำไมตอนนี้ช่างเงียบซะจริง แม้แต่เสียงแมลงสักตัวยังไม่มีเลย หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงกันนะ...

...- 00:13 -...

กึก..กึก..กึก

เสียงรองเท้าหนังที่นักเรียนหลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกำลังใกล้เข้ามา ใช่ครับ เสียงแบบนี้ คงไม่ใช่ใครนอกจากลุงยามยังไงล่ะ ผมแอบวิตกเล็กน้อย ถ้ายามเจอผมจะเป็นยังไง... แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น ไฟฉายที่ยามถือก็ส่องมาในห้อง ×ิบหายแล้ว... ผมหลบไม่ทัน!!!

ผมนึกย้อนไปถึงกฎข้อที่สาม... ห้ามขยับตัวถ้าถูกส่อง!! ผมนิ่งเป็นท่อนไม้ ไม่กล้วแม้แต่จะหายใจ เสียงรองเท้านั้นหยุดกึกที่หน้าห้อง 333 ก่อนจะตามด้วยเสียงทุบประตูดังปึง! เขาทุบถี่มากๆ พร้อมกับคำรามในคอ ใช่ครับ คำรามในคอ คุณอ่านถูกแล้ว

" ใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างในใครอยู่ข้างใน "

เขาแผดเสียงออกมาอย่างบ้าคลั่ง ผมแทบจะกรีดร้องออกมาอยู่แล้ว เสียงนั้นมันน่า...สยดสยอง...เหลือเกิน.... ผมอยากกลับบ้าน... ผมได้แต่คิดเพียงแค่นั้นแต่ก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวแท้แต่ปลายนิ้ว สักพักเขาก็จากไป ผมขาอ่อนและทรุดลงด้วยความกลัวสุดขีด นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน กฎประหลาดๆ เรื่องประหลาดๆ มันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่แค่เรื่องหลอกเด็ก!!

เอาล่ะ ผมต้องตั้งสติและพยายามนึกกฎข้อต่อไปให้ออก ตอนนี้เวลา 00:24 ผมต้องตั้งรับสถานการณ์ต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ ไม่มีเวลามากลัวแล้ว แต่น้ำตาผมกลับพรั่งพรูออกมาไม่หยุด ทำไมผมต้องลืมสมุดด้วย มีเวลาให้ผมกลับไปตั้งเยอะ ผมสามารถทำตามกฎข้อที่ 1.1 ก็ยังได้นี่นา... ทำไมล่ะทำไม ผมยอมติดร.ของอาจารย์สุนทรีดีกว่าต้องมาตกอยู่ในสถานการ์ณบ้าบอเช่นนี้

ตีหนึ่งครึ่งแล้ว...ผมพยายามถากตาไม่ให้หลับ เพราะผมต้องเตรียมพร้อมทุกเมื่อ ยังดีที่พอมีขนมติดไม้ติดมือมานิดหน่อยช่วยบรรเทาความหิวไปได้บ้าง เพราะผมอดข้าวเย็นเพื่อแผนการแอบมาเอาสมุดโดยเฉพาะน่ะสิ ผมยังไม่ทันกัดขนมคำแรกก็แทบอาเจียนออกมาเพราะกลิ่นอันช้ำเลือดช้ำหนองนี้ นี่ข้อไหนกันนะ... ข้อที่แปดใช่มั้ย... ผมหันไปที่มุมห้องและรีบคว้าดอกไม้พร้อมลากสัมภาระและมุดลงใต้โต๊ะนักเรียนโต๊ะหนึ่งทันที กลิ่นนั้นแรงขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบจะอาเจียนออกมา มันพะอืดพะอมสุดๆแต่ผมก็ต้องกลั้นเอาไว้ ทรมานจริงๆครับอยากอาเจียนแต่อาเจียนไม่ได้เนี่ย สักพักผมก็รู้สึกได้ว่ามันเดินเข้ามาในห้องแล้ว ผมพยายามหายใจให้เบาที่สุด โชคดีที่ผมเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ จึงสามารถทำข้อนี้ได้ง่ายๆ ตอนนี้ผมเห็นแค่ข้อเท้าของมัน มันดู...อมม่วงช้ำสุดๆ เหมือนศพขึ้นอืดก็มิปาน เดี๋ยวนะ...ทำไมมันมาหยุดตรงหน้าโต๊ะที่ผมหมอบอยู่ล่ะ...

......กร๊อบ!!......

เสียงกระดูกหักพร้อมกับใบหน้าของมันที่ก้มลงตรงหน้าผม ผมแทบกรี๊ดออกมาแต่ก็ยังอุดปากไว้ได้ทัน ผมเข้าใจทันทีว่าทำไมต้องอยู่เงียบๆ มันไม่มีดวงตา... ผมรีบกลั้นหายใจทันทีเเละพยายามหลับตา สักพักมันก็เดินออกไป อันที่จริงผมไม่อยากบรรยายลักษณะของมันไปมากกว่านี้ เพราะมันคงทำให้คุณเห็นภาพเลยล่ะ เท้าของมันยังคงหันออกไปข้างนอก หมายความว่าที่มันก้มมองผมเมื่อครู่นีั มันแค่หักตัวลงมาสินะ เห้ย!! เหลือเวลาอีกสองนาที...

ผมรีบคว้าสัมภาระและมองหาโต๊ะครูที่ว่า นั่นไง!! เสียงลากอะไรบางอย่างใกล้เข้ามาแล้ว... ผมไม่รอช้ารีบมุดตัวเข้าไปใต้โต๊ะทันที และปีนขึ้นไปนั่งบนที่รองขา มันดูเหมือนจะหักยังไงไม่รู้... ผมแอบก้มลงไปมองเจ้าตัวประหลาดที่มาใหม่และนั่นคงเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์ หัว... มันเอาหัวลากไปกับพื้น มิน่าเขาถึงไม่ให้ผมเอาเท้าลงบนพื้น ถ้ามันเห็นผมแม้แต่นิดเดียว ผมคงถูกมันจับกินแน่ๆ ก็มันเล่นเอาโซ่ล่ามหัวแล้วลากไปทั่วนี่นา ตามทางที่เจ้านี่เดินก็มีรอยเลือดเปรอะเปื้อนเป็นทางยาว กลิ่นคาวคละคลุ้งอบอวลไปทั่วห้อง ผมแทบจะอาเจียนปนกับคราวที่แล้วออกมาเลย ภาวนาขอให้มันไปสักที...

เสียงลากของมันห่างออกไปแล้ว คงจะออกไปแล้วแหละ ผมรวบรวมความกล้าเเละยื่นหน้าออกไปดู

" อ่า ไปแล้วจริงๆสินะ "

ผมพูดเบาๆออกมาด้วยความโล่งอก พร้อมก้มมองนาฬิกาข้อมือ ตีสองแล้วหรือนี่... เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกินนะ ผมยังไม่ทันได้พักหายใจ ไฟที่อยู่ข้างหน้าห้องกลับกระพริบขึ้นมา ผมพอจะจำได้ว่าต้องวิ่งไปทางตรงข้ามกับดวงที่กระพริบ แต่ถ้ามันกระพริบทั้งคู่ล่ะ... ผมจะต้องวิ่งไปทางไหน.. ??

ไม่มีเวลาให้คิดย้อนไปแล้ว ผมคว้าสัมภาระแล้ววิ่งออกไปทางฝั่งซ้ายมือทันที ใช่ครับ ผมสุ่มเอายังไงล่ะ ขวาร้ายซ้ายดี คุณรู้จักหรือเปล่า โชคดีที่รัศมีของแสงไฟไม่ครอบคลุมทั้งชั้น ทำให้ห้อง 332 ยังพอมีที่มืดให้แอบได้บ้าง ผมรีบโยนนาฬิกาทิ้งทันทีด้วยความเสียดาย เพราะนาฬิกานั้นผมได้เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากคุณย่าของผมก่อนที่ท่านจะเสีย แต่ช่างมันเถอะ ผมต้องรอดเอาไว้ก่อน ห้องนี้มีรอยเจาะที่รุ่นพี่ทำเอาไว้เพื่อแอบดูห้อง 333 ผมจึงสามารถแอบดูตรงนั้นได้

สัตว์ประหลาดที่หน้าตาไม่เหมือนมนุษย์ ตาเบิกกว้างเป็นสีขาวแซมด้วยเลือด ปากที่ฉีกถึงใบหูและฟันที่ยาวเเหลม มือที่ยาวถึงพื้น ร่างกายที่ผอมแห้งสีอมม่วงและกลิ่นสาบดั่งศพหลายสิบตัวเดินเข้าไปในห้อง 333 หลังจากนั้นพวกมันก็คล้ายกับว่าคลุ้มคลั่ง... มันวิ่งไปรอบห้อง ข้าวของกระจัดกระจายพังเละเทะไปหมด พร้อมกับคำรามเสียงดังไม่เป็นภาษา บางตัวก้มเอาหัวไถพื้น บางตัวเดินไปรอบห้อง บางตัวก้มมองใต้โต๊ะ บางตัวปีนขึ้นไปเกาะพัดลม ให้ตายสิ เสียดายเครื่องปรับอากาศจริงๆ ยังไม่ได้ปิดเลยนะเจ้าบ้า มันเปลืองเว้ย... ถ้าผมยังอยู่ในห้องนั้นคงไม่รอดแหงๆ คงถูกพวกมันกระชากจนชิ้นส่วนกระจัดกระจายแน่ๆ

พวกมันไปแล้ว... ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าห้อง 333 ทันที " อี๋.. แหวะ สกปรกชะมัด "

ผมพูดขึ้นเบาๆและทำการล็อคประตูห้อง ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดเล็กน้อยๆให้พออยู่ได้ ผมว่าผมอาจจะตายเพราะกลิ่นสาบนี่มากกว่าเสียอีก...

...02:45...

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนัง หากจำไม่ผิดช่วงเวลานี้คงมีแมวสักตัวเดินขึ้นมาหาผม ตอนนี้ผมอยากอาเจียนเหลือเกิน...

...... เมี๊ยว!!...

นั่น!! เสียงแมว!!

ผมรีบหันไปมองตามต้นเสียงและพบเข้ากับแมวขนสีดำเดินเข้ามา...ไม่สิ ทะลุเข้ามามากกว่า จะยังไงก็ช่างเถอะ ผมขอตัวไปอาเจียนก่อนแล้วกัน จะพุ่งแล้ว... ผมได้แต่หวังว่าจะรอดไปได้นะ...

ตีสามยี่สิบ... ผมยังคงนั่งอยู่ในห้องแหละวิงวอนขอให้ออกไปได้ ผมพยายามไม่ร้องไห้เพราะมันจะทำให้ผมไหวตัวช้าลงและไม่ทันระวังตัว

...ก๊อกๆๆ...

นั่น...เสียงเคาะประตูนี่... ผมก้าวขาสั่นๆออกไป และมองผ่านกระจกที่ติดไว้หน้าประตู... ผู้หญิงไว้ผมทรงกระบังและสวมแว่นตา? อ่าา จำได้แล้ว...

ผมเปิดประตูพร้อมไหว้อย่างนอบน้อมและก้มหัวลงเล็กน้อย ถ้าผมจำไม่ผิดเรื่องมารยาทไทยอ่ะนะ... ผมอยู่ที่แคนาดามา 15 ปี พึ่งย้ายกลับมาไทยเร็วๆนี้เอง จึงไม่ค่อยชินกับมารยาทไทยสักเท่าไหร่ คุณครูเดินเข้ามาในห้องและเริ่มตวัดสายตามามองผม

" ชื่ออะไร "

คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้ผมรู้สึกสั่นๆ

" ผมชื่อ...ชนัศชัยครับ... "

" งั้นเหรอ... " คุณครูตอบด้วยเสียงยานคางฟังดูน่าขนลุกแต่กลับกัน ผมดันรู้สึกผ่อนคลายไปเสียเยอะเลย

" พักนี้มีปัญหาเรื่องการเรียนไหม "

" ไม่มีครับ ขอบคุณมากๆนะครับ "

คุณครูเริ่มหยิบของพะรุงพะรังออกมาจากกระเป๋าสะพายของเเก ผมที่เห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วยยกของ หวังว่าเเกจะขอบคุณผมนะ...

คุณครูยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า

" ขอบคุณมาก "

หลังจากนั้นเธอก็หายตัวไปทันที เล่นเอาผมตกใจเลยทีเดียว แหม เล่นซ่อนแอบเก่งนะครับเนี่ย...

ผมเดินไปล็อคประตูตามเดิม และซุกมือเข้าในกระเป๋ากางเกงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด แต่กลับพบยันต์แผ่นหนึ่งในนั้น

" คงจะเป็นของคุณครูล่ะมั้ง "

ผมเปรยขึ้นเบาๆ อาจจะเป็นเครื่องรางนำโชคก็ได้อย่างงั้นสิ...

......เอี๊ยด.........

หืม...มีคนมางั้นเหรอ...

ผมรีบมุดหาที่ซ่อนที่มีช่องให้แอบมองได้ เอ๊ะ นั่นไง!! เด็กผู้หญิงกระโปรงสีแดง!!

ผมดีใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รีบวิ่งไปหาทันที

" นี่คุณ ช่วยผมหน่อย "

" ... "

" ช่วยพาผมออกไปจากที่นี่ที "

" ... "

" เห้ย ผมพูดกับคุณอยู่นะ ทำไมไม่ตอบผมล่ะ!! "

ผมเริ่มหงุดหงิดที่เธอไม่ยอมปริปากแม้แต่นิดเดียว ผมจึงเดินเข้าไปจับแขนเธอและในวินาทีนั้น ผมก็รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่คุยกับผม เธอสวมกระโปรงสีขาวที่ถูกย้อมด้วยเลือดต่างหากล่ะ...

" หึๆๆๆ.... "

เธอเริ่มหัวเราะในลำคอและบีบคอผมแน่น... ผมเริ่มจะหายใจไม่ออกแล้ว...

" ตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตานตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตานตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตายตาย "

เธอพูดประโยคนั้นกับผมซ้ำๆไปเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าผมเริ่มจะขาดอากาศหายใจแล้ว... คงถึงคราวของผมแล้วสินะ... เปลือกตาอันหนักอึ้งของผมค่อยๆปิดลง ขอโทษนะทุกคน..

" เห้ยไอ้น้อง!! ตายยังวะ? "

" มันยังอยู่ดีใช่ป่ะ "

" กูเดินตรวจห้องแล้วมาเจอมันอ่ะ "

เสียงเจี้ยวจ้าวกรอกหูผมจนตื่น...

" เห้ย ตื่นแล้ว!! "

" นี่เด็กใหม่ป่ะ "

" น้องมาทำอะไรที่ห้องพี่เนี่ย "

อ๊ะ นี่ผมยังไม่ตายงั้นเหรอ... อ่าา คงเป็นเพราะยันต์ของคุณครูที่ช่วยผมล่ะมั้ง..

" เอ่อ ขอโทษนะครับรุ่นพี่... "

ยังไงก็เถอะ ผมรีบวิ่งฝ่าฝูงชนกลับบ้านทันทีโดยไม่สนใจสายตาที่จับจ้องมาทางผม ช่างหัวมันสิ!! ยังไงผมก็รอดตายมาแล้ว!! ผมอยากจะลาออกจากโรงเรียนบ้าๆนี่เต็มทน!!

...----------------...

" .... "

" มึงว่าใช่มั้ย... "

" กูว่าใช่ "

" เล่นงานนักเรียนใหม่ซะยับเลยนะ ไอ้แดง "

...----------------...

𝙸𝙶 : s0ftanchxq3

นิยายพวกนี้เป็นแบบตอนเดียวจบนะคะ ถ้ามีมากกว่าสองตอนแอดจะมาร์คเอาไว้เอง

ฝากติดตามกันด้วยนะคะ : )

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!