บทที่ 10

แพรรัมภาที่ตื่นมาด้วยอาการ

ปวดเมื่อยไปทั้งตัวผลจากการที่ถูกคนตัวโตที่ยังเอาแขนพาดไว้บนเอวเล็กๆของเธอ

คอยที่จะดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดที่มีซิคแพค อกกว้างๆของคนที่ยังนอนหลับอยู่

แพรรัมภาที่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเห็น

ดาวส่งข้อความมาตอนเที่ยงคืนว่าได้ขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยไปแล้ว คิดๆ

แล้วมันน่าโมโห คนที่ยังนอนหลับอยู่ ทำให้เธอพลาดที่จะกลับเมืองไทย และ

ต้องมาติดอยู่กับเขาอีก คิดแล้วอยากจะปลุกขึ้นมาทุบๆ ให้เจ็บจริงๆ

“อือ...ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่นอนต่อล่ะ”

ลูอิสที่งัวเงีย

พูดพรึมพรำในลำคอแพรรัมภาเห็นอาการของคนที่นอนอยู่แล้วเกิดหมั่นไส้

เลยกัดเข้าไปตรงหัวไหล่หนา

“โอ้ย!! คุณทำอะไรเนี่ย ผมเจ็บนะ”

“ดี สมน้ำหน้ากับสิ่งที่ทำ”

ลูอิสที่รู้สึกเจ็บแต่ไม่มากกับแรงของคนตรงหน้า

เขาดึงร่างคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งบนลำตัวของเขา ซึ่งแพรรัมภาตกใจ

เพราะเสื้อที่เขาใส่ให้นั่นมันมีแค่เสื้อยืดตัวเดียวข้างล่างก็ยังโล่งว่างเปล่า

ทันทีที่เธอพลิกตัวมาบนลำตัวเขา ลูอิสก็จัดการงับไปเบาตรงบริเวณลำคอ

สร้างความรู้สึกปั่นป่วนภายใน หน้าค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ ลามไปถึงคอ

“นี่คุณป่วยเหรอ ทำไมตัวร้อนจัง”

ลูอิสที่เอามือไปแตะบนหน้าผาก ด้วยสีหน้าเป็นกังวล

เพราะตั้งแต่เมื่อวานที่เธอทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเขา

“ก็ไม่ได้ร้อน เป็นอะไรครับปวดหัวตรงไหนหรือเปล่า

ใช่เมื่อคืนผมลืมปลุกคุณทานยา เขาบอกว่าช่วงที่มีอะไรกันแรกๆ จะทำให้เกิดอาการป่วยได้เจ็บมากไหม

ให้ผมดูหน่อย”

แพรรัมภาเห็นอาการตื่นตระหนก และน้ำเสียงที่กังวลของเขาแล้วรู้สึกจักกะจี้

อะไรและนี้เขาพยายามจะขอดูตรงนั้น ซึ่งเธอพยายามปิดไว้

“คนบ้า จะมาดูอะไรเนี่ยปล่อยเลย

ฉันจะอาบน้ำหิวข้าวแล้ว พอเลยปล่อย”

“อ้าว ก็ผมเป็นห่วงนิครับ ลูกชายผมก็ตัวออกจะโตและใหญ่มาก

เดี๋ยวลูกผมจะทำให้คุณเจ็บได้”

“นี่!!! ทะลึ่งพูดออกมาได้ ไม่ต้องมาดูเลย

หนีและปล่อยฉันจะไปอาบน้ำ”

“อาบน้ำ อาบด้วยกัน ผมจะไปเช็กดูด้วย”

“ไม่ต้อง!!! ไอ้บ้า

ฉันอาบเองนี่คุณเว้นระยะให้กับฉันบ้างเถอะ นี่จะตามฉันไปถึงไหน”

ลูอิสที่ได้ยินว่า ขอให้เขาเว้นระยะให้กับเธอบ้าง อะไรห๊ะ

แค่เข้าเป็นห่วง กลัวเธอจะเจ็บจากการที่มีอะไรกับเขา เขาห่วงเธอ ก็ผิดเหรอ

ลูอิสทำหน้าตูมบูดบึ้งแล้วทิ้งตัวลงไปนอนคว่ำหน้าบนหมอน

แพรรัมภาเห็นอาการของคนตัวโตที่ทำตัวและนิสัยเหมือนเด็กนี่สาบานว่าอายุ 30 กว่า ทำตัวอย่างกับเด็กอนุบาล

