ตะวันดับแสงอาทิตย์โรยรา
โชคชะตา เป็นสิ่งลึกลับและชอบเล่นตลกกับทุกสิ่ง แม้แต่ตัวของมันเองก็ตาม
ปาฏิหาริย์เป็นเพียงความบังเอิญของโชคชะตาอย่างนั้นหรือ แท้จริงเป็นเจตนาของบางสิ่ง
เรื่องราวบางเรื่องที่เราท่านพบเจอ อาจเป็นเรื่องปกติธรรมดา อาจเป็นเรื่องเหนือธรรมดา หรือเรื่องราวปาฏิหาริย์ กฏเกณฑ์นั้นไม่อาจคงอยู่ตลอดกาลมันเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆอย่างช้าๆทีละนิด
ณ มุมหนึ่งของโลก
เรื่องราวของจิตวิญญาณได้รับการแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก แม้จะแตกต่างกันไปตามชาติพันธุ์แต่ทุกอย่างมีสิ่งที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกัน เกี่ยวกับจิตวิญญาณ
ถ้าคนตายวิญญาณเราจะไปไหน? นรก? หรือสวรรค์กันล่ะ สิ่งตัดสินคงเป็นการกระทำในช่วงที่เขาเหล่านั้นยังมีชีวิต เป็นไปตามวัฏจักร
แต่ถ้าวิญญาณหลุดจากวัฏจักรล่ะมันจะไปไหน?
ประเทศหนึ่งในเขตเอเชียตะวันออก ในขณะนี้มีวิญญาณของชายหนุ่มอายุราว26ปีกำลังมองดูงานศพของตนเองอยู่อย่างไร้อารมณ์ เหตุผลที่เขาตายเป็นเพราะการรับวัคซีนรักษาโรคระบาดxเข้าไป และทนผลข้างเคียงไม่ไหวนั่นเอง
วิญญาณของชายหนุ่มรู้เรื่องราวทุกอย่างดี เขาไม่ได้เสียใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเขาได้กระทำบางสิ่งเพื่อคนที่เขารัก
เหตุผลที่เขาตายอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาได้ทำสัญญากับปีศาจร้าย เพราะเขาเป็นผู้มีพลังวิญญาณหรือจิตที่แข็งแกร่งจนทำให้รับรู้ตัวตนของบางสิ่งอันดำมืดและได้ตกลงทำสัญญากันอย่างลับไป
เพราะความจนทำให้คนลำบาก ชายหนุ่มก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาได้ทำสัญญาว่าจะลงนรกเป็นนักสู้ให้ปิศาจ1,000ปี แลกกับเงินจากการเสี่ยงล็อตเตอรี่รางวัลที่1และอาชีพที่จะทำให้ครอบครัวของเขาสามารถเลี้ยงตัวอย่างสบายๆไป9ชั่วอายุคน เขาได้เสียสละตนเอง เพื่อผู้อื่นและคนที่เขารัก
ระหว่างที่พระกำลังสวดศพใกล้จะเสร็จลมหมุนสีดำก็เกิดขึ้นใกล้ๆกับศาลาตั้งศพ และปรากฏร่างเงาสีดำขึ้นมา
"สวัสดี วิญญาณผู้หอมหวาน" เสียงจากเงาดำนั้นกล่าวออกมาอย่างน่าประหลาด
"…..." วิญญาณชายหนุ่มกล่าวออกมา แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ
" โอ้ ข้าลืมไป ว่าวิญญาณที่เพิ่งตายนั้นไม่สามารถพูดได้ดังมนุษย์ เอาเถอะข้ามาทำตามสัญญาที่ตกลงไว้"เสียงจากเงาดำกล่าว
เมื่อวิญญาณชายหนุ่มได้ยินก็ประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเป็นอันตกลงและเข้าใจ
"โอ้ วิญญาณที่ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญและหาได้ยาก เจ้าจะกลายเป็นนักรบที่แกร่งกล้าภายใต้ล่มธงของข้า เพื่อเอาชนะเกมส์กับปีศาจตนอื่นๆ" เงาสีดำกล่าวออกมาอย่างยินดีเป็นที่สุด
"มาสิ มาจงเดินมาหาข้า ข้าจะพาเจ้าไป" เงาดำกล่าวอีกครั้ง และวิญญาณของชายกนุ่มก็กำลังเดินมาหาเงาสีดำนั้นจริงๆ
ทว่าในเวลานั้นเองเสียงสองสายก็ดังขึ้นพร้อมกัน
"เราไม่อาจยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้" เสียงจากร่างประกายสีเขียวและมีออร่าสายฟ้าปรากฏขึ้นมาข้างๆวิญญาณชายหนุ่ม
"ผู้เสียสละ ผู้กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ช่างเป็นวิญญาณอันบริสุทธิ์ยิ่ง ข้าไม่อาจปล่อยเขาไปกับเจ้าได้" เสียงจากเงาสีขาวนวลเอ่ยออกมา
"....." วิญญาณของชายหนุ่มเอ่ยอย่างสงสัยกับตัวตนดังกล่าว ว่าเรื่องมันเป็นมาเช่นไรแน่
"ชิ จมูกไวเหมือนเดิมนะทูตสวรรค์สูงสุด และก็ไม่น่าเชื่อว่าเทพสูงสุดในเขตนี้ก็มาพร้อมกันกับทูตสวรรค์ด้วย ท่านน่าจะอธิบายอะไรหน่อยไหม? อินทรา" เงาสีดำกล่าวออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
" หึ ถึงเราสองจะต่างอาณาเขตกัน แต่เจ้าระเมิดสัญญาเขตแดน เราสองจึงต้องมาจัดการกับเจ้า" เสียงในเงาสีขาวกล่าวออกมา
" และที่สำคัญวิญญาณที่เจ้าหมายตาเป็นวิญญาณในเขตแดนของเรา เจ้าอาศัยช่องว่างชั่วพริบตาในการช่วงชิงเขาไป เราจึงต้องมาตามทวงคืน เพราะอาสนะของเรานั้นร้อนยิ่ง" เงาในประกายเขียวกล่าวออกมา
" หึ เลิกเวิ่นเว้อ กล่าวอ้างเสีย วิญญาณนี้เป็นข้าที่ต้องได้รับไป เพราะข้าได้ทำสัญญากับเขาแล้ว การกระทำนำมาซึ่งผลลัพธ์ วิญญาณนี้เป็นของข้าอย่างชอบธรรม หากเจ้าอยากสู้ก็มาพร้อมกันทั้งคู่นั้นแหละข้ารีบ" เสียงในเงาดำกล่าวออกมาอย่างแข็งกร้าว
"ช่างผยองนัก" เสียงสบถจากเงาประกายเขียวกล่าวออกมาก่อนจะนำวัชระออกมาและก้าวเข้าไปต่อสู้ในทันที ในเวลาเดียวกัน เสียงในเงาสีขาวก็กล่าวออกมา
"หึ ปิศาจอวดดี" เงาสีขาวกล่าวออกมาก่อนที่ปีกสีขาวหลายคู่ก็กางออกมาพร้อมวงเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นฉากต่อสู้ที่ยากจะบรรยายได้ก็เกิดขึ้นต่อหน้าของวิญญาณชายหนุ่ม แต่ที่เขาไม่เป็นอะไรไปนั้นเป็นเพราะมีพลังงานสามสายแทรกเข้ามาในวิญญาณของเขาและสร้างเกราะป้องกันอีกทั้งยังตรึงการเคลื่อนไหวเขาให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ทำให้เขาต้องยืนดูฉากต่อสู้ดังกล่าวอย่างงงงวย
การต่อสู้เริ่มรุนแรงมากขึ้นๆจนเริ่มส่งผลกับโลกความจริงหรือมิติของโลกมนุษย์ เพราะในตอนนี้มันราวกับพายุใหญ่ได้พัดเข้ามาในวัดนี้ ท้องฟ้ามืดมิดราวกับราตรีกาล ประกายสายฟ้าฟาดผ่าลงมาอย่างถี่ๆบนยอดเมนเผาศพใกล้ๆจนมันพังลายลงมา และยังมีพายุลมหมุนอีกหลายลูกปรากฏในบริเวณวัด ทำให้บรรดาแขกในงานศพพากันตกใจอย่างมากและหวาดกลัวจนตัวสั่น พระเจ้าในงานที่กำลังสวดถึงกับหยุดหันหน้ามองกันไปมา พร้อมนึกในใจ "โครตเฮี้ยน" ก่อนที่หัวหน้าคณะสงฆ์ที่เป็นพระชราจะเริ่มนำสวดต่อ
ในขณะนี้การต่อสู้ในมิติวิญญาณกำลังรุนแรงมากขึ้นๆ จนแม้แต่เกิดรอยแยกมิติเล็กๆมากมายขึ้นมาจนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลา18.00น.การต่อสู้ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนรอยแยกมิติเล็กๆขยายใหญ่ขึ้นเลื่อยๆจนเกิดเป็นหลุมมิติขึ้น
และในตอนนี้เองที่การต่อสู้มาถึงขีดสุด เงาสีดำเหลือแต่หัว ส่วนเงาสีขาวเหลือครึ่งตัวและปีกเพียงข้างเดียวในตอนนี้เงาสีขาวไม่ได้เป็นเงาสีขาวอีกต่อไป แต่เป็นร่างครึ่งหนึ่งของชายชาวตะวันตกและปีกสีขาวเปื้อนเลือดที่เหลือเพียงปีเดียว
ส่วนเงาในประกายเขียวในตอนนี้ได้ปรากฏเป็นร่างของชายผิวสีเขียวมรกตที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสสลบไร้สติ
และเพราะแบบนี้พลังที่ปกปักษ์ร่างวิญญาณของเขาทั้งสามสายจึงค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่เจาจะโดนหลุมมิติดูดเข้าไปทั้งอย่างนั้น ก่อนที่หลุมมิติและรอยแยกมิติทั้งเล็กใหญ่จะค่อยๆสมานตัวเองอย่างช้าๆจนเป็นปกติในที่สุด
จากนั้นเหล่ากลุ่มแสงต่างๆจึงค่อยๆปรากฏขึ้น ก่อนจะมารับร่างของเทพในแต่ละฝ่ายไป กลุ่มแสงสีขาวและทองได้รับเอาร่างชายชาวตะวันตกไป ส่วนประกายสีรุ้งได้รับเอาร่างของอินทราไป ส่วนประกายสีดำมืดได้รับเอาหัวของเงาสีดำไป
ดูเหมือนแต่ละฝ่ายจะตัดสินใจล่าถอย และสงบศึกชั่วคราว โดยไม่มีใครสนใจวิญญาณของชายหนุ่มที่หายไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments