ฝึกงาน

หลังจากซื้อของกันแล้วก็กลับมาเตรียมทำบาร์บีคิวที่บ้านพัก พวกหนุ่มๆ ช่วยกันเตรียมเตาปิ้งบาร์บีคิว ส่วนสาวๆ ก็เตรียมของสดกันโดยเป็นลูกมือป้าอิ่มกับน้าอุ้ม

ทุกคนช่วยกันไปคุยกันไปจนกระทั่งเตรียมทุกอย่างพร้อม

ตอนเย็นพ่อแม่แคทกับกวางก็มาถึง หนุ่มๆ สาวๆ ล้อมกันอยู่ที่หน้าเตา ส่วนพ่อแม่แคทกับปรางนั่งคุยกันที่โต๊ะกินข้าว

แคทเดินมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านพักห่างจากเตาไม่ไกล เธอนั่งมองทุกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เตากำลังสนุกกับการปิ้งบาร์บีคิวกัน

“ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะลูกไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆ”พ่อแคทเดินมายืนข้างๆ แคทเอามือลูบหัวเบาๆ

แคทเงยหน้ามองพ่อเอาหัวไปพิงกับเอวแล้วเอาแขนโอบรอบเอวพ่อ

“เดี๋ยวไปค่ะพ่อ”

“คิดอะไรอยู่ใช่มั้ยลูก” พ่อเดินมานั่งข้างๆ เธอ

“ก็ใช่ค่ะ แคทแค่คิดว่าเพิ่งมาถึงบ้านยังไม่ได้นอนที่บ้านเลยก็ต้องไปอีกแล้ว”

“คิดถึงบ้านเหรอเรา”

“คิดถึงพ่อกับแม่มากกว่าค่ะ”

“เอาไว้พ่อกับแม่ก็ไปหาได้ พ่อกับแม่อยากให้แคทมีความสุข และสบายใจก็พอ”

“แคทรู้ค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจไปด้วย”

“ไม่ใช่ความผิดหนูหรอกลูก อย่าโทษตัวเองอีกเลย ถ้าหนูอยากให้พ่อกับแม่มีความสุข แคทก็กลับมาเป็นแคทคนเดิมได้มั้ยลูก”

แคทมองพ่อแล้วกอด

“แคทจะพยายามกลับมาเป็นคนเดิมให้พ่อกับแม่ให้ได้ค่ะ”

“แคท มีอีกเรื่องที่พ่ออยากบอกหนู” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ปรินเป็นคนดีนะลูก เท่าที่พ่อดูเขาเป็นห่วงลูกมาก แล้วเขาก็บอกพ่อว่าเขาชอบลูก จริงๆ พ่อก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับความรักของหนู แต่ถ้าหนูคิดจะชอบใครสักคน พ่อว่าปรินเป็นคนที่ลูกจะฝากชีวิตไว้ได้นะ”

“หนูก็พอดูออกค่ะพ่อ แต่หนูขอเวลาอีกสักพักในการตัดสินใจนะคะ หนูไม่อยากผิดหวัง”

“แล้วแต่หนูเลย แต่อย่านานไปล่ะเดี๋ยวพี่เขาเปลี่ยนใจขึ้นมา จะมานั่งเสียดายนะ”

“ถ้าพี่ปรินเปลี่ยนใจจริงๆ แคทไม่มานั่งเสียดายหรอกค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าเขาไม่จริงใจจริงๆ” แคทพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

พ่อยิ้มแล้วลูบผมข้างหลังของเธอ

“ทานบาร์บีคิวคับ คุณอา” ปรินถือจานที่มีบาร์บีคิวมาวางที่ข้างหน้าพ่อแคท

“ขอบใจมากปริน เอาไปกินกันเถอะอากินข้าวอิ่มแล้ว” พ่อแคทบอก

“งั้นแคทก็กินเลย ยังไม่ได้กินอะไรเลยเราน่ะตั้งแต่บ่ายแล้ว” ปรินหันมาบอก

“พี่ปรินกินเลยค่ะ เดี๋ยวแคทไปย่างมาเอง”

“ไม่ต้องเลย กินที่พี่เอามานี่ล่ะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้” พูดจบปรินก็เดินไปเอาน้ำส้มมาส่งให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ”

“ปริน อาฝากยายแคทด้วยนะ ถ้าทำอะไรไม่ดีก็ว่ากล่าวตักเตือนได้นะ”

“พ่อคะ แคทโตแล้วนะคะไม่ต้องฝากใครมาคอยดูหรอกค่ะ”

“ก็เพราะว่าโตแล้วยิ่งต้องห่วงไงล่ะลูก”

“โธ่! พ่อคะ ตอนแคทเป็นเด็กพ่อก็ห่วง ตอนนี้โตแล้วก็บอกว่าห่วง แล้วเมื่อไหร่จะเลิกห่วงคะ”

“ก็รีบมีแฟนสักที พ่อจะได้เลิกห่วง”

แคทมองหน้าพ่อ

“แคทไม่มีหรอกค่ะแฟน จะให้พ่อห่วงอยู่อย่างนี้แหละค่ะ”

แคทพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปที่มายด์กับปรางทันที

“เป็นไงล่ะปริน รับไหวมั้ยดื้อแบบนี้” พ่อพูดขำๆ

“ไหวคับคุณอา ยิ่งกว่านี้ก็ไหวคับ”

“แคทเป็นคนหัวแข็ง ดื้อ แต่เขาเป็นคนมีเหตุผลและรับฟังคนอื่นเสมอ ยายแคทจะไม่ชอบการท้าทาย ดูถูก ดูหมิ่น และถ้าลองว่าตัดสินใจทำอะไรแล้วเขาจะต้องทำให้ได้ เพราะงั้นเวลาไปทำงานอาฝากปรินช่วยดูแลน้องด้วยนะ”

“คุณอาวางใจได้เลยคับ ผมจะดูแลแคทให้ดีที่สุด ผมรับรอง”ปรินบอกกับพ่อแคทด้วยท่าทางจริงจังเหมือนเดิม

“ขอบใจนะปริน”

วันรุ่งขึ้นทุกคนเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ โดยมีพ่อแม่แคทกับมายด์มาคอยส่งลูกสาวด้วย ส่วนกวางได้กลับไปก่อนตั้งแต่เช้ามืดแล้วเพราะต้องไปขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ พ่อแคทบอกกับแคทว่าได้โอนเงินมาให้ไว้ในบัญชีเพื่อให้เธอใช้ซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ต่างๆ ที่ต้องใช้ตอนฝึกงานแล้ว ให้เธอใช้ได้เลย พ่อของมายด์ก็เช่นกัน หลังจากร่ำลากันเสร็จแล้วทุกคนก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ กัน

วันนี้แคท มายด์และปรางมาซื้อเสื้อผ้าที่ต้องใช้ใส่ไปทำงานกัน แม่ปรางให้ลุงยอดขับรถมาคอยรับส่งสามสาวเพราะว่าเป็นห่วง

สาวๆ เดินเลือกเสื้อผ้ากันอยู่ในห้างสักพักเสียงโทรศัพท์ของปรางก็ดังขึ้น

“ฮัลโลค่ะ.. ว่าไงคะพี่ปริน… ใช่ค่ะ..อยู่ที่เซนทรัลค่ะ..ค่ะ..ได้ค่ะ” แล้วปรางก็วางสาย

“เดี๋ยวพี่ปรินจะมานะ” ปรางหันไปบอกแคทกับมายด์

“แล้วพี่เขาไม่ทำงานเหรอ” มายด์ถาม

“เห็นว่าออกมาพบลูกค้าแล้วบ่ายไม่มีงานอะไรด่วน ก็เลยจะมารับพวกเราเอง” ปรางบอก

“แล้วลุงยอดล่ะ” แคทถาม

“พี่ปรินเขาโทรบอกให้ลุงยอดกลับไปแล้ว” ปรางตอบ แล้วก็พากันเดินดูของกันต่อ

1ชม.ต่อมาปรินก็โทรมาบอกว่าเขารออยู่ที่ร้านอาหารในห้าง สาวๆ จึงพากันเดินไปหา

ปริน ชยาและเอกนั่งรอสาวๆ ได้สักพักก็เห็นพวกเธอเดินมาในมือหิ้วถุงใส่ของมาคนละหลายถุงอยู่

“รอนานมั้ยคะพี่ๆ” ปรางถาม

“ไม่นานคับ” ชยาตอบ

“แล้วพวกเรากินข้าวกันหรือยัง” ปรินถาม

“ยังค่ะ กะว่าซื้อของเสร็จแล้วถึงจะกินค่ะ แล้วพวกพี่กินกันหรือยังคะ” ปรางถาม

“พวกพี่กินกันแล้วคับ กินกับลูกค้าน่ะ” เอกตอบ

“แล้วพวกเราจะไปกินอะไรกันล่ะ” ปรินถามต่อ

ปรางหันไปมองหน้าเพื่อน

“ไปกินส้มตำที่ร้านบ้านสวนกันดีมั้ย” ปรางถามเพื่อน

“จะไหวเหรอ ปรางไม่กินเผ็ดนี่ เดี๋ยวก็ปวดท้องอีกหรอก” แคทพูด

“ก็อยากกินนี่ นะ ไปกันนะ” ปรางอ้อนตามเคย

แคทจึงส่ายหัวยิ้มๆ

“จ้า ไปก็ไป ก็บอกเขาไม่ต้องเผ็ดแล้วกัน” แคทบอก

“แต่ แคทชอบรสจัดนี่นา” ปรางบอก

“ชั้นกินได้หมดแหละ แค่ให้เธอไม่ปวดท้องก็พอ” แคทบอก

แล้วทุกคนก็พากันไปที่ร้านส้มตำบ้านสวน โดยมีสาวๆ นั่งบอกทางไปคันละคนเพราะหนุ่มๆ ต่างก็ขับรถมาคนละคัน

ที่ร้านส้มตำบ้านสวน ปรางจะสั่งอาหารหลายอย่างแต่แคทบอกว่าสั่งมาแต่น้อยก่อน ถ้าไม่พอแล้วค่อยสั่งใหม่ แล้วแคทก็เป็นคนสั่งเองโดยเน้นบอกว่าไม่เผ็ดมาก

“พี่ปรินแคทดุปรางอีกแล้ว” ปรางบอก

ปรินยิ้มมองปราง

“อ้าว! เพื่อนรักเราไม่ใช่เหรอ จัดการเองเลย” ปรินบอก

“ดุ ยิ่งกว่าแม่อีกอ่ะ พี่ปรินระวังไว้เถอะ” ปรางว่าแซวๆ

“ไม่เกี่ยวกับพี่ปรินเลย ก็เธอชอบสั่งมามากทุกที คราวทีแล้วก็เหมือนกันในที่สุดก็กินไม่หมด แล้วตัวเองกินเผ็ดไม่ค่อยได้ก็ยังขืนกินเข้าไปจนปวดท้อง ชั้นยังไม่อยากพาเธอไปโรงพยาบาลอีกรอบ” แคทพูด

“จ้า จะเชื่อฟังไม่ดื้ออีกแล้ว อย่าดุนะ” ปรางจับแขนแคทแล้วเอาหัวไปอิงกับคอของแคท ทุกคนจึงขำ

“ต่อไปนี้แม่คงจะเหนื่อยน้อยลงล่ะ พี่ว่า” ปรินเสริมอีก

พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ ทุกคนจึงกินไปคุยกันไป

“พี่ว่าจะให้พวกเราไปทำงานวันจันทร์หน้านี้ พวกเราจะว่ายังไง พร้อมมั้ย”ปรินบอกสาวๆ

สาวๆ หันมามองหน้ากันแล้วพยักหน้า

“ค่ะ พี่ปริน” ปรางบอก

“ตกลงตามนั้นนะ พี่จะได้ให้เขาเตรียมอะไรให้พร้อม”

“แล้วต้องทำอะไรบ้างคะ” มายด์ถามปริน

“อ้อ! พี่ลืมบอก มายด์ไปทำหน้าที่เลขาส่วนตัวให้เอกนะ เดี๋ยวเอกจะบอกเองว่าต้องทำอะไรบ้าง”

“ค่ะ พี่ปริน” มายด์รับคำ

“ปรางไปเป็นเลขาส่วนตัวให้ชยานะ”

“ค่ะ” ปรางรับคำ

“ส่วนแคทมาเป็นเลขาส่วนตัวให้พี่”

“ทำไมไม่ให้ปรางเป็นเลขาให้พี่ปรินล่ะคะ ปรางจะได้เรียนรู้งานจากพี่ปรินด้วย” แคทถามทันที

“ทำไม ไม่อยากทำงานกับพี่เหรอ”ปรินถามล้อๆ

“ป่าวค่ะ ก็จริงๆ มันควรจะเป็นอย่างนั้นนี่คะ” แคทมองอย่างจริงจัง

“ปรางบอกว่าแคทเก่งภาษา ทั้งพูดและเขียน แล้วพี่ต้องพบลูกค้าต่างประเทศบ่อยมาก จึงคิดว่าเราน่าจะช่วยพี่ได้มากกว่า ส่วนข้อสำคัญอีกข้อเราคิดว่าชยาจะยอมเหรอ” ปรินอธิบายเหตุผลให้แคทฟัง

เขารู้นิสัยแคทดีจึงเตรียมไว้แล้วว่าต้องพูดยังไงให้เธอยอมรับ

“งั้นก็ได้ค่ะ” แคทยอมรับ

“ไม่ใช่พี่คนเดียวมั้งที่ไม่ยอมอ่ะ” ชยาพูดมองหน้าปรินแล้วหัวเราะ

วันแรกของการฝึกงานปรินขับรถมารับแคทกับมายด์ที่บ้านพร้อมกับปราง สองสาวรออยู่แล้วเมื่อปรินมาถึง หลังจากขึ้นรถแล้ว

“ชั้นตื่นเต้นอ่ะ กลัวจะทำอะไรไม่ถูก” มายด์พูดกับปราง

“ชั้นก็เหมือนกัน” ปรางหันมาพูดกับมายด์

“เดี๋ยวๆ ยายปราง นั่นบริษัทของเธอนะจ๊ะ” แคทบอก

“ก็…ชั้นไม่เคยไปเลย สักครั้งเดียวอ่ะ” ปรางบอก

“พี่กับพ่อให้ไปเราก็ไม่เคยจะยอมไป แล้วทีนี้จะมาออกอาการ” ปรินว่า

“ก็ มันไม่น่าสนุกเลยนี่คะ” ปรางบอก

“ไปทำงานนะไม่ได้ไปเที่ยวจะได้สนุก”ปรินพูดต่อ

“แล้วแคทล่ะไม่ตื่นเต้นเหรอ” ปรินมองหน้าเธอผ่านทางกระจก

เขาไม่เห็นว่าเธอจะแสดงความวิตกกังวลอะไร

“แคทไม่ตื่นเต้นหรอกค่ะพี่ปริน แคทเคยชินกับการทำงานร่วมกับคนอื่นอยู่แล้ว” มายด์บอกกับปรินแทน

“แคทเคยทำงานมาก่อนเหรอ” ปรินถาม

“ป่าวหรอกค่ะ แค่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ตอนเรียนม.ปลายก็เลยชินกับการปรับตัวเข้ากับคนอื่น” แคทตอบ

“ปรางกับมายด์จะกลัวอะไร พวกเธอทำงานร่วมกับพี่ชยากับพี่เอก มีอะไรก็ถามพี่เขาได้ หัดๆ ไว้ จบไปก็ต้องไปทำงานอย่างนี้อยู่ดี”แคทหันไปบอกเพื่อนทั้งสองคน

บริษัทของพ่อปรินเป็นตึกตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ชั้นล่างมีร้านกาแฟ ที่นั่งคอยของลูกค้าและคนที่มาติดต่อ ส่วนชั้นที่สาวๆ ต้องไปทำงานอยู่ที่ชั้น25 ต้องขึ้นลิฟต์ไป

เมื่อถึงชั้นที่25ข้างหน้ามีเคาท์เตอร์และพนักงานต้อนรับคอยให้คำแนะนำกับคนที่มาติดต่อ ส่วนข้างในออฟฟิต มีโต๊ะตั้งเรียงรายแบ่งเป็นล็อคๆ ระหว่างที่เดินผ่านไปมีพนักงานพากันทักทายปริน

“อรุณสวัสดิ์คับบอส ค่ะบอส”

ปรินพาสามสาวมาจนถึงหน้าห้องทำงานของเขา มีโต๊ะตั้งอยู่ข้างหน้าห้องมีผู้หญิงหน้าตาดีย้อมผมสีน้ำตาล อายุน่าจะมากกว่าปรินนิดหน่อย เป็นเลขาหน้าห้องเธอเดินออกมาทันทีที่เห็นปรินเดินมาพร้อมกับสาวๆ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะบอส สวัสดีค่ะคุณปราง” เธอทักทายปรินแล้วก็ทักปรางด้วย

“สวัสดีค่ะพี่ลินดา” ปรางทักตอบ

“คุณชยากับคุณเอกมารออยู่ในห้องแล้วค่ะบอส” ลินดาหันไปรายงานปริน

ปรินพยักหน้าแล้วเดินนำสาวๆ เข้าไปข้างใน

พอเดินเข้าไปข้างในห้องทำงานของปริน แคทมองดูรอบๆ ข้างขวามือดูเหมือนจะเป็นห้องประชุมเล็ก ด้านหน้าของเธอมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งอยู่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานของปริน เยื้องไปทางซ้ายมือมีชุดโซฟาตั้งอยู่ ด้านข้างๆ มีโต๊ะทำงานวางอยู่อีกชุด น่าจะเป็นโต๊ะของเธอ ตั้งหันหน้ามาที่โต๊ะทำงานของปริน ถัดไปด้านข้างมีประตูเดินออกไปที่ระเบียง ส่วนด้านหลังโต๊ะทำงานตัวเล็กไปไม่มากมีห้องน้ำอยู่

ตอนนี้ตรงโซฟาชยากับเอกนั่งคอยอยู่แล้ว เมื่อปรินกับสาวๆ เดินเข้ามาชยากับเอกก็ลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาหา สาวๆ ยกมือไหว้ทักทายสองหนุ่ม

“มารับเลขาไปกันได้แล้ว” ปรินบอก

“ขอบคุณมากคับบอส” ชยาบอกยิ้มๆ

“งั้นเดี๋ยวกลางวันเจอกัน” เอกบอกปริน

แล้วทั้งสี่คนก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ปรางกับมายด์โบกมือให้กับแคท แคทพยักหน้ารับ

“แคทนั่งทำงานที่โต๊ะนั้นนะ เดี๋ยวพี่ให้ลินดามาบอกรายละเอียดให้ฟัง” ปรินบอก

“ค่ะบอส” แคทเรียกเขาตามอย่างพนักงานทั่วไป

ปรินมองหน้าแคททันที

“ทำไมเรียกพี่อย่างนั้นล่ะ”

“แคทก็เป็นพนักงานคนหนึ่งนะคะ ก็ต้องเรียกเหมือนกับทุกคนสิคะ”

“พี่ให้เราเรียกพี่แบบนั้นแค่ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะ ถ้าไม่มีใครหรือมีแค่เรากันเองต้องเรียกพี่เหมือนเดิมนะ”

“ก็ได้ค่ะ แต่พี่ปรินเลิกพูดคับกับแคทได้แล้วค่ะ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ถ้าใครมาได้ยินเข้ามันจะไม่ดีนะคะ”

“ไม่ล่ะ ก็พี่ชอบ”ปรินบอกแล้วก็เดินอมยิ้มไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเขา

แคทจึงส่ายหน้าแล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะของเธอ บนโต๊ะของเธอมีจอคอมวางอยู่ แล้วก็มีโทรศัพท์ภายในวางอยู่พร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียน ด้านข้างที่ติดกับโต๊ะมีปรินเตอร์วางอยู่

“ลินดาเข้ามาหาผมเดี๋ยว” เสียงปรินกดเรียกเลขา

“ค่ะบอส” เสียงตอบกลับมา

มีเสียงเคาะประตูแล้วลินดาก็เดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะของปริน

“นี่คุณมนัสยา ที่ผมบอกว่าจะมาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวให้ผม”ปรินผายมือมาทางแคทแล้วบอก

“สวัสดีค่ะคุณมนัสยา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ลินดาหันไปก้มหัวลงทักทาย

แคทรีบยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้ลินดา

“สวัสดีค่ะคุณลินดา แต่เรียกว่าแคทก็พอค่ะ”

ลินดายิ้มเธอรู้สึกถูกชะตากับแคทมาก

“งั้นคุณแคทก็เรียกพี่ลินดาเหมือนกับคุณปรางเถอะค่ะ”

“ได้ค่ะ แต่พี่ลินดาเรียกแคทก็พอไม่ต้องมีคุณนำหน้าหรอกค่ะ”

“ไม่ได้ค่ะ” ลินดาพูด เธอชำเลืองมองปรินที่นั่งฟังสาวๆ ทักทายกันอยู่

ปรินพอใจที่ลินดากับแคทเข้ากันได้ดี แคทเห็นลินดามองไปที่ปรินจึงพยักหน้าเข้าใจ

“ทักทายกันแล้ว เดี๋ยวคุณก็ให้คำแนะนำกับคุณแคทด้วยนะว่าเธอต้องทำอะไรยังไง เดี๋ยวผมไปพบผอ.ก่อน”

“ได้ค่ะ บอส” ลินดาบอก

ปรินเดินออกไปจากห้อง  ลินดาจึงเดินมาที่โต๊ะของแคทพร้อมทั้งเอาแม็คบุ๊คขนาดพกพามาให้เธอ แล้วอธิบายการทำงานให้เธอฟังอย่างละเอียด ทั้งสองคนคุยกันถูกคอมากๆ ลินดาบอกว่าแคทหัวไว เรียนรู้ได้เร็ว

ลินดาออกไปนานแล้วแคทก็ตั้งอกตั้งใจเรียนรู้ในสิ่งที่ลินดาบอก จริงๆ แล้วเธอศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทมาก่อนแล้วว่าทำงานเกี่ยวกับอะไร ยังไงเธอจึงเรียนรู้ทุกอย่างได้เร็ว

ปรินเปิดประตูเข้ามา เขาเห็นแคทนั่งก้มหน้ามองจอคอมตรงหน้าสลับกับมองแม็คบุ๊คอย่างตั้งใจ

“พักบ้างก็ได้นะ เดี๋ยวคุณอารู้จะหาว่าพี่ใช้งานลูกสาวมากเกินไป”ปรินเดินมายืนที่หน้าโต๊ะของแคท

“ไม่ว่าหรอกค่ะ งานคืองานแคทไม่อยากให้ใครพูดว่าพี่ปรินเอาคนไม่เป็นงานมาเป็นเลขาส่วนตัว” แคทบอกแต่ไม่เงยหน้า

“ถ้าใครว่าแล้วพี่รู้ จะไล่ออกเลย”

แคทถึงกับเงยหน้ามองปรินเขม็ง

“ถ้าพี่ปรินทำอย่างนั้น แคทจะไม่มาทำงานกับพี่ปรินอีกเลยค่ะ” เธอพูดด้วยท่าทางเอาจริง

“พี่พูดเล่น จริงจังไปได้” ปรินขำ แคทมองค้อน

“ตลอดอ่ะ แคทจริงจังนะคะ”

“พี่รู้คับ แต่ลินดาบอกกับพี่แล้วว่าเราเรียนรู้งานได้เร็ว และดีมาก เพราะงั้นเราไม่ต้องกลัวใครจะว่าหรอก ขนาดลินดายังออกปากชมก็แสดงว่าต้องดีแน่ๆ”ปรินบอก

“ทำไมพี่ปรินถึงเชื่อที่พี่ลินดาบอกล่ะคะ”

“เพราะลินดาเคยเป็นเลขาเก่าของคุณพ่อ พอพี่เข้ามารับตำแหน่งพ่อก็ให้ลินดามาเป็นเลขาให้พี่แทน พ่อไว้ใจลินดาและพี่ก็ว่าเขาไว้ใจได้”

“อ้อ ค่ะ” แคทพูดแต่ยังคงสนใจงานตรงหน้า

ปรินเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน

“ลินดาเอาผลไม้กับน้ำส้มเข้ามาด้วย”

“ค่ะ บอส”

สักพักลินดาก็เดินถือผลไม้กับน้ำส้มเข้ามา เธอมองปริน เขาพยักหน้าให้เธอเดินเอาไปให้แคท

“คุณแคทค่ะ ผลไม้กับน้ำส้มค่ะ”

แคทเงยหน้ามองลินดางงๆ

ลินดาพยักหน้าไปทางปรินแล้ววางจานผลไม้กับน้ำส้มลงที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเดินออกไป

แคทมองปริน

“แคทเพิ่งรู้นะคะว่าที่บริษัทมีของว่างให้พนักงานด้วย”

“มีให้เราคนเดียวนี่ล่ะ ถ้าดูแลไม่ดีรับรองว่าไม่ต้องถึงพ่อเราหรอก แม่พี่ได้มาจัดการพี่แน่ๆ”

“แต่ถ้าใครรู้จะไม่ดีมั้งคะ”

“ตอนนี้คงรู้กันทั้งบริษัทแล้วล่ะ ว่าพี่พาว่าที่แฟนในอนาคตมาทำงานด้วย”

“พี่ปรินว่าอะไรนะคะ”

“ป่าวคับ มากินก่อนเถอะ เดี๋ยวหายเย็นจะไม่อร่อยนะ” ปรินบอกแล้วเดินมาที่โซฟา แคทก็เลยต้องลุกขึ้นมาด้วย

นอกห้องทำงานของปรินพนักงานบางคนเริ่มจับกลุ่มพูดถึงเรื่องที่ปรินมีเลขาส่วนตัว เพราะทุกคนต่างก็รู้กันว่าปรินไม่เคยอยากมีเลขาส่วนตัวมาก่อนเลย ทั้งๆ ที่มีคนเคยเสนอให้เขามี แล้วหนึ่งในนั้นก็คือฟ้านั่นเอง ทุกคนรู้ว่าฟ้าอยากเป็นเลขาส่วนตัวของปรินมากแต่ปรินก็ปฏิเสธมาตลอด แต่วันนี้เขาพาหญิงสาวสวยมาเป็นเลขาส่วนตัวแถมโต๊ะทำงานยังอยู่ในห้องเขาอีกด้วย มีพนักงานบางคนที่ไปงานเลี้ยงที่บริษัทจำแคทได้จึงมาเล่าเรื่องที่เกิดคืนนั้นให้คนอื่นฟัง ทุกคนจึงลงความเห็นว่าแคทน่าจะเป็นคนพิเศษของบอสแน่ๆ

ลินดาเองก็รู้สึกอย่างนั้น เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาทำงานกับปรินเธอไม่เคยเห็นเขาจะให้ความสำคัญ หรือเอาใจใส่ผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอคิดว่าถ้าเป็นจริงจะดีมากๆ เพราะเท่าที่เธอได้พูดคุยกับแคท แคทเป็นคนตรง เก่ง ฉลาด ไม่ถือตัว ออ่นน้อมถ่อมตนและเรียบร้อย ถ้าเป็นคนนี้จริงๆ เธอสนับสนุนปรินเต็มที่แต่เธอก็ไม่ชอบที่พนักงานจะมานั่งนินทาเจ้านายก็เลยเดินไปบอกให้แยกย้ายกันไปทำงานได้

ตอนเที่ยงปราง ชยา มายด์กับเอกก็พากันมาที่ห้องทำงานของปริน

“ไปกินข้าวกันดีกว่า” ชยาเปิดประตูเข้ามาแล้วพูดทันที

“แคทยังไม่หยุดทำงานอีกเหรอ พี่ปรินใช้งานแคทหนักปรางจะฟ้องแม่” ปรางว่าแล้วเดินไปหาแคทที่ยังก้มหน้ามองแม็คบุ๊ค

“พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง ถ้ายังเป็นกันอย่างนี้ เราขอลาออกเลยดีมั้ย” แคทเงยหน้ามาพูดยิ้มๆ

“พี่ปรินไปทำอะไรให้แคทโกรธเนี่ย ไม่ได้นะห้ามลาออก ไม่งั้นปรางก็ไม่ทำเหมือนกัน” ปรางว่าแล้วทำหน้างอ

แคทกดปิดแมคบุ๊คในมือแล้วเดินมาที่ปราง

“จ้าๆ ไม่ลาออก แต่ถ้ายังเป็นกันอย่างนี้เราก็ลำบากใจนะ” แคทกอดปราง

ทุกคนที่มองอยู่พากันยิ้มกับท่าทีน่าเอ็นดู

“แคทคิดมาก กลัวแต่พนักงานคนอื่นจะว่าที่เขาแตกต่างจากคนอื่น” ปรินบอกกับทุกคน

“ไม่ต้องคิดมากหรอกแคท พนักงานโดยส่วนใหญ่ก็จะรู้กันอยู่แล้วว่าแคทกับมายด์เป็นเพื่อนของปรางเพราะฉะนั้นมันก็ต้องพิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้ว แค่ทำหน้าที่ให้ดีก็พอ” ชยาบอกแคท

“เข้าใจแล้วก็ไปกินข้าวกันดีกว่า” เอกบอก

“ไปกันอย่างนี้ก็ยิ่งเด่นไปกันใหญ่น่ะสิคะ” แคทท้วง

“เลิกคิดมากได้แล้ว โดยปกติเธอก็ไม่ค่อยสนใจว่าใครจะพูดอะไรไม่ใช่ ทำไมตอนนี้ถึงคิดมากนักล่ะ” ปรางมองหน้าแคทเธอว่าแคทดูแปลกๆ ไป

“แคทไม่ได้ห่วงตัวเองหรอกปราง คบกันมาตั้งนานไม่รู้หรือไง แคทกลัวคนจะว่าพี่ปรินต่างหาก” มายด์พูด

ปรางยิ้มแล้วเดินไปจับมือแคท

“ใครจะพูดยังไงก็ช่าง แต่ถ้าพูดกันว่าเธอกับพี่ปรินเป็นแฟนกัน ชั้นก็ว่าดีนะชั้นชอบอยากให้เป็นจริงๆ หรือว่าไงคะพี่ปริน”

“พี่เห็นด้วย” ปรินพูดยิ้มๆ

แคทเริ่มหน้าแดงเมื่อโดนแซว

“ไปกินข้าวได้แล้ว หิวแล้ว” ปรางดันตัวแคทให้เดินไปข้างหน้า

แคทจึงเดินไปสะพายกระเป๋าแล้วหยิบแม็คบุ๊คติดมือไปด้วย

ทุกคนเดินออกมาก็มีพนักงานหลายคนที่กำลังจะไปกินข้าวมองมาเป็นตาเดียว เพราะโดยปกติจะเห็นแต่ปริน ชยา กับเอกที่ไปกินข้าวด้วยกันประจำแต่วันนี้มีน้องสาวบอสกับเพื่อนๆ น้องสาวบอสไปด้วย

หลังจากกลับจากกินข้าวเที่ยงแล้ว ยังไม่ได้เวลางานแคทจึงเดินออกไปที่ระเบียง ที่ระเบียงมีเก้าอี้ไว้นั่งสองตัวและมีโต๊ะไว้วางของ นอกนั้นก็ปล่อยโล่งๆ

แคทเดินไปที่ริมระเบียงแล้วมองไปข้างหน้า ปรินเดินมายืนข้างๆ

“อยู่นี่เอง..พี่ก็นึกว่าไปไหน” ตอนที่แคทเดินออกมาปรินเข้าห้องน้ำอยู่

“ลมเย็นดีนะคะ ทำไมพี่ปรินไม่หาต้นไม้หรือดอกไม้มาปลูกไว้บ้างล่ะคะ เวลาออกมานั่งพักจะได้สดชื่น”

“พี่ไม่ทันคิด ดีเหมือนกันนะ งั้นแคทช่วยพี่คิดหน่อยว่าจะปลูกต้นอะไรดี”

“พี่ปรินชอบต้นอะไรล่ะคะ เพราะเป็นห้องทำงานของพี่ก็ต้องปลูกที่พี่ชอบ”

“แคทว่าต้นอะไรดี พี่ก็เอาต้นนั้นแหละตามใจเรา”

“ถ้าไม่ถูกใจห้ามบ่นนะคะ”

“ไม่กล้าบ่นหรอกคับ”

“ตอนบ่ายนี้พี่มีนัดที่ไหนหรือป่าว”

“ไม่มีนะคะ วันนี้ว่างค่ะ”แคทบอกเพราะเธอดูตารางงานของเขาวันนี้แล้ว

“งั้นดีเลย ไปร้านต้นไม้กัน”

“ไปทำไมคะ”

“ไปหาซื้อต้นไม้มาปลูกไง”

“แต่ยังไม่เลิกงานเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไร ไปกันเลย ถ้ามีอะไรด่วนลินดาก็โทรบอกเองนั่นแหละ” ปรินพูดแล้วจับมือแคทให้เดินไปกับเขา

แคทเดินไปหยิบกระเป๋ากับแมคบุ๊คแล้วเดินตามปรินออกไป

ปรินเดินไปบอกลินดา แล้วก็เดินเคียงคู่แคทออกไป

วันรุ่งขึ้นตอนสายๆ พนักงานร้านต้นไม้ที่ปรินกับแคทไปสั่งต้นไม้ก็เอาต้นไม้มาส่ง พนักงานที่ทำงานกันอยู่ที่หน้าห้องทำงานของปรินถึงกับงง เพราะบอสของเขาไม่เคยสนใจที่จะตกแต่งห้องทำงานเลย แต่ครั้งนี้ถึงกับสั่งต้นไม้มามากมายหลายชนิด

ขนาดลินดาเองยังงงตอนที่พนักงานต้อนรับข้างล่างโทรขึ้นมาบอกว่ามีต้นไม้มาส่ง เธอต้องย้อนถามว่าใครสั่ง คนส่งต้นไม้บอกว่าปรินเป็นคนสั่งทำเอาเธออึ้งไปเลยทีเดียว พอเธอโทรบอกปรินเขาก็บอกให้เอาขึ้นมาที่ห้องของเขา ตอนนี้เธอถึงได้เข้าใจว่าทำไมปรินถึงได้สั่งต้นไม้ เพราะเมื่อคนส่งต้นไม้ต้องมาตกแต่งให้ด้วย

ลินดาเห็นแคทไปยืนคอยบอกว่าต้นอะไรวางตรงไหนส่วนปรินยืนยิ้มดูอยู่ห่างๆ เธอจึงรู้ว่าที่เธอกับพวกพนักงานคิดคงไม่ผิด

หลังจากที่คนส่งต้นไม้กลับไปแล้ว ปรินก็เดินออกมาที่ระเบียงที่ตอนนี้กลายเป็นสวนดอกไม้ไปแล้ว

“โอ้โฮ้! สวยมากเลยนะเนี่ย” ปรินบอก

“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าพอแต่งแล้วจะสวยมาก”

“น่าออกมานั่งเล่นบ่อยๆ นะ พี่ว่า”

“ตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวแคทขอไปเตรียมงานก่อนนะคะ”

“เตรียมอะไรอีกล่ะคับ”

“ก็บ่ายนี้พี่ปรินมีพบลูกค้า แคทก็ต้องอ่านข้อมูลของลูกค้าที่พี่ปรินจะไปพบก่อนสิคะ”

“ทำไมแต่ก่อนพี่ไม่เห็นต้องอ่านก่อนเลยล่ะ”

“ตอนนั้นพี่ปรินไปพบลูกค้าแค่คนเดียว แต่ตอนนี้แคทเป็นเลขาส่วนตัวต้องไปด้วย แคทก็ควรจะรู้ว่าคนที่จะไปพบเป็นใคร ทำอะไร นิสัยเป็นยังไงจะได้วางตัวถูกไงคะ”พูดจบแล้วแคทก็เดินเข้าไปข้างใน

ปรินมองตามพลางคิดว่าเธอรอบคอบเสมอ ไม่เคยมองข้ามสิ่งต่างๆ รอบตัวเลย

///////////////////////

มาอัพให้แบบต่อเนื่องนะคะ

พี่ปรินของไรท์..แผนสูงนะ..กลัวคนที่รักจะไปไกล..

ถูกใจกันหรือป่าวคะ..มาคอมเม้นต์กันได้นะคะ

เลือกตอน
1 แรกเจอ
2 ความลับ
3 ห่วง
4 ไม่ยอมใคร
5 อึ้ง
6 เขิน
7 รู้ใจ
8 สารภาพ
9 เรื่องจริง
10 เปลี่ยน
11 คนที่ไม่อยากเจอ
12 ฝึกงาน
13 ท้าทาย
14 รับมือ
15 คู่แข่ง
16 สัญญา
17 เดินทาง
18 คู่แข่งอีกคน
19 กลับบ้าน
20 เจ็บตัว
21 ดูแล
22 หวงและห่วง
23 เพื่อน
24 หึง
25 แฟน
26 จูบแรก
27 ประกาศ
28 ทำร้าย
29 ครั้งแรก
30 โกรธ
31 ง้อ
32 หมั้น
33 เรือนหอ
34 งานแต่งไมเคิล
35 ใกล้ชิด
36 สัมมนา
37 รุ่นน้อง
38 ของขวัญและงานเลี้ยงรุ่น
39 งานหมั้นของเอกกับมายด์
40 อุบัติเหตุ
41 แต่งงาน
42 หลังแต่งงานnc18++
43 งานแต่งของเอกกับมายด์nc18++
44 ท้องnc18++
45 โรคร้าย
46 ความรักกับความหวัง
47 รู้สึกตัวnc18++
48 ความสุข(จบ)
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 48

1
แรกเจอ
2
ความลับ
3
ห่วง
4
ไม่ยอมใคร
5
อึ้ง
6
เขิน
7
รู้ใจ
8
สารภาพ
9
เรื่องจริง
10
เปลี่ยน
11
คนที่ไม่อยากเจอ
12
ฝึกงาน
13
ท้าทาย
14
รับมือ
15
คู่แข่ง
16
สัญญา
17
เดินทาง
18
คู่แข่งอีกคน
19
กลับบ้าน
20
เจ็บตัว
21
ดูแล
22
หวงและห่วง
23
เพื่อน
24
หึง
25
แฟน
26
จูบแรก
27
ประกาศ
28
ทำร้าย
29
ครั้งแรก
30
โกรธ
31
ง้อ
32
หมั้น
33
เรือนหอ
34
งานแต่งไมเคิล
35
ใกล้ชิด
36
สัมมนา
37
รุ่นน้อง
38
ของขวัญและงานเลี้ยงรุ่น
39
งานหมั้นของเอกกับมายด์
40
อุบัติเหตุ
41
แต่งงาน
42
หลังแต่งงานnc18++
43
งานแต่งของเอกกับมายด์nc18++
44
ท้องnc18++
45
โรคร้าย
46
ความรักกับความหวัง
47
รู้สึกตัวnc18++
48
ความสุข(จบ)

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!