อายไหมเนี่ยแพรรัมภาคิดในใจ แต่ก็ปล่อยผ่านเชิญตามสบาย

ลูอิสที่แอบน้อยใจเอาหน้ามุดลงไปบนหมอนแล้วแอบงอนคนที่ชอบพูดจาไม่คิดถึงจิตใจเขาทำไมนะถึงไม่ออดอ้อน

อ่อนหวาน เอาใจเหมือนผู้หญิงอื่นทั้วไปบ้าง ที่สำคัญลุกไปอาบน้ำเฉยเลย ไม่มาง้อเขา

“โอ๊ย!!! ผู้หญิงใจร้าย ชอบทำร้ายจิตใจ ผู้ชาย”

แพรรัมภาที่เผลอได้ยิน ถึงกับงงเขาว่าเธอเป็นผู้หญิงใจร้าย

เธอเนี่ยนะ แล้วที่เธอต้องมาอยู่กับเขามันก็ดีมากที่สุดแล้ว ไอ้ผู้ชายบ้า

ลูอิสที่ฟังเสียงคนตัวเล็กที่ท่าทางจะอาบน้ำเสร็จแล้วเดินใส่ชุดคลุมไปยังห้องแต่งตัว

เขาเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำบ้าง

แพรรัมภาที่เห็นเด็กโข่ง

เดินมาจะเข้าไปอาบน้ำพอมาถึงด้านหน้าเธอก็สะบัดหน้าใส่เธอทันที แพรรัมภาถึงกับเหวอ

นี่อะไร

“เชิญตามสบายคะอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วดูดีนะทำอะไรคิดถึงอายุด้วยแก่แล้ว

เด็กหนุ่มๆทำฉันก็คงจะว่าน่ารักอยู่ แต่กับคุณทำใจชื่นชมไม่ได้”

พร้อมกับทำหน้าเซ็ง

ลูอิสได้ยินแล้วก็เห็นใบหน้าคนพูดแล้วรู้สึกโกรธ แก่ เด็กหนุ่มๆ เหรอได้

อย่าคิดว่า เขาจะอ่อนให้นะ

ไม่มีทางจะทำให้ดูว่าเขานะมีเสน่ห์แค่ไหนแค่เขามองผู้หญิงก็วิ่งตามเขาแล้ว

แพรรัมภามองเด็กโข่งเดินเข้าไปอาบน้ำ

ตอนแรกเธอก็รู้สึกกลัวที่ปากเธอไว ดันไปพูดจาเหน็บเขา

กลัวลูกบ้าจะหันมาจัดการเธออีกแต่ครั้งนี้เปล่า

แพรรัมภาเดินไปใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวรัดรูปและกางเกงยีนขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาที่ขาวเนียนสวย

พร้อมกับรวบรวมเป็นจุกไว้บนหัว แต่งหน้าอ่อนๆ ส่องกระจกดูความเรียบร้อยสะหน่อย

ลูอิสที่อาบน้ำออกมาแล้วสะบัดหน้าเดินไปยังห้องแต่งตัวเขาใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนหวีผมเรียบมันคือลุคแบดบอยหน่อยๆ

แพรรัมภาที่แอบเห็นเด็กโข่งแต่งตัว

จริงๆเขาจัดว่าเป็นผู้ชายหล่อมาก แล้วคนแบบเขาเนี่ยนะจะมาจริงจังกับเธอ คิดว่าสาวๆ

ของนายคนนี้คงจะเพียบน่าดู

ลูอิสเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเห็นชุดของคนตรงหน้าอีกแล้วเสื้อยืดรัดรูปเผยให้เห็นความอวบอิ่มของหน้าอกแล้วดูกางเกงยีนขาสั้นที่มันเผยให้เห็นความขาวและเนียน

นี้คือชุดที่เธอชอบใส่หรือไง ชุดเมื่อวานยังดีกว่าชุดนี้

ถึงแม้เสื้อจะรัดเหมือนกัน แต่ไม่เผยให้เห็นเรียวขาที่เนียน

“ถามจริงเถอะ ไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าเหรอ

เอาเงินไปทำอะไรหมด ดูกางเกงกับเสื้อมันถึงหดและสั้นแบบนั้น”

