แพรรัมภาเดินทางมาถึงสนามบินเพื่อเตรียมพร้อมที่จะกลับเมืองไทยถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกเจ็บถือว่าเป็นการเจ็บที่ไม่ต้องทรมานมากอีกต่อไป
ยิ่งนับวันเธอยิ่งรู้สึกผูกพันกับเขาเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ใจจะคิดว่าเขาคงจะไม่เดินทางมาส่งเธอกลับเมืองไทย
แต่สายตาก็ยังแอบมองหา อยากจะบอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย
เจมส์สังเกตเห็นว่าคุณบีมเหมือนกำลังเฝ้ามองว่าจะมีใครมาหรือเปล่า
ซึ่งคุณลูอิสได้ทำการบอกเขาแล้วว่าคุณลูอิสจะไม่มา ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นเขายังไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีปัญหาอะไร
แปลกตรงที่ทำไมคุณลูอิสถึงปล่อยมือจากคุณบีมได้ง่ายแบบนี้ ทั้งที่ช่วงแรกๆ
พยายามจะต้อนให้คุณบีมมาอยู่ที่สเปน
พอตอนนี้ดันปล่อยให้กลับเมืองไทยซึ่งเขาว่ามันแปลกๆพอสมควร
“คุณเจมส์บีมฝากจดหมายให้คุณลูอิสได้ไหมคะและบีมอยากจะขอบคุณคุณด้วยนะคะ
ช่วงที่ผ่านมาคุณดูแลบีมได้ดีมาก ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณต้องวุ่นวาย”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้คุณลูอิสเอง
ส่วนเรื่องนั้นอย่าขอโทษเลยนะครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ผมอยากให้คุณทั้งสองใช้เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันทบทวนความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง
ครั้งนี้ผมขอให้พวกคุณใช้ใจในการตัดสินใจกันทั้งคู่อย่าใช้อารมณ์เหมือนเช่นที่ผ่านมา
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสามารถยืนยันแทนเจ้านายของผมได้ว่า คุณลูอิสเขาจริงใจกับคุณมาก ถึงแม้อาจจะเจ้าเล่ห์กับคุณไปบ้างแต่สำหรับคุณลูอิสคุณคือคนพิเศษมากๆนะครับ”
“ขอบคุณคะ ยังไงเดี๋ยวบีมจะเดินเข้าเกทแล้ว ฝากดูแลเขาด้วยนะค่ะ
โชคดีคะคุณเจมส์”
แพรรัมภาที่สอดส่ายสายตามองหาคนๆหนึ่งที่ดูแล้วไม่มี
เขาคงจะไม่มาส่งเธอจริงๆ เธอค่อยๆ ลากกระเป๋าเข้าไปด้านใน
พร้อมกับใจที่วันนี้มันอาจจะบอบช้ำแต่มันคือสิ่งที่เธอเลือกแล้วก็ต้องยอมรับมัน
อีกฟากของสนามบินมีสายตาคู่หนึ่งที่แอบดูเธออยู่ไกลๆ
ตอนแรกเขาบอกเจมส์ว่าเขาจะไม่มา
แต่ใจเขาก็ยังอยากจะมีโอกาสช่วงสุดท้ายถึงแม้มันอาจจะทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ได้
แต่ขอแค่ได้เห็นหน้าเธอเป็นครั้งสุดท้าย ตามที่เขาได้พูดไว้
ใจของเขามันเจ็บทุกๆย่างก้าวที่เธอค่อยๆเดินเข้าไปยังด้านในใจเขาอยากจะตะโกนเรียกชื่อ
แต่มันก็คงจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เขาได้ทำตามสิ่งที่เธอขอเขาเรียบร้อยแล้ว
“โชคดีนะครับ คุณบีมสักวันมันคงจะดีขึ้นกว่านี้”
ลูอิสค่อยๆ หันหลังเดินกลับไปยังรถที่เขาได้จอดไว้
ด้วยใจที่มันด้านชา รู้สึกเหมือนโลกมันมืด วันพรุ่งนี้ชีวิตมันจะเป็นอย่างไร เขาตัดสินใจแล้วเขาจะไม่กลับไปที่ห้องที่คอนโดอีกแน่ๆ
มันทำใจอยู่ในที่ ที่เขาเคยมีเธอไม่ได้
แพรรัมภาเดินเข้าไปรอเพื่อจะขึ้นเครื่องช่วงก่อนที่จะเข้ามายังด้านใน
เธอไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมาส่งเธอที่สนามบินแน่ๆ
ใจของเธอรู้สึกได้ ช่วงที่เธอมองไปรอบๆ เธอเห็นแผ่นหลังของเขา
ถึงแม้จะให้อยู่ไกลแค่ไหน เธอก็จำได้ แพรรัมภายิ้มทั้งน้ำตา ใจมันอาจจะเจ็บ
เจ็บเพื่อเริ่มต้นใหม่ของเราทั้งคู่
ลูอิสที่ออกจากสนามบินเสร็จเขาก็ขับรถกลับไปยังคฤหาสน์ของเขาทันที
ตลอดทางที่ขับรถใจเขาก็เหม่อมองไปยังบนท้องฟ้าว่าเครื่องของเธอจะออกเดินทางหรือยัง
มองไปบนท้องฟ้าที่เห็นเครื่องบินใจของเขารู้สึกเจ็บปวด
น้ำตามันก็ออกมาคลอตรงขอบตาเธอโบยบินกลับรังของเธอแล้ว
เจมส์ที่ได้เดินทางไปหาคุณลูอิสที่คฤหาสน์แทนที่จะไปคอนโดของเจ้านาย
ตอนนี้คงจะหลบไปเลียแผลใจ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยาหัวใจของคนทั้งสอง
ต่างรักกันเขาเชื่อแต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ทั้งสองตัดสินใจแบบนี้
เขาก็ต้องยอมรับ ภาวนาให้ทั้งสองค้นหาหัวใจของตัวเองให้เจอด้วยเถอะ
“ป้ามาเรียครับ คุณลูอิสอยู่ไหนครับ”
“ป้าเห็นอยู่ด้านหลังตรงสวน แต่ดูท่าทางจะเศร้าๆ เหมือนช่วงนั้นที่คุณลูอิสสูญเสียคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเลยคะ
ป้ารู้สึกเป็นห่วงมากๆ ยังไงไม่รู้คุณเจมส์”
“เหรอครับป้ามาเรีย คุณลูอิสกลับมานานหรือยังครับ”
“ก็พึ่งเข้ามาก่อนคุณเจมส์สักครู่คะ
มาถึงก็เดินผ่านป้าเข้าไปตรงศาลาเลย”
“ครับได้เดี๋ยวผมขออนุญาตไปดูนะครับ”
“คุณเจมส์ป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ว่าไงครับ ป้ามาเรีย”
“ป้าอยากจะรู้ว่าสาวคนไหน
ทำให้คุณหนูของป้าเศร้าได้ขนาดนี้บอกป้าได้ไหมว่าเป็นใคร นิสัยยังไง”
“อืม เธอเป็นคนดี สวยหวานน่ารัก
และเป็นคนไทยเป็นรุ่นน้องของภรรยาคุณมาร์ตินครับ
แต่ผมไม่รู้สาเหตุหลักว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสอง แต่ผมรับรองได้ว่าทั้งคู่เขารักกัน
แต่ต่างฝ่ายต่างอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเองก็ได้ครับ
ปล่อยให้เขาพักตั้งหลักก่อนทั้งคู่ อะไร อะไรมันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ครับ”
