ลูอิสใช้ชีวิตช่วงนี้เหมือนขอให้พ้นไปวันๆ
เขาให้เจมส์เอางานมาให้ที่บ้านไม่ยอมที่จะเข้าไปบริษัท ไม่ยอมเข้าไปคอนโดที่เคยอยู่
เจมส์เฝ้าสังเกตอาการมาครึ่งเดือนแล้วที่ชีวิตเจ้านายของเขาเป็นแบบนี้
จนป้ามาเรียคนที่ดูแลคุณลูอิสมาตั้งแต่เด็กยังรู้สึกเป็นห่วง
ยิ่งกว่าตอนคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเสียชีวิตไปช่วงแรกๆ คุณลูอิสก็เอาแต่เศร้า
แต่อันนี้ท่าทางจะหนักกว่ารอยยิ้มขี้เล่น ได้จากหายไปไม่หลงเหลือมาดหนุ่มอารมณ์ดีอีกต่อไป
มีแต่ คุณลูอิสที่หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยพูด
เขาจึงปรึกษากับป้ามาเรียแล้วว่า
จะต้องขอร้องให้เพื่อนสนิทอย่างคุณมาร์ตินมาช่วยพูด
น่าจะดีกว่าปล่อยไว้แบบนี้กลัวจะป่วยไปเสียก่อน
ไม่ต่างกันเมืองไทยนี้ก็เอาแต่โหมทำงานรับงานทุกอย่างจนดาวเพื่อนสนิท
ได้พูดกับพี่ภัทว่าให้หยุดป้อนงานเพื่อนเธอ และเห็นสมควรให้เพื่อนเธอลาพักร้อนไปปรับอารมณ์การทำงานให้ดีกว่านี้
โหมงานมากๆ สุขภาพจะแย่
จะครึ่งเดือนแล้วที่เพื่อนของเธอยังไม่พูดถึงสาเหตุของการกลับมาเมืองไทยเร็วกว่ากำหนด
บีมพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงเวลาเธอจะถาม หรืออยู่กันตามลำพัง
วันนี้เธอต้องคุยไม่ได้แล้วดูท่าทางมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จากที่เธอรู้เรื่องของคุณลูอิสที่มีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนของเธอ
จนล่วงเลยถึงเวลาเลิกงาน
เธอได้ทำการนัดบีมไปร้านอาหารเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศแรกๆ เพื่อนเธอก็ปฏิเสธ
แต่เธอบังคับให้ไปจะกลับไปจมอยู่แต่กับห้องในคอนโดไม่ได้ เธอพอจะรู้วิธีค้นหาเอาความรู้สึกจริงๆ
ของเพื่อนออกมาโดยวิธีไหน
“แกจะมาทำไม แกไม่เหนื่อยหรือไงดาว วันนี้ไม่รีบกลับไปดูแม่ของแกหรือไง”
“โอ๊ย!!! อย่ามาห่วงฉันเลย ฉันควรเป็นห่วงแกมากกว่าบีม
พอเลยนะ แกมีอะไรบอกฉัน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมกลับมาแล้วแกถึงได้เป็นแบบนี้
อย่าบอกว่าไม่มีอะไร ฉันเป็นเพื่อนกับแกมานาน นะเว้ย!! ฉันรู้ว่าแกกำลังไม่โอเค”
แพรรัมภารับรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงแต่ช่วงนี้เธอก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่า
หลังจากที่ขอเขากลับมาอยู่ในที่ของตัวเองแล้ว ทำไมมันรู้สึกเหงา เศร้า เบื่อหน่าย
ในทุกๆ คืนเธอก็พยายามเช็กข่าวของเขาว่าเขาคบใครทำอะไร แต่ก็เงียบไม่มีข่าวคราวอะไรเลย จากเขาเคยเล่นก็หยุดไม่มีการเคลื่อนไหว
ถือว่าข่าวของเขานั่นเงียบหายไปเลย เธอก็ได้แต่วิตกกังวลว่าเขาเป็นอะไร
เกิดอะไรขึ้น
แต่เธอไม่กล้าที่จะโทรไปถามเจมส์เธอเป็นคนที่ขอจบความสัมพันธ์กับเขาเอง
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันโอเค”
ดาวที่จัดการสั่งแอลกอฮอล์มาเพิ่มวันนี้เธอต้องรู้ความรู้สึกของเพื่อนให้ได้งานนี้ต้องหวังใช้ตัวช่วยในการเอาความรู้สึกลึกๆ
ภายในจิตใจ
“เอ๊า!! ชน มาวันนี้นังดาวอยากจะดื่ม
ขอเพื่อนรักดื่มเป็นเพื่อนหน่อยเว้ย”
“อือ!! โอเคได้ เพื่อนอยากจะดื่มใช่ไหม”
ทั้งสองต่างพากันดื่มไปเรื่อยๆ
จนตอนนี้บีมรู้สึกมึนนิ่งแล้วเริ่มจะฟังเพลงแล้วรู้สึกอินไปกับเพลง เสียงเริ่มดัง
“ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง
ภาพเธอยังชัดเจนเหมือนเดิมไม่ต่าง
แต่ภาพของฉันในใจเธอที่มีภาพเขาเข้ามาแทน
คงแสนเลือนราง
ภาพจำของเรามันคงต่างกัน..”
(ภาพจำ-ป๊อบ ปองกูล)
เพื่อนเธอเริ่มร้องเพลงดังขึ้นไปเรื่อยๆ
ดาวที่ต้องการให้เพื่อนได้ปลดปล่อยมันออกมา ก็ได้แต่เฝ้ามอง อาการของคนอกหักชัดๆ
เพื่อนเธอ ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ตั้งแต่เป็นกันมาพึ่งจะเคยเห็น
บีมที่ตอนนี้เริ่มเมาเริ่มหลุดอะไรมาหลายอย่าง ดาวที่เห็นว่าพอละได้โอกาสที่จะหลอกถามอะไรแล้ว
จึงลากเพื่อนกลับคอนโด
ตลอดทางที่ขับรถกลับเพื่อนเธอได้แต่เหม่อมองไปตรงข้างทาง
เธอก็พยายามเปิดเพลงบิ้วไปเรื่อยๆ จนถึงคอนโด วันนี้เธอจะนอนค้างกับนางด้วย
“ไหวไหม ถึงคอนโดแล้วยัยบีม”
“อือ!! โอเค ถึงแล้วลง แกลงขึ้นไปดื่มต่อกันด้านบน”
“เอาสิ พรุ่งนี้วันหยุดจัดหนักได้เลย”
ดาวที่ลากเพื่อนเดินเข้าไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังบนห้องพนักงานด้านล่างเห็นลูกของเจ้าของคอนโดเมามายรีบเข้าไปช่วยพยุง
“โอเคคะ ขอบคุณไม่เป็นไร ดาวพอจะลากไหวคะ
ขอบคุณมากคะ”
ทั้งสองเดินลากกันไปจนถึงห้องภายในคอนโดของเพื่อน ดาวที่ล้วงเอาคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูห้องเพื่อน
บีมที่ยืนพิงตรงด้านข้างรอเพื่อนทำการเปิดประตูห้อง
“เอาใจเย็นๆ เปิดได้แล้ว ค่อยๆ เดินนะไหวไหมเนี่ย”
“สบายมากเพื่อน ไปๆ เราไปนั่งดื่มกันต่อตรงระเบียง
มันเย็นๆ”
“อือ ไปเลยเดี๋ยวฉันเอาเบียร์ไปให้”
“โอเค!! เพื่อนไปรอตรงโน้นละนะ”
บีมที่ตอนนี้เริ่มมึนขึ้นเรื่อยๆ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
เธอสังเกตภายในห้องที่ตอนนี้เพื่อนเธอมันกลายเป็นคนชอบวาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผีจิตรกรเข้าสิงเพื่อนเธอฟรือไง
ดาวที่เปิดดูรูปภาพของเพื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุดท้าย ทันทีที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเธอวาดรูปของใคร
ดาวที่เดินถือกระป๋องเบียร์มาให้บีม ที่นั่งฟุบอยู่ตรงระเบียง
“ว่าไงแกเราเป็นเพื่อนกันมานาน แกพอจะบอกฉันได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
บีมตอนนี้เริ่มมึนๆ แต่พอจะรู้ได้ว่าเพื่อนถามอะไร
ไม่ใช่เธอไม่อยากจะเล่า แต่เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี
“ไม่มีไรมากหรอกฉันกับเขา
เราไปกันต่อไม่ได้เพราะเราต่างไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่มันเกิดขึ้นมา
มันเป็นความสัมพันธ์อะไรกันแน่ เราต่างให้สถานะของแต่ละคนไม่ได้ก็แค่นั้น”
“แกรักเขาใช่ไหม บีม”
บีมได้ยินก็ตกใจเธอไม่อยากจะรับสภาพความรู้สึกนี้เธอจะทนสภาพเดียวกับแม่ได้เหรอหากเขายังสามารถควงใครคนอื่นก็ได้
นอกจากเธอ
“ฉันไม่รู้แก แต่ฉันขอให้เขาเลิกยุ่งกับฉันเองก่อน
วันที่ฉันจะกลับมาเขาได้ควงนางแบบสาว ไปเดินห้างหลังจากที่เขาทะเลาะกับฉัน แกเขาใจร้ายมากนะฉันอุตส่าห์เป็นห่วงว่าเขาจะโกรธจะน้อยใจฉันจนหายไปพักหนึ่งแต่แล้วเขากับควงคนอื่นได้หน้าตาเฉย
เป็นแก แกจะรู้สึกยังไง”
“อืม!!!
คุณลูอิสเขาให้เหตุผลกับแกไหมที่เขาทำแบบนั้น”
“ให้สิ เหตุผลหวยแตกมาก
บอกแค่อยากจะรู้ว่าเขาสามารถไปอยู่กับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ฉันได้ไหม แค่เท่านั้น
แกคิดว่ามันต้องทำหรือพิสูจน์ด้วยวิธีแบบนี้เหรอ ว๊ะ”
“เออ...คุณลูอิสเขาอาจจะไม่มั่นใจในตัวของแกเองก็ได้
แกเล่นปฏิเสธเขาตลอดเวลาไม่ชอบไม่รักไม่อยากอยู่ด้วย เขาอาจจะน้อยใจก็ได้นะ
ฉันคิดว่าแบบนั้น”
“ก็อาจจะใช่ส่วนหนึ่ง
ฉันถึงขอให้เราสองคนหยุดความสัมพันธ์ที่มันเกิดขึ้น
แล้วกลับมาทบทวนดูว่าสิ่งที่เป็นอยู่ เราสองคนเป็นอะไรกัน
ฉันได้ถามเขาก่อนที่ฉันจะกลับว่า เขาให้ฉันอยู่ในตำแหน่งอะไร เขาตอบฉันไม่ได้
ว่าฉันเป็นอะไรสำหรับเขา”
แพรรัมภาพูดไปน้ำตาก็เริ่มไหลเธอไม่อยากตกอยู่สภาพที่ไร้ตัวตน
เป็นแค่ของข้างกายจะหยิบจะจับตอนไหนก็ได้ เหมือนแม่ของเธอที่ต้องตรอมใจเพราะพ่อของเธอที่เจ้าชู้
ตามประสาคนร่ำรวยที่พอจะมีเงินเลี้ยงเด็กไปทั่ว ไม่ใช่ว่าพ่อเธอไม่รักแม่
พ่อรักแม่มาก ไม่เคยเอาใครมาเทียบเท่าแม่ แค่หาความสุขเรื่อยๆ ตามประสาคนเจ้าชู้
ซึ่งท่านก็ได้ทำหมันเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกที่เกิดจากผู้หญิงอื่น
“ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพเดียวกับแม่
ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้เข้มแข็งเท่าแม่เลยสักนิด ฉันเจ็บ
เจ็บมากที่ฉันเห็นเขาควงผู้หญิงคนอื่น”
“โอเค ฉันพอเข้าใจหละ แล้วต่อจากนี้จะทำยังไงต่อ
แกรู้ตัวไหมว่าไม่เหมือนเดิม แพรรัมภาที่สดใส แพรรัมภาคนก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว
ฉันในฐานะเพื่อน ฉันอยากให้แกคิดอีกทีว่าจะทำไง ถ้าขืนแกเป็นแบบนี้สุขภาพจิตจะแย่
และฉันอยากจะบอกแกว่าคนทางโน่นก็ไม่ต่างจากสภาพแกหรอกนะ
อย่าไปโทษเขาเพราะตัวแกเองก็ไม่ได้ชัดเจนกับเขาด้วยเช่นกันลองค้นหาตัวเองให้ได้สรุปว่าแกต้องการเขาอยู่ไหม
ถ้าใช่ก็ลองตัดสินใจใหม่อีกครั้งมันก็ไม่สายดีกว่าปล่อยให้เป็นอยู่แบบนี้”
“อือ...ขอเวลาให้ฉันสักพักนะ
แล้วเพื่อนคนเดิมจะกลับมา”
“รีบๆ กลับมาไวๆ นะเว้ย
เมื่อเช้าฉันคุยกับพี่ภัทแล้วว่าให้แกหยุดพักร้อน ดีกว่าลองไปท่องเที่ยวดูค้นหาตัวเอง
เพื่อจะได้ดีขึ้นหยุดเถอะนะ”
“ก็อาจจะดีอย่างที่แกว่าก็ได้ ฉันอยากจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ
บ้าง”
ทั้งสองต่างคุยปรับทุกข์กันไปเรื่อยๆ ดาวพอจะเข้าใจเพื่อนแล้วว่า
ปัญหามันคืออะไร เธอคงจะไม่สามารถช่วยอะไรได้
ถ้าเพื่อนและคุณลูอิสยังตอบสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้ว่า
ทั้งสองคนตกลงกันอยู่ในสถานะอะไร เธอไม่อยากจะไปบีบบังคับอะไรใครมาก ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งสองจะดีกว่า
เช่นกันทางอีกฟากฝั่งก็กำลังเปิดอกคุยในเรื่องราว
ช่วงที่ผ่านมาที่ไม่มีใครอีกคน
“แกจะเอาไงลูอิสทุกคนเขาเป็นห่วงนายมากเจมส์รวมถึงป้ามาเรียด้วย
นายจะเก็บตัวเงียบแบบนี้ไม่ได้ไปส่องกระจกดูสภาพตัวเองก่อน นายยังไม่รักตัวเอง
แล้วคนอย่างนายจะไปทำหรือพิสูจน์ อะไรให้ใครเห็นได้”
“ฉันขอเวลา หน่อยได้ไหมว๊ะ ฉันไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน
ฉันเจ็บมากนะ”
“ฉันรู้ว่านายเจ็บ แต่คนเราจะเก็บเอาไว้แบบนี้เรื่อยๆ
ไม่ได้เช่นกัน นายควรจะลุกขึ้นมาได้แล้วนะ คิดว่าถ้าคุณบีมรู้เขาจะดีใจเหรอว๊ะ!!
ที่ทำให้นายเป็นแบบนี้”
“นายคิดว่า เขาจะสนใจฉันหรือไง เขาอาจจะลืมฉันไปแล้วก็ได้”
“อายุก็เยอะแล้วนะ คนเรามันจะลืมใครคนหนึ่งที่เขามาในชีวิตเราได้ง่ายๆ
แบบนั้นเหรอว๊ะ”
มาร์ตินตบไปบนบ่าของเพื่อน
วันนี้เขาต้องเตือนสติมันก่อนที่มันจะจมดิ่งเข้าไปเรื่อยๆ แบบนี้
“นายก็หาคำตอบให้ได้ว่าตลอดเวลาที่นายอยู่กับคุณบีมเพราะรักหรือแค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว
ถ้าได้คำตอบแล้วก็พยายามแก้ข้อผิดพลาดที่เราเคยทำมาสิ”
ลูอิสนิ่งฟังสิ่งที่เพื่อนพูดมันทำไม่ได้ง่ายๆแบบนั้นแต่เขาก็ต้องพยายาม
ถ้าเพื่อนเขาลงทุนมาพูดแบบนี้แสดงว่าเขาต้องทำตัวให้เพื่อนเป็นห่วงมากๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 53
Comments