แพรรัมภาได้ยินลูอิสพูดก็ของขึ้น

ปากแบบนี้ไงถึงคุยกันดีๆไม่ค่อยจะได้

“เงินนะมี

แต่ไม่คิดที่จะซื้อฉันพอใจที่จะใส่แล้วจะทำไม”

ลูอิสได้ยินแล้วอยากจะจับคนข้างหน้ากลับไปจัดการจริงๆ

ไม่ต้องไปกินข้าวมันแล้วมั้งแบบนี้

“เป็นผู้หญิงก็ต้องหัดพูดจาให้อ่อนหวาน

เอาอกเอาใจคนรักบ้าง สวยแต่แข็งกระด้างผู้ชายเขาก็ไม่ชอบหรอกนะ”

“เหรอ!! ผู้ชายคนอื่นฉันอาจจะพูดดีก็ได้

แต่กับคุณไม่มีทาง”

พูดเสร็จก็สะบัดเดินไปใส่รองเท้าผ้าใบ

เดินไปเปิดประตูแล้วก้าวออกไปปรายตามองมายังเขา

“จะไปกินข้าวด้วยกันไหมหรือไม่ ถ้าไม่ไปฉันจะไปเอง”

ลูอิสที่ตอนนี้กัดฟันกรอด คอยดูพ่อจะปราบความพยศนี่ให้เข็ดเลย

ต่างคนต่างเดินออกมาจากลิฟต์

มายังชั้นล่างซึ่งมีสายตาของเหล่าพนักงานและคนที่อาศัยอยู่จ้องมองคนทั้งคู่

คนหนึ่งก็หล่อมาก อีกคนก็สวยหวานแอบดูเซ็กซี่เบาๆ

ลูอิสที่หันไปมองรอบๆเห็น ผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่จ้องมองคนข้างๆ

แล้วรู้สึกไม่อยากจะออกไปไหนแล้วสิ มันน่านักคอยดูเขาจะจัดการเสื้อผ้าของคนข้างๆ ใหม่หมด

วันนี้ยกให้ก่อน

แพรรัมภาที่เดินออกมาพร้อมกับเขา เธอก็จัดการส่งยิ้มให้กับคนไปทั่ว

ยั่วคนคนปากเสียที่มาว่าเธอ

ลูอิสที่สังเกตเห็นว่าคนข้างๆ ตั้งใจที่จะยั่วเขาให้โกรธได้เลย

ลูอิสเดินนำแพรรัมภามายังรถหรูที่จอดไว้ด้านข้างของคอนโดราคาแพงที่เขาอาศัยอยู่

แพรรัมภาเห็นรถซุปเปอร์คาร์คันงามของลูอิส

แล้วเกิดอาการชื่นชอบมากมันเป็นรุ่นที่เธออยากได้ แพรรัมภาจ้องตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด

ลูอิสที่สังเกตุใบหน้าของแพรรัมภาที่ดูท่าทางจะชื่นชอบรถซุปเปอร์คาร์แน่ๆ

ดูท่าทางรสนิยมเธอและเขาคงจะไม่แตกต่างกันมาก

ลูอิสที่จะเริ่มจับความชอบของหญิงสาวได้

“อยากจะขับไหม ผมให้ขับได้นะ”

แพรรัมภาได้ยินตาก็เป็นประกายใจก็อยากจะลองขับ แต่ติดตรงเธอไม่รู้จักถนนหนทางที่นี้

กลัวจะเอารถหรูของเขาไปทำรอยสะก่อน

“ไม่อะ แค่ตอนนี้ก็ยังหาทางเอาบริษัทคืนจากคุณไม่ได้

ถ้าฉันเกิดขับรถเอาของคุณไปเป็นรอยคุณก็จะหาเรื่องฉันอีก ไม่เอาดีกว่า”

ลูอิสได้ฟังแพรรัมภาพูดก็รู้สึกขำนิดๆ คนอย่างเธอกลัวเป็นด้วยเหรอ

แต่ดูท่าทางแล้วคงอยากจะขับละสิไม่ว่า

ต่างคนก้าวเข้ามาภายในรถหรูที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามด้านใน

แพรรัมภารู้สึกตื่นเต้นไปหมด ที่ได้สัมผัสรถในฝันของเธอ

ลูอิสที่สตาร์ทรถแล้ว แอบเอามือไปจับมือเล็กของคนด้านข้าง

แพรรัมภารู้สึกตกใจที่เขาเอามาจับมือของเธอไว้ เธอจึงดึงมือกลับแต่เขากับยึดมันเอาไว้

เธอขี้เกียจจะขัดใจเขาเพราะมันก็ไม่มีอะไรมากแค่จับมือเธอ

ลูอิสรู้สึกดีขึ้นนึกว่าแพรรัมภาจะขัดใจเขาอีก

ค่อยมีกำลังใจพาไปทานข้าวหน่อย นึกว่าจะต้องทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา

ลูอิสขับรถมาตามถนนเรื่อยๆ แพรรัมภามองถนนสายหลักในกรุงมาดริดตึกอาคารก่อสร้างของประเทศเขาช่างสวยงามเสียจริง

ดูแล้วสบายตา ต่างจากเมืองไทยมีแต่รถติดเป็นชั่วโมง เธอเลยขอพักอาศัยใกล้ๆ

ที่ทำงานดีกว่าที่จะต้องมาอารมณ์เสียเรื่องรถติด

“เดี๋ยวผมจะพาไปร้านอาหารดังของที่นี่แล้วกันนะ คุณแพ้อาหารอะไรหรือเปล่าครับ”

แพรรัมภาได้ยินน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงและใส่ใจเลยนึก

ไม่อยากจะทำเรื่องให้เสียบรรยากาศไหนๆ

จะต้องอยู่กับเขาในช่วงนี้ก็ไม่อยากจะทะเลาะอะไรกับเขามาก ถ้าเธอไม่ไปกวนเขาก็ไม่คิดที่จะหักหาญน้ำใจทำอะไรเธอ

“ทานได้หมดค่ะ

เอาที่คุณอยากจะทานเถอะคะไม่รู้ว่าที่นี้อาหารทางบ้านคุณเป็นอย่างไรก็ลองๆ พาไปชิมดูก็ได้

ยังไงฉันก็คงต้องอยู่อีกสักพักนิ”

ลูอิสได้ยินก็อมยิ้มนิดๆ

นึกว่าจะดื้อใส่เขาอีกรอบเขาค่อยขับรถเข้าไปจอดยังร้านอาหารขึ้นชื่อของสเปน

ลูอิสเอารถจอดในที่จอดรถแล้ว

ทั้งคู่ก็เดินลงมายังร้านอาหารบรรยากาศภายในร้านแลดูแพงทีเดียวไฟสลัวๆ มี Tapas บาร์อยู่ด้านหน้า

ด้านในเป็นส่วนของร้านอาหาร

พนักงานใส่เชิ้ตขาวผูกหูกระต่ายนำไปที่โต๊ะ

แพรรัมภาที่หยิบเมนูมาอ่านแล้วไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร เพราะเธอไม่ค่อยจะรู้ภาษาสเปนเท่าไหร่

เลยเงยหน้าขึ้นไปมองเขา

“คุณสั่งให้ฉันเถอะ

ฉันไม่รู้ว่าอันไหนอร่อยหรือไม่อร่อย ฉันเชื่อว่าคุณคงจะไม่แกล้งฉันแน่”

ลูอิสฟังแพรรัมภาพูดก็แอบอมยิ้ม เลยหันไปสั่งกับพนักงานร้าน

แพรรัมภาได้ยินเขาสั่งไป 4-5 อย่างก็ไม่แน่ใจเพราะเขาพูดภาษาสเปน

“ผมสั่งอาหารขึ้นชื่อของที่นี่มาให้คุณลองชิมดู

เอารสชาตคล้ายกับอาหารบ้านคุณก่อน ผมว่าคุณคงจะไม่ค่อยชอบพวกชีส แป้ง

อะไรพวกนั้นมาก”

“ขอบคุณคะ ที่คิดเผื่อฉัน”

“ธรรมดาเรายังต้องศึกษากันและกันไปอีกนาน”

แพรรัมภาทได้ยินเขาพูด คิดในใจก็คงต้องเป็นอย่างนั้นก็ต้องผูกมิตรกันไป

จนอาหารเริ่มทยอยมา อาหารจานแรกมีชื่อว่า “Cabreaos

Egg Style” เป็นเส้นๆ คล้ายหมี่กรอบนมันคือมันฝรั่งอบโป่ะมาด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ

ลูอิสบอกว่าเป็นเมนูบังคับ อร่อยลองให้เธอชิมดู

ส่วนจานถัดมาแพรรัมภามองเป็นปลาหมึกจานนี้คือ“Grilled

Cuttlefish” แพรรัมภาลองตักชิม

มีความเปรี้ยวหวานมันเค็มที่พอดิบพอดี

ให้ความรู้สึกถึงอาหารทะเลแบบเมดิเตอร์เรเนียนสุดๆ

ส่วนอีกจานลูอิสบอกเป็นปลาCodชิมแล้วก็อร่อยเช่นกัน

ซอสที่ราดมีรสชาติออกเค็มๆหวานๆ ถือว่ารสชาตอาหารใช่ได้ถูกปากเธอดี ส่วนลูอิส

สั่งเบียร์มาทานด้วย เธอมองโต๊ะด้านข้างๆ ก็คงจะเป็นวัฒนธรรมของคนที่นี่

ซึ่งทางเมืองไทยคงจะไม่ดื่มเบียร์ตั้งแต่เที่ยง จะดื่มกันก็หลังทำงานเสร็จแล้ว

ต่างคนต่างลงมือทานอาหารกันอย่างอร่อย ลูอิสเห็นคนตรงหน้าทานแล้วรู้สึกดี

แพรรัมภาเป็นคนที่ทานหรือทำอะไรง่ายๆ ไม่แสแสร้งห่วงสวย นั้นคือเสน่หาของคนตรงหน้าที่ทำให้เขาชอบ

เมื่อเธอเริ่มอิ่มแล้วก็รอคนตรงข้ามที่ยังดูท่าทางจะเจริญอาหารมากป็นพิเศษพร้อมกับดื่มเบียร์ไปด้วย

“เดี๋ยวผมพาไปเดินย่อยแถวนี้ก่อนนะครับ

เผื่อคุณอยากจะเดินชมเมือง อยู่แต่ในห้องผมกลัวคุณจะอึดอัด”

“ขอบคุณนะคะ ที่นึกถึงจิตใจฉัน”

“เอาน่า ผูกมิตรกันไว้ เรายังมีเวลากัดกันอีกเยอะ”

ลูอิสจึงได้ทำการเช็กบิลจ่ายค่าอาหาร

เขานึกว่าเธอจะขอออกเองอีกเหมือนครั้งก่อนแต่ครั้งนี้เธอไม่ว่าอะไร

เห็นมีแต่อยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้ว

แพรรัมภาที่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะก้าวเดินไปยังนอกร้าน

ช่วงจังหวะที่ลูอิสกำลังรอพนักงานคืนบัตรเครดิตก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดจนได้

“โอ๊ย!!! ขอโทษคะที่ชนคุณ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

แดนนี่นักฟุตบอลชื่อดังของทีมบาร์เซโลน่ารู้สึกตกใจที่มีผู้หญิงตัวเล็กหันหลังมาชนเขา

ซึ่งทันทีที่เธอเงยหน้ามองเขา แดนนี่ถึงกับตกตะลึงสวยหวาน

สาวเอเชียร่างเล็กแต่ดูแล้วมีส่วนอื่นที่ไม่เล็ก

“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอโทษคุณด้วยครับคุณผู้หญิง”

“ไม่เป็นไรคะ ขอโทษจริงๆ”

แดนนี่เห็นรอยยิ้มของสาวสวยส่งมาให้

ทำไมถึงเป็นรอยยิ้มที่สดใสเช่นนี้

“ออ ไม่ทราบว่าจะน่าเกลียดไหมครับ ถ้าผมอยากจะถามชื่อคุณหน่อยผมชื่อแดนนี่นะครับ

เป็นนักฟุตบอล คุณพอจะรู้จักไหม”

“คุณเป็นนักฟุตบอลทีมดังของที่นี่ ใช่ไหมคะ”

“คุณรู้จักผมด้วยเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าสาวๆ สวยๆ แบบคุณจะดูบอลด้วย”

“เกินไปคะ คุณดังจะตายที่เมืองไทย

ฉันยังเคยไปทำข่าวทีมคุณตอนไปเมืองไทยอยู่เลยคะ”

“ทำข่าวเหรอ

แสดงว่าคุณเป็นนักข่าวเหรอครับดีใจนะครับคุณ คุณ”

“แพรรัมภาคะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ”

ลูอิสที่เห็นแพรรัมภายืนพูดคุยกับนักฟุตบอลรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

อาการหึงหวงก็กำเริบขึ้นมาทันที

“สวัสดีครับ

แฟนผมเขาซุ่มซ่ามแบบนี้เสมอขอโทษด้วยนะครับ”

แดนนี่ได้ยินและพอจะรู้จักเจ้าพ่อสื่อด้านหน้าดีเลยส่งยิ้มแห้งๆ

แต่ตามองไปยังคนสวยด้านข้างเสียดายจริงๆที่เธอมีแฟนแล้ว

รู้สึกเสียใจเล็กๆทำไมเขาถึงเจอเธอช้าไป

แพรรัมภารู้สึกถึงสายตานิ่งและแข็งกร้าวของคนพูดที่บ่งบอกถึงอารมณ์ภายในว่าไม่ปกติ

เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแค่กล่าวขอโทษ เพียงแต่  แดนนี่เป็นนักฟุตบอลชื่อดัง ดูขอโทษเสร็จก็เดินออกไปทันที

แพรรัมภาเลยหันหน้ากลับไปกล่าวขอโทษเขาอีกครั้ง แล้วรีบตามคนบ้าที่อารมณ์ขึ้น

ๆ ลง ๆ ซึ่งได้เดินไปโน่นแล้ว

แดนนี่เห็นแพรรัมภารีบตามเจ้าพ่อสื่อออกไปแล้ว ภายในใจก็รู้สึกเสียใจที่พลาดจะได้ทำความรู้จัก

เธอสวยและน่ารัก มีเสน่ห์จริงๆ

“สักวันเราคงจะได้เจอกันนะครับ”

แดนนี่พูดในลำคอแล้วมองตามแพรรัมภาที่วิ่งออกไป

“คุณ!! คุณเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย อาหารไม่ย่อยหรือไง

ถึงทำหน้าแบบนั้น”

ลูอิสหงุดหงิดด้วยอารมณ์หึงหวง

และไม่ชอบสายตาของนักฟุตบอลที่มาจ้องมองเมียเขา

ซึ่งเป็นสายตาที่ผู้ชายด้วยกันมองออกว่านักฟุตบอลคนนั้นรู้สึกอะไร

มีแต่คนที่วิ่งตามเขามาเท่านั้นแหละที่ไม่รู้อะไรเลย นี่ไปบอกชื่ออีกแค่คิดก็โมโห

แพรรัมภาที่วิ่งมาถึงตัวก็รีบจับแขนเขาให้หยุด ลูอิสมองมือที่กำลังจับต้นแขนเขาแล้วจัดการดึงคนตัวเล็กเข้ามาจูบลงโทษ

โทษฐานที่ไปบอกชื่อให้ผู้ชายคนอื่นรู้จัก

แพรรัมภาตกใจจะผลักเขาให้ออก

แต่แรงของเธอช่างน้อยนิดถ้าเทียบกับเขา

“อือ..อืม”

ลูอิสถอนริมฝีปากออก เสร็จก็ผลักคนข้างหน้าออกแล้วจ้องมองใบหน้าของแพรรัมภา

“นี่คือบทลงโทษ คราวหลังอย่าริอาจไปบอกชื่อตัวเองให้ผู้ชายคนไหนอีกเข้าใจไหม

ผมไม่ชอบ”

แพรรัมภาได้ยินก็รู้สึกเขินๆ ที่เห็นสายตาของเขาริมฝีปากก็เม้มเข้าหากัน

รู้สึกร้อนๆ และเหมือนปากจะบวมจากการที่เขาจูบเธอไป

“ทำไม ก็เขาถามชื่อ”

“ยังจะเถียงอีก อยากจะโดนจูบตรงนี้อีกหรือไง

หรือจะให้ผมพากลับไม่ต้องเดินเล่นมันแล้วดีไหม”

“อ้าว!! ใจร้าย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

แพรรัมภาทำน้ำเสียงต่ำ อ้อนๆ

ลูอิสได้ยินก็แอบอมยิ้มหันหน้าไปด้านข้าง

“จะไปเที่ยวไหม ถ้าจะไปก็ตามมา”

“จ้า...พ่อคุณ! วัยทองหรือไง”

ลูอิสที่ได้ยินก็หันหลังกลับมามอง แต่แพรรัมภาก็ส่งยิ้มหวานจ๋อยไปให้แทนมันน่านักเชี่ยวคิดๆแล้ว

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!