ณ ตำหนักหมื่นจันทรา ของผู้เฒ่าจันทรา
ฮ่า ฮ่าๆ เสียงหัวเราะที่แสดงออกถึงความสะใจในความโชคร้ายของผู้อื่นดังลั่นขึ้นภายในตำหนักหมื่นจันทรา เสียงหัวเราะนี้ หาใช่เสียงหัวเราะของเจ้าของตำหนักไม่ หากแต่กลับเป็นเสียงหัวเราะของ ชายหนุ่มผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งงดงามราวภาพวาด ผิวของเขาขาวราวหิมะ ริมฝีปากทั้งสองโค้งหยักอย่างได้รูปมีขนาดไม่บางและหนาจนเกินไปนัก คิ้วโก่งดั่งคันศร ดวงตาคู่นั้นกระจ่างใสยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกใบนี้ จมูกโด่งเชิดรั้นตรงปลายนิดๆ ดวงหน้ารูปไข่นั้นหวานล้ำยิ่งกว่าอิสระตรี เขาคือ ผู้หยั่งรู้และขีดเขียนโชคชะตาของทุกสรรพสิ่งในทั่วทั้งสามภพ เทพแห่งโชคชะตาเฟิ่งซิวเหยา
หลั่งจากเฟิ่งซีเหยา หัวเราะจนพออกพอใจแล้วก็กล่าวคำที่ทำให้เจ้าของตำหนักแทบจะเอาไม้เท้าฟาดใส่คนตรงหน้าให้แหลกสลายไปในบัดดล
เฟิ่งซีเหยากล่าวว่า " เจ้าเฒ่า คราวนี้เจ้าก่อเรื่องใหญ่แล้ว รู้ตัวหรือไม่? "
เทพจันทราหรือ เจ้าเฒ่าที่ถูกเรียก ถลึงตาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
" เฮอะ !! เจ้าเฒ่าทารก เจ้าเฒ่าจอมบงการ เจ้านี่ยังกล้าเรียกข้าว่าเจ้าเฒ่า เจ้าก็อายุเท่าข้า ข้าเฒ่าเจ้าก็เฒ่าเหมือนกันแหล่ะ เพียงแต่เจ้าอยู่ในมิติกาลเวลา เจ้าเลยไม่มีสภาพแก่เฒ่า แล้วข้าก่อเรื่องใหญ่เรื่องใหญ่อะไร เจ้าพูด!!
เฟิ่งซีเหยาส่ายหน้าเล็กน้อย สายตาที่มองสหายรักอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
เห้อ..ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วกล่าวว่า
" เจ้า..ผูกด้ายแดงมานานเกินไปแล้วกระมัง สายตาเจ้าจึงฝ้าฟางขนาดนี้ "
ผู้เฒ่าจันทรารู้มึนงงไปชั่วขณะไม่เข้าใจความหมายของเฟิ่งซีเหยา เอ่ยถามกลับไปว่า
" เหตุใด?เจ้าถึงกล่าวหาข้าเช่นนี้ ?ซีเหยา "
วันนี้เป็นวันผูกด้ายแดงให้สะใภ้สวรรค์ ครั้งที่สอง งานสำคัญขนาดนี้เขาย่อมต้องมิอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เจ้าเฒ่าทารกจอมบงการต้องแกล้งเขาเล่นแน่ๆ
เฟิ่งซีเหยา รู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องทำเรื่องอย่างจริงจังเสียที สีหน้าที่เคยล้อเล่นกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที เอ่ยเสียงเคร่งเครียดจริงจังว่า
" เจ้าผูกด้ายแดงผิดคน!! "
หลังจากได้ฟัง ผู้เฒ่าจันทราก็กระแทกไม้เท้าอย่างแรง กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
" เฟิ่งซิวเหยา..เจ้าอย่าพูดจาเลื่อนเปื้อน !! "
เฟิ่งซิวเหยาที่ถูกผู้เฒ่าจันทราต่อว่าอย่างไม่ยุติธรรม มือล้วงไปในแขนเสื้อคว้ากระจกโชคชะตาขึ้นมายื่นไปตรงหน้าผู้เฒ่าจันทราทันที จากนั้นก็ใช่พลังทำให้ภาพปรากฏขึ้นในกระจก
ผ่านไปไม่นาน ไม้เท้าที่ผู้เฒ่าจัทราถืออยู่ก็ล่วงลงไปกับพื้นทันที
" สวรรค์โปรด เง็กเซียนฮ่องเต้ช่วยข้าที "ผู้เฒ่าจันทราพึมพำอย่างตกใจ
คราวนี้เป็นเฟิ่งอวี้ที่มีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาแทน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรีบกระโดดตัวปลิวใช้สองมืออุดปากผู้เฒ่าจันทราอย่างหวาดกลัว
" หึ้ย !! ...เจ้าบ้าหรือเปล่าเจ้าเปล่งพระนามพระองค์ทำไม เจ้ากลัวพระองค์ไม่รู้หรือว่าเจ้าทำงานผิดพลาด เจ้าอย่าลืมสิว่าเจ้ายังมีกรรไกรตัดวาสนา เจ้าก็แค่ไปตัดด้ายแดงของทั้งคู่ออกแล้วก็ผูกใหม่ก็เท่านั้นเจ้าหรือข้าที่ทำหน้าที่ผูกวาสนากันนะ "
ผู้เฒ่าจันทราพยักหน้า หงึกหงักอย่างเห็นด้วยเหตุใดเขาจึงลืมว่าเขาวามารถใช้กรรไกรตัดวาสนา ได้นะ
แต่ผู้เฒ่าจันทราก็ดีใจได้ไม่นานเสียงอันมีอำนาจและทรงพลังก็ดังขึ้นลั่นตำหนักก่อนที่จะปรากฏร่างนิมิตรของมังกรสีทองอร่าม
ทั้งสองตกใจจนวิญญานแทบแตกสลายรีบทิ้งตัวคุกเข่าทันที
" ถวายบังคมฝ่าบาท/ ถวายบังคมฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะ "
ทั้งสองคิดในใจมีคำกล่าวของพวกมนุษย์กล่าวไว้ เข้าป่าอย่าพูดถึงราชสีห์ นี่..อยู่บนสรรค์ อย่าพูดถึงเง็กเซียนฮ่องเต้ พูดถึงเง็กเซียนฮ่องเต้ เง็กเซียนฮ่องเต้ก็มานี่เป็นเคราะห์ชนิดใดกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments