ปัญหาภายในตระกูล

... ตระกูลหรือครอบครัวนั้นมักเป็นแหล่งรวมตัวของคนมากกว่าหนึ่งคนเสมอ และเมื่อมีคนมากกว่าหนึ่งปัญหาเรื่องความขัดแย้งย่อมปรากฏเสมอๆ ในบางครั้งมันย่อมไม่อาจเลี่ยงความรุนแรงที่จะตามมา...

ภายในตระกูลอัลฟาตระกูลดยุคอันดับต้นๆในภูมิภาคทางตอนใต้ ณ ห้องประชุมประจำตระกูล

ผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานหรือหัวโต๊ะในการประชุมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก เจ้าตระกูลดยุคอัลฟา เบลรอน อัลฟา ชายผู้ได้ชื่อว่าสิงโตแดนใต้ ที่ตอนนี้ดูอายุราวๆ50ปี แต่มัดกล้ามเนื้อที่แน่นกระชับของเขาบวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้เขาดูราวกับคนอายุ30ปีต้นๆก็ไม่ปาน เบื้องหลังของเบลรอยอัลฟา ถูกยืนขนาบไปด้วยพ่อบ้านประจำตระกูลที่ร่วกับคุณปู่สุดหล่ออายุ60ปี ส่วนอีกคนสวมใส่ชุดคลุมมีดาบประจำตัว ดูแล้วน่าจะเป็นอัศวินที่แข็งแกร่ง เพียงแต่ปกปิดใบหน้าเอาไว้ทำให้ไม่ทราบกน้าตาที่แน่นอน และที่นั่งข้างเคียงทั้งสองฝั่งประกอบไปด้วยเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลตลอดจนสมาชิกรุ่นที่สองและสาม รวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า หากแต่ในความจริงแล้วขาดไปหนึ่ง

ท่ามกลางเหล่าสามชิกทุกคนที่มาประชุมต่างอยู่ในท่าทางสำรวมเงียบขรึมเป็นอย่างมาก ทำให้สถานที่แห่งนี้มีเพียงความเงียบและเสียงฟืนที่ถูกเผาไหม้เท่านั้น และตอนนี้ เสียงอันเก่าแก่ก็ได้ทำลายความเงียบขึ้นมา

" ข้าเบลรอน อัลฟา หัวหน้าตระกูลดยุคอัลฟา ที่เรียกพวกเจ้าทั้งหมดมาประชุมวันนี้ เพียงเพราะอยากแจ้งเรื่องราวที่สำคัญเป็นอย่างมาก มากเสียจนสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของตระกูลดยุคและขุนนางทั้งหมดในแผนดินนี้ได้" เสียงของดยุคเบลรอนก้องกังวาลออกไปทั่วทั้งบริเวณอย่างชัดเจน หลังจากเว้นระยะให้บรรดาเหล่าสมาชิกทำความเข้าใจก็เอ่ยต่อในทันที

"เรื่องราวต่อไปนี้ พวกเจ้าจงฟังและทิ้งมันไว้ในสถานที่แห่งนี้ เมื่อก้าวผ่านประตูออกไป เรื่องราวเหล่านี้จะต้องไม่หลุดรอดออกไปข้าง เข้าใจหรือไม่?" หลังจากสิ้นเสียงนี้ เหล่าสมาชิกต่างนั่งตัวตรงผู้ที่ยืนก็ยืนตัวตรงก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันว่า

"ด้วยเกียรติแห่งตระกูลอัลฟา เราขอสาบาน เรื่องราวที่ได้ยินในวันนี้ จะคงอยู่เพียงสถานที่แห่งนี้ เมื่อออกไปจากประตูจะลืมทุกอย่างให้สิ้น" เมื่อดยุดเบลรอนได้ฟังก็พยักหน้ายอมรับก่อนจะกล่าวออกมาอีกครั้ง

"เรื่องราวที่ข้าจะกล่าวก็คือเรื่องคำทำนายของเทพธิดาพยากรณ์ เกี่ยวกับสองภัยพิบัติและหนึ่งหายนะ เรื่องราวเหล่านี้ข้าได้ยินมากับหูและเห็นมากับตา เนื่องเพราะติดตามจักพรรดิไปเจ้าพบเทพธิดาพยากร" ดยุคเบลรอนกล่าวออกมาอย่างจริงจัง เพราะเรื่องบางเรื่องได้ยินได้ฟังแต่ไม่อาจกล่าวออกมา แต่..เขาก็ต้องรักษาคนในตระกูลของตนเองเอาไว้ การรักษารากฐานของตนเองก็สำคัญพอๆกับความจงรักภักดี

" เทพธิดาพยากรณ์ มีคำทำนายว่าอย่างไร ท่านพี่" สตรีสูงศักดิ์รูปร่างเพรียวบางใบหน้างดงามอายุราว30ต้นๆกล่าวออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว

"เบลอา นี่คือที่ประชุม สำรวมกิริยาของเจ้าด้วย" เสียงสตรีสูงศักดิ์อีกคนหนึ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามกล่าวออกมาตำหนิอย่างชัดเจน

"หึ ลิลลี่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาว่าข้า เจ้ากับข้าก็มีตำแหน่งเท่ากัน" เบลอากล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก

"พวกเจ้าพอ ถ้ายังทำตัวไร้สาระนักพวกเจ้าก็ออกไป นี่คือสถานที่ประชุมประจำตระกูล ใช่ที่ๆพวกเจ้าจะมาเถียงกันไหม?" ดยุคเบลรอนกล่าวตวาดออกมาด้วยใบหน้าเครียดๆ

"ขอโทษเจ้าค่ะ/ ขอโทษค่ะท่านพี่" สองสตรีสูงศักดิ์กล่าวออกมาพร้อมเพรียงกันด้วยใบหน้าซีดเซียว

" หึ ข้าจะบอกต่อพวกเจ้าตามตรง เทพธิดาพยากรณ์นั้นทำนายภัยพิบัติออกมาสองสิ่ง นางกล่าวว่า

แสงแรกของดาวตกนำพาความเปลี่ยนแปลง กำเนิดแสงสว่างอันเลือนราง

แสงที่สองของดาวตกนำพาความวุ่นวายโกลาหลสู่ดวงดาว

แสงแรกกลืนกินมวลแสงทั้งหมดกำเนิดเป็นแสงและเงาเปลี่ยนแปลงโลกโดยไร้เสียง เป็นแสงสว่างที่ไม่ใช่แสงสว่าง เป็นเงาที่ไม่ใช่เงา นี่คือรางบอกเหตุ

เมื่อแสงและเงากำเนิด หายนะจะมาเยือน ท้องฟ้าของโลกจะถูกย้อมไปด้วยสีแดง คนเป็นและคนตายจะสลับด้าน อารยธรรมแต่ดังเดิมจะเสื่อมสลาย เวทย์มนต์จะกลายเป็นของหายาก ที่น้อยคนจะสามารถครอบครอง เหล่าเทพจะทอดทิ้งพิภพนี้และเหล่ามารร้ายจะมาเยือน สูญสิ้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ คนตายและอสูรร้ายจะครองโลก

นี่คือคำทำนายของเทพธิดาพยากรณ์ พวกเราต้องวางแผนรับมืออย่างระวัง เรื่องนี้ฝากเหล่าผู้อาวุโสผู้คุมกฏให้พวกเจ้าดำเนินการ อีกเดี๋ยวข้าต้องตามจักรพรรดิเข้าสถานที่ลับ เลิกประชุม" เบลรอนตรงหน้ากล่าวจบก่อนที่ร่างจะกลายเป็นแสงพร่ามัวกระพริบถี่ๆแล้วหายไป

สรุปแล้วร่างที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงภาพฉายจากเวทย์มนต์ที่ผ่านระยะทางอันแสนไกลที่ส่งมาเท่านั้น

"หายนะจะมาเยือนเมื่อแสงของดาวตกทั้งสองปรากฏ และเมื่อแสงแรกกลืนกินมวลแสง?? เราควรตีความคำทำนายพวกนี้ก่อน และเตรียมมาตรการรับมืออย่างเร่งด่วน เพราะจากที่ข้าทราบ คำทำนายของเทพธิดาพยากรณ์ตั้งแต่อดีตจนมาถึงวันนี้นั้น ยังไม่เคยพลาดแม้แต่น้อย" ผู้อาวุโสคุมกฏกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม

"เห็นด้วย" เหล่าสมาชิกต่างขานรับเป็นเสียงเดียวกัน เพราะเรื่องนี้มันใหญ่มากจริงๆ ใหญ่มากจนเกินไป

และหลังจากประชุมและตีความกันอย่างดุเดือด พวกเขาก็ได้ข้อสรุปง่ายดังนี้คือ

สะสมอาวุธและเสบียงอาหาร อาวุธก็เน้นเป็นพวกอาวุธที่ไม่ใช้พลังเวทย์แต่แข็งแรงทนทาน พังแล้วสามารถนำมาหลอมสร้างใหม่ได้จำพวกอาวุธจากเหล็กหรือธาตุอื่นๆตามธรรมชาติ รองลงมาคือาวุธเวทย์ที่สามารถเติมพลังจากหินเวทย์ได้ อาหารก็เป็นพวกแป้ง ข้าว และเนื้อแห้ง จากการสะสมอาวุธและเสบียงแล้วต่อมาคือการสะสมกำลังคน และเร่งฝึกปรือเหล่าสายเลือดอัลฟา ในฐานะอัศวินเป็นหลัก และอัศวินเวทย์เป็นรอง ส่วนนักเวทย์ก็มีบ้างแต่ต้องเป็นที่สุดของที่สุดจริงๆจึงได้รับการสนับสนุน ปรับปรุงฐานที่มั่นปราการและปราสาทให้มั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

จากนั้นก็คือการหาพันธมิตรโดยการดองญาติกับตระกูลต่างๆ โดยดึงมาเป็นพวก รวมไปถึงดึงตระกูลเล็กๆเจ้ามาผนวกกับตระกูลดยุคอัลฟา

และสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด นั่นก็คือทุกกระบวนการต้องเงียบเชียบและเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด นั่นคือมติและข้อสรุปข้อการประชุมใหญ่ในครั้งนี้

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!