ก๊อก ก๊อก—
"สวัสดีค่ะคุณไกร ฉันขอตรวจร่างกายหน่อยได้ใหมคะ?"
เธอคือพยาบาลของโรงพยาบาลชากังราว
เธอ มีหน้าที่ตรวจร่างกายผมทุกเช้าเย็น
เห็นคุณหมอบอกว่าอีกหนึ่งวันก็จะกลับบ้านได้
หลังจากเหตุการณ์มีดหมอนั้นก็ผ่านมา3วันแล้ว
อาการผมก็ค่อนข้างปกติแต่สิ่งที่แปลกไปคืออยู่ดีๆก็มีรอยสักแปลกๆรูป งูที่กำลังกินหางตนเองอยู่ มันดูแปลกแต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ื ผมตัดสินใจไม่บอกเรื่องรอยสักกับพลเพราะว่ามันแปลกที่อยู่ดีๆก็มีคนมาบอกว่าได้รอยสักมาตอนที่กำลังสลบอยู่ ถ้าพลรู้มันคงมองผมเป็นคนประหลาดแน่
หลังจากนั้นผมก็กลับมาทำงานที่ไซต์ก่อสร้างเหมือนเคยเพราะความต้องการเงินมันมากกว่าความกลัวกระสือ
ผมใช้ชีวิตโดยการระวังภัยตลอดเวลาว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นกับผมอีก จนตอนนี้ผมก็คิดว่าผมคงจะเป็นโรคประสาทแน่ๆ
ตอนกลางคืนผมจะพกมีดหมอไว้ไกล้ตัวเพราะเอาไว้ป้องกันกระสือเจ๊แก้วแต่แปลกที่พลไม่พูดอะไรที่เกี่ยวกับมีดหมอหรือเรื่องในวันนั้น. จนผมใช้ชีวิตรอดไปได้8วัน
ในคืนวันเสาร์หลังจากที่ผมทำงานเสร็จพอผมอาบน้ำเสร็จแล้วเอนหลังในที่นอนผมก็หลับทันทีจนลืมไปว่า ผมลืมเอามีดหมอมาด้วย.
ในคืนวันนั้นหมาได้หอนไปทั้งซอย แล้วผมก็ฝันว่ามีผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงเพียวหน้าตาดูหล่อเหลาแค่ผมมองก็รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนมีอะไรบางอย่าง
เขามีตาสีเขียว ผมสีดำอมเขียวแต่งตัวด้วย. จงกระเบนคล้ายคนสมัยก่อน
ชายคนนั้นหันมาทางผมเขาดูแปลกใจที่เห็นหน้าผมแลัวเขาก็เอ่ยน้ำเสียงออกมา
"เจ้าคงเป็นคนที่4ซินะ"
น้ำเสียงของเขาดูนุ่มนวลแต่ก็แข็งแกร่งไปในตัว
ผมไม่เข้าใจที่เขาต้องการสื่อ แต่พอจะเอ่ยตอบกลับไปนั้น น้ำเสียงที่จะเอ่ยกลับไม่ออกมาผมพยายามแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงออกมาแม้นิดเดียว
ชายคนนั้นเหมือนรับรู้ความรู้สึกผมได้เขายิ้มออกมาเป็นรอยยิัมที่อบอุ่นราวกับดวงอาทิตย์แต่กลับดูเศร้าหมองดังใต้ทะเลลึก
"ซักวันหนึ่งเราคงได้คุยกัน"จากนั้นแสงสีขาวก็โพยพุ้งออกมาจนทำให้ผมสดุ้งตื่นขึ้น
มันดูเสมือนจริงมากเกินที่จะเป็นความฝัน ผมพอเริ่มคิดทบทวนดีๆ ก็เหมือนคิดอะไรขึ้น
"เชี่ย..กูลืมมีดหมอ"
ผมพกมีดหมอติดตัวไปทุกที่เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
ผมมองไปที่นาฬิกาพบว่าเวลาประมาณตีสามครึ่งในเวลานี้ผมคิดได้ว่าจะมีอะไรออกมา
วันนี้พลไม่อยู่บ้าน เห็นบอกว่าจะไปทำธุระเรื่องงาน ผมเดินไปเช็คหน้าต่างทุกบานที่ชั้นสองพบว่าทุกบานปิดสนิดผมใจชื้นขึ้นมาบ้างผมค่อยเดินไปที่โซฟาขั้นล่างเพื่อหยิบมีดหมอในกระเป๋า แต่ทันใดนั้น
ตึง ตึง ตึง!
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้น ผมสดุ้งถือมีดไว้ในมือพรางเดินถอยหลังอย่างช้าๆ
ประตูบ้านของพลเป็นแบบเปิดขึ้นลงคล้ายๆแบบประตูของอู่ซ่อมรถเคยเห็นไอ้พลบอกว่าซักวันจะเปิดอู่เป็นของตนเอง
ผมปล่อยให้เสียงนั้นดังไปเรื่อยๆ
ตึง ตึง ตึง! ตึง ตึง ตึง! ตึง ตึง....
เสียงนั้นหยุดไปแต่สิ่งที่ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาก็เกิดขึ้น
"ไอ้ไกรกูเปิดประตูบ้านไม่ได้เปิดให้กูหน่อย"
น้ำเสียงผมฟังก็รู้เลย ไอ้พล
ผมคิดว่าพลมันมาแล้วแต่เปิดประตูไม่ได้จึงจะไปเปิดประตูให้มัน แต่.................................
ประตูเปิดได้แค่จากด้านนอก!
ตามลักษณะประตูแบบนี้นั้นออกแบบมาให้เปิดปิดได้แค่จากด้านนอกเพื่อให้สดวกในการเก็บร้านของอู่ซ่อมรถ
เสียงเงียบไปพักหนึ่ง มีแค่เพียงเสียงหัวใจของผมที่เต้นเท่านั้น
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก..
ผมคิดว่ากระสือมันคงยอมแพ้แล้วกลับไปแล้ว
แต่ที่ผมต้องตกใจหน้าต่างหลังบ้านที่เมื่อตอนหัวค่ำผมสูบบุหรี่แล้วเข้านอน จนลืมปิดมัน
ทันใดนั้นก็มีแสงสีเขียวลอยช้าเข้ามา พอมองดีๆแล้วนอกจากลำใส้และหัวแล้วมีแสงสีเขียวกระพริบข้าตามจังกวะหัวใจอยู่ตรงกลาง กระสือตนนั้นคือเจ๊แก้วจริงๆ มันมองมาที่ไกรด้วยสายตาเศร้าหมอง
"กูก็ไม่อยากทำอย่างนี้หรอกนะไกร"
กระสือเจ๊แก้วพูดด้วยเสียงแหบๆปนเศร้าราวกับคนที่ไม่อยากทำอย่างนี้
"แต่มึงเห็นกูแล้ว กูคงปล่อยไว้ไม่ได้"
จากนั้นกระสือก็แยกเขี้ยวทำให้เห็นเขี้ยวที่ฟันทั้ง2คล้ายเขี้ยวของเสือหรือสัตว์กินเนื้อ
กระสือพุ้งมาใส่ไกรหมายจะฆ่าในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
พรึม—เป๊ง!
ไกรหลบได้ด้วยความดวงดีทำให้กระสือพุ้งไปโดนแจกันข้างๆจนแตก
ไกรนั้นพอได้สติก็หยิบมีดหมอในกระเป๋าออกมามันที่ชันมีดก็มีแสงสีเขียวทะลักออกมาจากตัวมีดแสงนั่นทำให้กระสือกรีดร้องผิวหนังเป็นรอยคล้ายไฟไหม้ กระสือดิ้นทุลักทุเลจนออกจากบ้านไปได้
จากนั้นไกรก็ไม่พบกระสืออีกเลย ผ่านไปแล้ว5วันจนไกรก็อดสงใสไม่ได้ด้วยความทีาเจ๊แก้วแกเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของไกรทำให้เขารักและเอ็นดูไกรเหมือนลูกของตน ด้วยความรักของไกรที่มีต่อเจ๊แก้ว
"เขาก็เหมือนแม่เราวะ"
ไกรพูดกับตนเอง หลังเลิกงานตอนเย็นทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ไกรตัดสินใจไปหาลุงสักสามีของเจ๊แก้ว
"ลุงสักผมขอไปเจอเจ๊แก้วได้ใหมครับ"
ลุงสักตอบตกลงทันที นั้นทำให้ผมแปลกใจมากแต่ก็ไม่คิดอะไร
ตอนนั้นผมคิดว่าจะไปเจ๊แล้วสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแลกกับการไว้ขีวิตของผม
ื เมื่อผมเดินมาหน้าห้องจองเจ๊แก้ว ก็ซูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะเปิดประตู
ปัก!
อยู่ดีๆตัวผมก็หนักอึ้งจนเกือบจะหมดสติไป
"ขอโทษนะไกรลุงอยากทำเพื่อเมียบ้าง"
เสียงของลุงสักนั้นดูเศร้าหมองแต่ปมก็คิดอะไรไม่ออกแล้วก็สลบไป.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments