รับมือ

ตอนบ่ายทุกฝ่ายมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ชยากับปรางอยู่ฝ่ายนำเข้าสินค้าตกแต่ง เอกกับมายด์อยู่ฝ่ายบุคคล ฟ้ากับปรีชาอยู่แผนกตกแต่งภายใน แล้วยังมีอีกหลายแผนก พ่อของปรางเป็นผอ.และเป็นประธานในการประชุม ลุงชุมพลพ่อของฟ้าเป็นผู้ถือหุ้น ปรินเป็นประธานบริษัทและแคทที่เป็นเลขาส่วนตัว ลินดาก็มาเข้าประชุมด้วย พอมากันครบแล้วก็เปิดประชุม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการชี้แจงเรื่องรายรับรายจ่ายของบริษัท และงานที่มีการส่งมอบไปแล้ว และก็มาถึงเรื่องงานที่จะต้องนำเสนอในวันพรุ่งนี้

ปรีชาได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแต่เขาไม่ได้พูดถึงแคทเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้ปรินงงมากและเขาก็เกือบจะถามกลางที่ประชุมแล้วถ้าแคทที่นั่งข้างๆไม่ดึงชายเสื้อสูทของเขาเสียก่อน

หลังจากที่ปรีชาพูดจบทุกคนในที่ประชุมก็เห็นด้วยเป็นอันว่าผ่านความเห็นชอบของบริษัท

แต่ก่อนที่พ่อของปรางจะปิดการประชุมฟ้าก็ยืนขึ้น

“ขอโทษทุกคนนะคะ ฟ้าแค่มีเรื่องที่อยากจะขอถามความคิดเห็นของทุกคนหน่อยค่ะ” ฟ้าพูด

“หนูฟ้า มีอะไรก็พูดมาเลย” พ่อปรางบอก

ปรินมองหน้าฟ้า เขาตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าฟ้าหาเรื่องแคทอีกเขาจะพูดเรื่องที่ฟ้าไปอาละวาดที่ห้องของเขา

ฟ้ามองมาที่แคท

“จริงๆ ฟ้าก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องที่บริษัทเราจะมีนักศึกษาฝึกงานหรอกนะคะ แต่การที่จะเอานักศึกษาฝึกงานมาเป็นเลขาส่วนตัวให้ประธานบริษัทฟ้าคิดว่าคงจะไม่เหมาะสมหรือทุกคนคิดว่าไงคะ” ฟ้าพูดขึ้น  ทำให้ตอนนี้ทุกคนมองมาที่แคทและหันไปคุยกันเอง

ปรินทำท่าจะลุกขึ้นค้านแต่แคทดึงแขนเขาไว้ ปรินหันมามอง แคทจึงส่ายหัวไม่ให้เขาลุก

ปรางเองก็จะลุกแต่แคทใช้สายตามองและส่ายหัวปรางก็เลยไม่ลุก ชยา เอก มายด์ต่างก็มองมาที่แคท พอเห็นแคทส่ายหัวทุกคนก็เลยนั่งนิ่ง

พ่อปรางเองก็มองมาที่ปรินเช่นกัน หลายเสียงเห็นด้วยกับฟ้า มีกลุ่มของปรีชาที่ไม่เห็นด้วยกับฟ้า นอกนั้นก็ไม่พูดอะไร

“แต่ฟ้าจะให้โอกาสน้องเขาได้แสดงความสามารถเพื่อพิสูจน์ว่าน้องเขาเหมาะสมที่จะเป็นเลขาของบอสเรามั้ย” ฟ้าพูด

“จะพิสูจน์ยังไงหรือหนูฟ้า” พ่อปรางถาม

“คือพรุ่งนี้บริษัทจะมีการนำเสนอเรื่องการตกแต่งภายในให้บริษัทที่สิงคโปร์ได้ฟัง แล้วก็จะมีลูกค้าจากอเมริกาและจีน เข้าร่วมฟังด้วย โดยปกติหลังจากชี้แจงแล้วคุณลินดาจะเป็นผู้สรุปรายงานทั้งหมดให้ลูกค้าฟัง แต่ครั้งนี้ก็ให้น้องแคทที่เป็นเลขาส่วนตัวของบอสเป็นผู้สรุปเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาจีนให้ลูกค้าฟังโดยละเอียด ถ้าน้องแคทสามารถทำได้ดีและลูกค้าเข้าใจได้ ฟ้าก็จะถือว่าน้องแคทเหมาะสมที่จะเป็นเลขาส่วนตัวให้กับบอส ทุกคนเห็นด้วยมั้ยคะ” ฟ้าพูดจบแล้วหันไปถามคนอื่นๆ

ปรินกำมือแน่นมากแล้วก็ทำท่าจะค้านอีกรอบ

แคทต้องเอามือเธอไปบีบมือเขาเบาๆ เธอรู้ว่าเขาอยากปกป้องเธอแต่ถ้าเขาทำ ทุกคนก็จะคลางแคลงใจว่าเธอไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาของเขา

ฟ้าเองคงคิดว่าตัวเองต้องชนะแน่ๆ เพราะลำพังภาษาอังกฤษ ฟ้าคงคิดว่าแคทไหวแต่ภาษาจีนต้องไม่ไหวแน่ๆ ก็ในเมื่อเธอต้องการจะพิสูจน์ก็ให้เธอได้พิสูจน์ไป แคทคิด

แล้วในห้องประชุมก็ลงมติตามที่ฟ้าบอก

“ตกลงนะคะน้องแคท ถ้าน้องทำได้ก็จะได้การยอมรับจากทุกคนในบริษัท แต่ถ้าไม่ได้ก็คงต้องไปหาที่ฝึกงานใหม่นะคะ” ฟ้าหันมาทางแคท

ปรินจะลุกขึ้นแต่แคทรีบลุกก่อนแล้วเอามือเธอกดบ่าเขาให้นั่งลงไป

แคทมองฟ้าด้วยสายตาเย็นชาและใบหน้าที่เรียบเฉย

“ได้ค่ะคุณฟ้า ตกลงตามนั้น เพื่อความสบายใจของทุกคนในบริษัท” แคทพูด

ฟ้าทำหน้ายิ้มเยาะแล้วก็นั่งลง แคทนั่งลงเช่นกันแล้วพ่อปรางก็สรุปปิดการประชุม

หลังจากที่คนอื่นๆ ออกไปหมดแล้วเหลือแต่ พ่อปราง ปริน ชยา เอก ปราง มายด์และแคท

“เอาไงดีล่ะตาปริน หนูแคทจะไหวเหรอลูก” พ่อปรางถาม  ปรินยังหน้าบึ้งอยู่มากๆ

“พ่อคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ หนูทำได้” แคทบอก

ทุกคนหันมามองแคทแล้วทำหน้าตกใจปนแปลกใจ มีแต่มายด์ที่ไม่แปลกใจอะไร

“ใช่ค่ะ แคทเก่งภาษาไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ” มายด์บอก

“พ่อพอจะรู้จากปรางว่าหนูแคทเก่งภาษา แต่ภาษาจีนในบริษัทเรายังไม่มีใครพูดหรือเขียนได้คล่องเลยสักคน เวลามีลูกค้าที่เป็นคนจีนมา พ่อต้องจ้างล่ามมาด้วยทุกครั้ง หรือหนูแคทพูดภาษาจีนได้” พ่อปรางถาม

“ค่ะพ่อ แคททั้งพูด เขียนและอ่านได้คล่องพอๆ กับคนจีนโดยกำเนิดเลยค่ะ” มายด์ตอบแทน

“ทำไมชั้นต้องตกข่าวทุกทีนะ ยังมีอะไรที่ปรางยังไม่รู้เกี่ยวกับแคทอีกมั้ย มีเซอร์ไพรส์อยู่ตลอด” ปรางบ่นแต่ยิ้ม

“ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เพียงแต่ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง ห้ามงอนนะ” แคทบอกปราง

“ถ้าอย่างนั้นพ่อก็สบายใจ ยายฟ้าก็เล่นแรงเกินไป” พ่อบอก พลางถอนหายใจ

“จริงๆ แล้วแคทก็คิดไว้เหมือนกันค่ะ ว่าพี่ฟ้าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ก็เลยอยากลองดูว่าเขาจะทำอะไร แบบนี้ก็ดีค่ะพ่อกับพี่ปรินจะได้ไม่ต้องลำบากใจด้วยที่อุตส่าห์พาแคทมาฝึกงานด้วย” แคทบอก

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พ่อก็จะกลับบ้านก่อนนะ จะกลับไปเล่าให้แม่เขาฟัง” พ่อบอก

“ค่ะ/คับ”

หลังจากที่พ่อเดินออกไปแล้ว

“มานี่เลยยายตัวแสบ ทำชั้นใจหายหมดจะลุกขึ้นพูดก็ส่งสายตาดุข้ามโต๊ะมาเลย ทำเอาเป็นห่วงแทบแย่” ปรางเดินเข้ามากอดแคท

“ใช่เลย พี่จะลุกก็ดึงแขน พอจะลุกอีกก็รีบลุกก่อน แถมเอามือกดบ่าให้นั่งลงอีก อย่างนี้ต้องลงโทษมั้ย”ปรินบอกยิ้มๆ หลังจากที่เขาฟังเรื่องต่างๆ จนเข้าใจ

“แคทต้องขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นกังวลกันไปหมด แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้พี่ฟ้าก็คงไม่ยอมจบง่ายๆ” แคทบอก เธอยกมือขอโทษพี่ๆ ทั้งสามคน

“ไม่เป็นไร แค่รู้ว่าแคททำได้พวกพี่ๆ จะได้หายห่วงกัน” ชยาพูด

“งั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานต่อ แล้วไว้เจอกันนะ” เอกบอก แล้วต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน

“รู้มั้ย ว่าตอนนั้นพี่เครียดมากๆ เลย พี่รู้ว่าฟ้าจงใจหาเรื่องเราตรงๆ แต่พี่ทำอะไรไม่ได้ แล้วถ้าสิ่งที่ฟ้าอยากให้ทำแล้วเราเกิดทำไม่ได้ พี่จะทำยังไง”ปรินพูดหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องทำงานแล้ว

“คิดมากค่ะ พี่ฟ้าแค่ต้องการให้แคทอายต่อหน้าคนอื่น เพื่อจะได้แสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาดีกว่าแคทก็แค่นั้นแหละค่ะ เขาแค่ต้องการเอาชนะ”

“พี่ถามจริงๆ แคทไม่กลัวเลยเหรอที่ฟ้าเขาประกาศแบบนั้นในที่ประชุม”

“ก็กังวลบ้าง แต่ไม่กลัวนะคะ เพราะแคทมั่นใจว่าแคทอ่านคนไม่ผิด”

“ไปอ่านตั้งแต่ตอนไหน ถึงได้มั่นใจขนาดนั้น”

“ก็ตั้งแต่วันที่เขามาทำลายดอกไม้นั่นแหละค่ะ”

“แล้วแคทว่าเขาเป็นคนยังไงล่ะที่อ่านได้น่ะ”

“พี่ฟ้าไม่มีความกล้าที่จะทำร้ายใครตรงๆ แต่ชอบทำให้อายมากกว่าไงคะ ไม่งั้นวันนั้นเขาคงไม่ทำลายต้นไม้หรอก เขาคงเดินเข้ามาทำร้ายแคทมากกว่า”

“ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าฟ้ามาทำร้ายเราพี่ไม่ปล่อยไว้แน่”

“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าไม่เคยยืนให้ใครทำร้ายง่ายๆ”

“คับ รู้แล้ว สรุปว่าเรื่องวันพรุ่งนี้เรามั่นใจว่าทำได้”

“ค่ะ มั่นใจ” แคทยิ้มให้ปริน

“บอสคะ คุณปรีชากับทีมมาขอพบคุณแคทค่ะ” ลินดาพูดผ่านโฟน

“ให้เข้ามาได้”ปรินบอกแล้วมองหน้าแคทที่เงยหน้ามามองเขา

“ขอโทษคับ บอส”ปรีชาบอกปรินแล้วพาลูกทีมเดินมาหาแคท

“พี่ปรีชามีอะไรเหรอคะ”

“ก็เรื่องในห้องประชุมเมื่อครู่ ผมกับลูกทีมอยากจะบอกทุกคนจริงๆ นะคับว่าคุณแคทมีความสามารถและเหมาะสมกับตำแหน่งเลขามากๆ และก็อยากจะบอกด้วยว่าผลงานการตกแต่งที่ทุกคนบอกว่าดี ล้วนมาจากความคิดของคุณแคท ถ้าไม่ติดว่าคุณแคทห้ามพวกผมบอกใครในที่ประชุมวันนี้” ปรีชาพูด

“เดี๋ยวคับ!! นี่มันเรื่องอะไรกันคับพี่ปรีชา วันนี้ผมก็งงเหมือนกันที่พี่ไม่บอกกับทุกคนว่าคุณแคทเป็นคนออกความคิดเรื่องการตกแต่งภายใน” ปรินถาม  เขาเดินมาที่โต๊ะของแคท

“ก็คุณแคทสั่งพวกผมว่ายังไม่ให้บอกกับทุกคนในห้องประชุมวันนี้คับบอส” อามบอก

ปรินหันมามองแคทแต่ก็ไม่พูดอะไร เขารู้ว่าที่เธอทำย่อมมีเหตุผลเสมอ

“แล้วพรุ่งนี้คุณแคทจะไหวเหรอคับ พวกผมทุกคนเป็นห่วงก็เลยมาหา” โมทถาม

“ขอโทษที่ทำให้พี่ๆ เป็นห่วง แต่แคทไหวค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกผมก็สบายใจ งั้นขอตัวกลับไปเตรียมงานพรุ่งนี้ต่อก่อนนะคับบอส” ปรีชาบอกกับปริน

“คับ ตามสบาย” ปรินบอกแล้วปรีชากับลูกทีมก็เดินออกไป

“พี่ปริน จะไม่ถามหรือคะว่าทำไมแคทถึงห้ามพี่ๆ ไม่ให้บอกเรื่องงานนั้นในที่ประชุม” แคทถามปริน

“พี่รู้ว่าเรามีเหตุผล และคิดทุกอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร แต่พี่ก็อยากให้รู้ไว้ว่าเราไม่ได้เดินตามลำพังแต่มีพี่ มีปรางและมีคนอีกหลายคนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นพี่ก็อยากมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ ที่เราต้องเจอ อยากให้จำไว้ว่าพี่จะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป”

“ขอบคุณนะคะ ที่เชื่อในตัวแคท ขอบคุณจริงๆ”

“ถ้าอยากขอบคุณพี่จริงๆ ล่ะก็ ยอมเป็นแฟนพี่ซะทีสิคับ”

“ขนาดไม่ได้เป็นยังโดนขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนจริงๆ จะรอดมั้ยคะ”

“แคทพูดอย่างนี้แล้วพี่จะมีหวังมั้ย”

“ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ขอทำงานต่อก่อนนะคะ”แคทยิ้มแล้วนั่งลงก้มหน้ามองจอคอมทำงานต่อ

ปรินยิ้มอย่างมีความสุข เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้เขารู้ว่า  เขาเลือกรักคนไม่ผิด แม้ว่าตอนนี้เธอจะยังไม่ยอมรับเขาจริงๆ แต่เขาก็รู้ว่าเธอก็ไม่ได้จะปฏิเสธเขา เพียงแต่ต้องการเวลาเพื่อพิสูจน์ความจริงใจของเขาที่มีต่อเธอ และเขาจะพิสูจน์ให้เธอได้เห็นว่าเขารักเธอมากแค่ไหน

เช้าวันอังคาร ปรินขับรถมารับแคทกับมายด์ตามปกติ พอแคทกับมายด์ขึ้นมาบนรถแล้ว

“แคทพร้อมมั้ย วันนี้” ปรางถาม

“พร้อมอะไรอ่ะปราง!?” แคทถามต่อ

“ก็ที่ต้องเข้าประชุมวันนี้อ่ะ ไม่ตื่นเต้นหรือไง” ปรางว่า

“จะตื่นเต้นทำไม ก็ทำไปตามที่รับผิดชอบมา” แคทบอก

ปรินที่ขับรถอยู่มองแคทที่นั่งอยู่ข้างหลังเขา เธอไม่ได้มีอะไรต่างจากทุกวัน เกล้าผมสูงไม่แต่งหน้าแค่ทาแป้งกับทาลิฟสติก เสื้อผ้าก็เรียบร้อยเหมือนเดิม หน้าตาก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร

“ประหลาดอ่ะ เรายังตื่นเต้นแทนเลย” ปรางพูดต่อ

“แคทไม่เคยกลัวการทำอะไรต่อหน้าคนอื่นหรอก ชินแล้วกับการพูดต่อหน้าคนมากๆ” มายด์บอก

“จะกลัวทำไม ก็คิดเสียว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย แล้วก็พูดในสิ่งที่เราต้องการพูด” แคทบอก

“แล้วไม่แต่งหน้าหน่อยเหรอ วันนี้มีลูกค้ามาจากหลายประเทศนะ” ปรางบอกเมื่อเธอเห็นแคทไม่แต่งหน้า แต่เอาจริงๆ ถึงไม่แต่งก็สวยอยู่แล้ว

“แต่งทำไม ไปทำงานนะคะ ไม่ได้ไปเดินแฟชั่นคุณหนูปราง” แคทพูดยิ้มๆ

“จ้า ถึงไม่แต่งก็สวยอยู่แล้ว จริงมั้ยคะพี่ปริน” ปรางหันไปถามปริน

เขาไม่ตอบได้แต่พยักหน้าแล้วส่งยิ้มผ่านกระจกไปให้แคท

ที่บริษัท

“บอสคะ Mr.ไมเคิลกับลูกค้าที่มาจากอังกฤษและจีนมาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้เดินไปห้องประชุมพร้อมกับผอ.แล้ว” ลินดาเดินเข้ามาบอก

“งั้นก็ไปกันได้แล้ว” ปรินบอก

“ค่ะบอส”ลินดารับคำแล้วเดินออกไป

“แคทเตรียมเอกสารครบแล้วค่ะ ไปกันได้” แคทบอก เธอหยิบเอกสารและแมคบุ๊คแล้วลุกขึ้น

“จะไม่แต่งหน้าเพิ่มหน่อยเหรอเรา”

“ทำไมคะ กลัวลูกค้าจะว่าพี่ปรินมีเลขาไม่สวยหรือคะ” แคทแซว

“เลขาพี่สวยที่สุดแล้ว แต่ที่พี่เคยเห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ว่าจะไปไหนมักจะสำรวจความเรียบร้อยบนใบหน้าก่อนทุกที อย่างยายปรางอ่ะ ส่องแล้วส่องอีกกว่าจะไปไหนได้”

“ก็แคทไม่อยากทำเหมือนใคร แต่ถ้าพี่ปรินไม่ชอบก็หาเลขาใหม่ได้นะคะ”

“ใครบอกว่าพี่ไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบจะตามจีบแบบนี้เหรอคับ”ปรินบอกแล้วยิ้มเมื่อเห็นหน้าแคทมีสีระเรื่อที่แก้ม

“ไปกันดีกว่าค่ะ ให้ลูกค้าคอยไม่ดี”

ในห้องประชุมทุกคนที่มีส่วนร่วมกับงานครั้งนี้มาครบแล้ว พ่อปรางนั่งหัวโต๊ะ ด้านซ้าย มีMr.ไมเคิล ลูกค้าชาวจีน อังกฤษ ชุมพล ฟ้า ปรีชา อาม โมท แจ๊ค และบีม นั่งเรียงกัน ด้านขวามีปริน แคท ชยา ปราง เอก มายด์และลินดา ถัดไปก็มีหัวหน้าแผนกต่างๆ อีกเกือบ10คนนั่งอยู่

เมื่อปรินนั่งลงพ่อก็แนะนำลูกค้าให้รู้จักกับปริน พอทักทายกันแล้วพ่อก็กล่าวเปิดประชุม

ปรินนั่งตรงข้ามกับMr.ไมเคิล ปรินสังเกตุว่าไมเคิลมองมาที่แคทตลอดตั้งแต่ตอนเดินมานั่งแล้ว และไม่ใช่แค่ไมเคิล ลูกค้าอีกสองคนก็เหมือนกัน

ปรินเหลือบมองไปที่แคท เขาเห็นเธอดูเอกสารในมือโดยไม่ได้สนใจใคร เขาเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วนี่ขนาดแคทไม่ได้แต่งหน้าหรือแต่งตัวแบบฟ้ายังมีแต่คนมอง

สักพักแคทก็เงยหน้าขึ้น เธอเห็นฟ้าจ้องมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย แคทได้แต่ทำหน้าตาเฉยๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

เมื่อพ่อปรางพูดจบ ปรีชาก็พูดแนะนำตัวเขาและลูกทีมให้ลูกค้าได้รู้จัก และฉายสไล้น์ภาพห้องตัวอย่างที่ไมเคิลส่งมาและปรีชาก็ฉายภาพที่มีการตกแต่งแล้วให้ทุกคนดู

ไมเคิลและลูกค้าอีกสองคนชอบใจมาก ไมเคิลบอกว่าเป็นการตกแต่งที่ดี สวยมากมีความสมดุลย์และผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี เขาไม่เคยเห็นการผสมผสานได้อย่างลงตัวแบบนี้มาก่อน แล้วไมเคิลก็หันมาทางปริน

“บริษัทของคุณมีทีมสถาปัตฯ ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

“ขอบคุณคับที่ชม” ปรินบอก

ไมเคิลหันกลับไปที่ปรีชาให้เขาพูดต่อ

“จริงๆ แล้วงานชิ้นนี้ของทีมผมที่ออกมาได้เพอเฟคขนาดนี้ ได้รับคำแนะนำและได้แนวคิดแบบผสมผสานนี้มาจากคุณมนัสยา เลขาของท่านประธานคับ เพราะอย่างนั้นผมขอเชิญคุณมนัสยาเป็นผู้อธิบายเกี่ยวกับงานชิ้นนี้ด้วยคับ” ปรีชาบอก

พอปรีชาพูดจบในห้องก็มีเสียงคุยกันเกี่ยวกับงานนี้

“คนไหนคือคุณมนัสยาหรือคับคุณปริน” ไมเคิลถาม ปรินจึงลุกขึ้นและพายมือมาที่แคท

“นี่คือคุณมนัสยา เลขาส่วนตัวผมคับ” ปรินพูด

แคทจึงลุกขึ้นยืนทำเอาลูกค้าทั้งหมดอึ้งไปเลย ฟ้าทำหน้าตาไม่พอใจมากๆ แต่ชุมพลห้ามไว้ไม่ให้ออกอาการ

“คุณเป็นคนคิดผสมผสานงานชิ้นนี้เหรอคับ” ไมเคิลถาม

“ใช่ค่ะ แต่ก่อนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อขอให้ดิฉันได้อธิบายหลักการตกแต่งให้ฟังก่อนนะคะ” แคทบอก

ไมเคิลและทุกคนที่นั่งอยู่เริ่มมีเสียงพูดมากขึ้น แล้วแคทก็อธิบายหลักในการตกแต่งแบบผสมผสานนี้รวมถึงแนวคิดตามหลักสถาปัตฯ ให้ลูกค้าฟังอย่างละเอียด

เมื่อแคทพูดจบ ลูกค้าทั้งสามคนก็ปรบมือให้แคทและบอกว่าอธิบายได้ดีมากๆ

“ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนคิดแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางจะอธิบายได้ละเอียดแบบนี้ การตกแต่งในลักษณะนี้ไม่มีใครเคยทำมาก่อน และคนที่จะมีความรู้ได้มากขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะดูเด็กแบบนี้ คุณปรินไปหาเลขาที่เก่งและมีความสามารถขนาดนี้มาจากไหน ผมอยากได้ไว้ข้างๆ สักคน”ไมเคิลชมแล้วหันไปถามปริน

“ผมว่าคงจะหายากแล้วล่ะคับ” ปรินบอก

“แล้วเลขาของคุณนี่จบอะไรมากันแน่หรือจบสถาปัตฯ แต่มาทำงานเลขา” ไมเคิลสงสัย

“เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่ เรียนปริญญาตรีเลขาเอกภาษาต่างประเทศปี1 ตอนนี้เธอมาฝึกงานที่นี่คับ” ปรินบอก

“ไม่จริงมั้งคับ! เธอเรียนปริญญาตรีเลขาแต่ทำไมความรู้ทางด้านสถาปัตฯ ของเธอเท่ากับคนเรียนป.โทสถาปัตฯ เลย” ไมเคิลถาม เขางงจริงๆ

“เธอชอบงานตกแต่งภายในเลยหาหนังสือมาศึกษาเองตั้งแต่เรียนม.ปลาย ก็เลยมีความรู้ทางด้านนี้มากคับ” ปรินบอก

“คุณเก่งมากๆๆ” ไมเคิลบอกพร้อมยกนิ้วโป้งให้

แคทยกมือไหว้แบบไทยแต่ขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษ

“ผมตกลงจะเซ็นสัญญากับบริษัทของคุณเป็นเวลา5ปี แต่มีข้อแม้ว่า …..” ไมเคิลพูดแล้วมองไปที่แคท

“ข้อแม้อะไรคับ!!?” ปรินถาม เขาเห็นว่าไมเคิลมองแคทอยู่

“ผมต้องการให้เลขาของคุณเป็นคนคิดและควบคุมการออกแบบตกแต่งทั้งหมดร่วมกับทีมที่คุณมี คุณจะตกลงมั้ย” ไมเคิลถาม

ปรินนิ่งมองพ่อแล้วก็หันไปมองแคทที่ทำหน้าที่เขาอ่านไม่ออก

“คุณยังไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ก็ได้ ผมจะพักอยู่ที่เมืองไทย1สัปดาห์ ผมให้เวลาตัดสินใจ3วันแล้วคุณค่อยโทรบอกผมก็ได้ ถ้าคุณตกลงผมจะเซ็นสัญญาให้ก่อนที่ผมจะบินกลับ” ไมเคิลบอก

“คับ แล้วผมจะโทรไป” ปรินบอก

เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แคทก็พูดสรุปเรื่องทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนอย่างคล่องแคล่วไม่มีติดขัด

ลูกค้าคนจีนออกปากชมว่าเธอพูดได้เหมือนเป็นคนจีนแต่กำเนิด

“เลขาของคุณปรินทำให้ผมแปลกใจได้อีกนะคับ” ไมเคิลบอกกับปริน

แล้วพ่อปรินก็ปิดการประชุม พ่อกับปรินเดินออกมาส่งไมเคิลและลูกค้าอีกสองคนส่วนแคทเดินกลับไปห้องทำงานกับลินดา

“แคททำได้ดีมากๆ เลยนะวันนี้ คุณฟ้าอึ้งจนพูดไม่ออกเลยที่เห็นแคทพูดภาษาจีนได้คล่อง”

“ดีแล้วค่ะ ต่อไปจะได้ไม่มีปัญหากันอีก”

“แต่พี่ว่าคุณฟ้าจะไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ ยังไงแคทก็ระวังตัวไว้บ้างนะ”

“ค่ะ ขอบคุณพี่ลินดาที่เตือนค่ะ แคทขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“ค่ะ..เดี๋ยวพี่จะส่งเรื่องงานไปให้นะคะ”

“ค่ะ”

ที่ห้องทำงานของปริน

ปรินเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับพ่อ

“หนูแคทพักก่อนก็ได้นะลูก” พ่อบอกเมื่อเดินเข้ามาแล้วเห็นแคทนั่งมองจอคอมอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ พ่อมีอะไรหรือป่าวคะ”

พ่อกับปรินเดินมานั่งลงที่โซฟา แคทจึงลุกแล้วเดินมานั่งที่โซฟาด้วย

“ใช่ เรื่องข้อแม้ของไมเคิลหรือป่าวคะ” แคทถาม  พ่อกับปรินมองหน้ากัน

“ใช่ลูก แล้วหนูแคทคิดว่ายังไงบ้าง” พ่อถาม

“ส่วนตัวหนูไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าทุกคนไว้ใจและเชื่อใจว่าหนูจะทำได้”

“แต่พี่ไม่อยากให้เราเหนื่อยมากเกินไป ไหนจะงานเลขาแล้วยังต้องมาทำเรื่องตกแต่งภายในอีก”

“จริงๆ มันก็ไม่ได้ยุ่งมากหรอกค่ะ ถ้าจะให้แคททำจริงๆ”

“แต่หนูแคทยังต้องไปเรียนด้วยนะ ช่วงมหาลัยเปิด เรียนด้วยทำงานด้วยจะไหวเหรอลูก”

“ไหวค่ะพ่อ แต่ช่วงที่มหาลัยเปิดแคทคงมาที่บริษัทได้แค่วันเสาร์วันเดียว แล้วงานตกแต่งอยู่ที่ไหนก็ทำได้เพราะทำผ่านแม็คบุ๊คอยู่แล้ว”

“ตาปริน..แล้วแกจะว่ายังไง”

“สัญญามันนานมากนะแคท ตั้ง5ปีแล้วเราก็ยังเป็นแค่เด็กฝึกงาน ไม่ใช่พนักงานประจำแต่ต้องมาทำงานของพนักงานประจำ”

“คิดมากอีกแล้วค่ะ แคทดีใจนะคะที่จะได้ทำงานที่ชอบ ส่วนเรื่องอื่นไม่มีปัญหาแล้วพี่ปรีชากับลูกทีมว่ายังไงบ้างคะ”

“พ่ออยากคุยกับหนูแคทก่อน ถ้าหนูตกลงก็จะเรียกปรีชามาคุยอีกที”

“หนูตกลงค่ะพ่อ แต่ไม่รู้ว่าพี่ปรีชากับทีมจะยอมรับหนูมั้ย”

“ตาปรินล่ะว่าไง”

“ถ้าแคทตัดสินใจแล้วใครจะเปลี่ยนใจเขาได้ล่ะคับ แต่มีข้อแม้ว่า ทำแค่ไหวห้ามฝืนตัวเองเด็ดขาด”

“ค่ะ ทราบแล้ว”

“ปรินเรียกลินดาเข้ามาหน่อยลูก”

“คับพ่อ”

“มีอะไรคะผอ.” ลินดาเข้ามาแล้วถาม

“คุณช่วยบอกฝ่ายบุคลด้วยว่าเงินเดือนของคุณแคทให้เท่ากับหัวหน้าแผนกสถาปัตฯ และโทรบอกคุณปรีชามาพบผมที่ห้องนี้ด้วย” พ่อบอกกับลินดา

“รับทราบค่ะ” ลินดาบอกแล้วเดินออกไป

“พ่อคะเงินเดือนของหนูจะให้เท่ากับหัวหน้าแผนกไม่ได้นะคะ หนูเพิ่งจะเข้ามาทำงานผลงานยังไม่มีเลยค่ะ”

“ทำไมจะไม่มี ก็วันนี้ไงผลงานเราทั้งชิ้นเลย” ปรินรีบพูด

“ใช่หนูแคท พ่อว่ายังน้อยไปด้วยนะเพราะหนูต้องทำสองตำแหน่ง จะไม่คุ้มค่าเหนื่อย”

“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะพ่อ”

“เอาตามนั้นแหละนะพ่อจะได้สบายใจ นี่แม่ยายปรางยังไม่รู้เรื่องนะ ถ้ารู้ว่าหนูต้องทำสองหน้าที่ยังไม่รู้ว่าจะโวยวายแค่ไหนเลย” พ่อบอก

“ก็ได้ค่ะ ถ้าจะทำให้พ่อสบายใจ” แคทรับคำ  ปรินยิ้มอย่างพอใจ

ปรีชามาพร้อมๆ กับลูกทีม พ่อจึงพูดถึงเรื่องที่ไมเคิลต้องการให้แคทเป็นคนคิดและคุมการออกแบบครั้งนี้ แล้วถามว่าทุกคนคิดยังไง

“พวกผมยินดีที่จะทำงานร่วมกับคุณแคทแน่นอนคับ” ปรีชาบอก

“ใช่คับผอ.คุณแคทเป็นคนเก่ง ละเอียดมาก และมีความรู้ที่พวกผมไม่มี” โมทบอก

“คุณแคทมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร กล้าคิดกล้าทำพวกผมยอมรับคับ” บีมบอกอีก

“เอาเป็นว่าพวกคุณไม่มีปัญหาที่จะทำงานร่วมกับคุณแคท งั้นก็ดี เอาล่ะกลับไปทำงานต่อได้” พ่อบอก

“คับผอ. บอส คุณแคท”

เมื่อปรีชากับลูกทีมออกไปแล้ว

“ดูเหมือนทุกคนจะชอบที่จะได้ทำงานกับหนูนะ” พ่อพูด

“แคทก็ดีใจค่ะที่พวกพี่ๆ เขาไม่รังเกียจที่จะทำงานร่วมกับหนู”

“งั้นพ่อกลับห้องทำงานก่อนนะ”

“ค่ะพ่อ คับพ่อ”

แคทเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน ส่วนปรินยังนั่งอยู่ที่โซฟา

“พี่ว่าภาพที่โชว์วันนี้มันไม่เหมือนที่พี่เคยเห็นพี่ปรีชาส่งมาให้ดูนะ”

“อ๋อ!! ก็แคทช่วยพี่ๆ เขาปรับปรุงเพิ่มอีกหน่อยค่ะ”

“ไม่หน่อยมั้ง! มันต่างมากเลยนะ”

“ช่างมันเถอะค่ะ ยังไงลูกค้าชอบก็พอ”

“ถ้าพ่อเรากับกวางรู้จะว่าพี่มั้ย ที่ให้เราทำงานมากเกินแล้วยังเรื่องสัญญานั่นอีก”

“ไม่หรอกค่ะ พ่อรู้ว่างานก็คืองาน แล้วพ่อก็รู้ว่าแคทแบ่งเวลาได้ไม่มีผลกับการเรียนหรอก”

“แต่พี่กลัวเราจะเครียดเกินไป”

“ไม่หรอกค่ะ อย่ากังวลเกินไปเลย แล้วพี่ปรินจะโทรไปบอกไมเคิลเมื่อไรคะ”

“น่าจะอีกสองวันให้เขาคอยไปก่อน นี่พี่ยังไม่แน่ใจนะว่า ที่เขาอยากเซ็นสัญญาตั้ง5ปีเพราะความคิดด้านการตกแต่งของเราหรือเขาชอบเจ้าของความคิดกันแน่”

“ทำไมพี่ปรินถึงคิดอย่างนั้นคะ”

“ก็เขานั่งมองเราตลอดเลยตอนประชุม แล้วพอรู้ว่าเราเป็นคนคิดก็เอาเรื่องสัญญามาอ้าง”

“ไม่ว่าเขาจะคิดอะไร ก็ช่างเขาเถอะค่ะอย่างน้อยบริษัทเราก็ได้งานนี้มา” แคทบอก

ปรินมองแคทที่ก้มหน้าทำงาน เขาคงต้องระวังไมเคิลไว้บ้างแล้ว จากสายตาที่เขามองแคทก็รู้ว่าไมเคิลชอบแคทแน่ๆ

เลือกตอน
1 แรกเจอ
2 ความลับ
3 ห่วง
4 ไม่ยอมใคร
5 อึ้ง
6 เขิน
7 รู้ใจ
8 สารภาพ
9 เรื่องจริง
10 เปลี่ยน
11 คนที่ไม่อยากเจอ
12 ฝึกงาน
13 ท้าทาย
14 รับมือ
15 คู่แข่ง
16 สัญญา
17 เดินทาง
18 คู่แข่งอีกคน
19 กลับบ้าน
20 เจ็บตัว
21 ดูแล
22 หวงและห่วง
23 เพื่อน
24 หึง
25 แฟน
26 จูบแรก
27 ประกาศ
28 ทำร้าย
29 ครั้งแรก
30 โกรธ
31 ง้อ
32 หมั้น
33 เรือนหอ
34 งานแต่งไมเคิล
35 ใกล้ชิด
36 สัมมนา
37 รุ่นน้อง
38 ของขวัญและงานเลี้ยงรุ่น
39 งานหมั้นของเอกกับมายด์
40 อุบัติเหตุ
41 แต่งงาน
42 หลังแต่งงานnc18++
43 งานแต่งของเอกกับมายด์nc18++
44 ท้องnc18++
45 โรคร้าย
46 ความรักกับความหวัง
47 รู้สึกตัวnc18++
48 ความสุข(จบ)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 48

1
แรกเจอ
2
ความลับ
3
ห่วง
4
ไม่ยอมใคร
5
อึ้ง
6
เขิน
7
รู้ใจ
8
สารภาพ
9
เรื่องจริง
10
เปลี่ยน
11
คนที่ไม่อยากเจอ
12
ฝึกงาน
13
ท้าทาย
14
รับมือ
15
คู่แข่ง
16
สัญญา
17
เดินทาง
18
คู่แข่งอีกคน
19
กลับบ้าน
20
เจ็บตัว
21
ดูแล
22
หวงและห่วง
23
เพื่อน
24
หึง
25
แฟน
26
จูบแรก
27
ประกาศ
28
ทำร้าย
29
ครั้งแรก
30
โกรธ
31
ง้อ
32
หมั้น
33
เรือนหอ
34
งานแต่งไมเคิล
35
ใกล้ชิด
36
สัมมนา
37
รุ่นน้อง
38
ของขวัญและงานเลี้ยงรุ่น
39
งานหมั้นของเอกกับมายด์
40
อุบัติเหตุ
41
แต่งงาน
42
หลังแต่งงานnc18++
43
งานแต่งของเอกกับมายด์nc18++
44
ท้องnc18++
45
โรคร้าย
46
ความรักกับความหวัง
47
รู้สึกตัวnc18++
48
ความสุข(จบ)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!