“โอเค ป้าได้ฟังแบบนี้ป้าก็เบาใจหน่อย
คงต้องตามนั้นให้เวลารักษาแผลใจกันไป”
“ครับ แต่ผมเชื่อว่ายังไงคุณแพรรัมภาก็ต้องเป็นนายหญิงของที่นี่แน่นอนครับ”
“คุณมั่นใจมากเลยนะคะ คุณเจมส์”
“ครับ ผมมั่นใจมาก
ผมขออนุญาตเอาจดหมายไปให้คุณลูอิสก่อนนะครับ”
“จ้ะ ไปเถอะเดี๋ยวป้าจะไปทำอาหารให้นะ
อยู่ทานข้าวกับป้าก่อนกลับนะคุณเจมส์
เจมส์พยักหน้ารับ แล้วได้เดินไปตามทางเพื่อไปยังสวนที่คุณผู้หญิงแม่ของคุณลูอิสปลูกไว้
ที่เวลามีปัญหาคุณลูอิสมักจะไปอยู่นั่นได้เป็นวันๆ
ลูอิสที่ยืนเหม่อมองไปยังด้านหน้าเป็นสวนที่สวยงามมีดอกไม้ของแม่เขาที่ส่งกลิ่นหอมอ่อน
ยืนกอดอกจ้องมองไปยังท้องฟ้า ตอนนี้เครื่องบินคงจะเดินทางไปเมืองไทยแล้วสินะ
“คุณลูอิสครับ คุณลูอิส คุณลูอิส”
ลูอิสที่เหม่อจนไม่ได้ยินเสียงของเจมส์ที่เรียกเขาอยู่หลายต่อหลายรอบ
จนเจมส์ต้องเดินเข้ามาสะกิด
“หึ นายมานานแล้วเหรอเจมส์”
“ครับผมมายืนได้สักพักแล้วครับ”
“อืม...เป็นไงบ้าง ส่งเขาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ครับ ผมส่งคุณบีมกลับเมืองไทยตามที่คุณลูอิสฝากไว้แล้วครับ”
“อือ
ส่วนเรื่องบริษัทที่เมืองไทยนายก็โทรไปแจ้งคุณภัทด้วยว่า
เราขอยกเลิกสัญญาที่เคยทำไว้ทั้งหมดให้คุณภัทบริหารงานต่อไปได้
เราจะไม่ขอเข้าไปยุ่งอะไรอีก”
“ได้ครับ คุณลูอิส เออ...ก่อนที่คุณจะไปคุณบีมฝากจดหมายมาให้คุณลูอิสด้วยนะครับ”
“หึ เขาฝากจดหมายถึงฉัน เหรอ”
“ครับ นี่ครับจดหมายของคุณบีม”
เจมส์ที่ยื่นจดหมายให้เสร็จแล้วเขาเดินหันหลังกลับเพื่อไปหา ป้ามาเรีย และให้คุณลูอิสได้อ่านตามลำพัง
“สวัสดีคะคุณลูอิส
บีมขอบคุณมากนะที่คุณฟังคำขอร้องของบีมในครั้งนี้
ตลอดช่วงเวลาที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันขอบคุณมากนะคะที่คุณดูแลบีมเป็นอย่างดี
นับจากวันนี้ไปบีมขอให้คุณดูแลสุขภาพ เป็นคุณลูอิสคนเดิมที่มีรอยยิ้มเร็วๆ นะคะ
ถ้าวันหนึ่งเราทั้งสองพร้อมในความรู้สึกบีมหวังว่าเราคงจะเป็นเพื่อนกันได้นะค่ะ มีสิ่งหนึ่งที่บีมอยากจะบอกคุณ
บีมไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เราได้เจอกันแต่ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่มันอาจจะเริ่มมาผิดๆ
ถ้าฟ้ายังให้โอกาสเราทั้งคู่สักวันเราอาจจะได้เจอกันอีกครั้งนะคะ ขอเวลาให้เราทั้งสองได้ถามหัวใจตัวเองกันอีกครั้งว่าต้องการอะไร
สักวันเราอาจจะพบหนทางที่ดีกว่านี้ของแต่ละคนได้
ปล. บีมรู้ว่าคุณอาจจะเหงาในห้องบีมได้วาดภาพของคุณไว้ที่นั่น ภาพที่บีมวาดมันคือตัวตนจริงๆที่บีมสัมผัสได้
อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ นะคะ
แพรรัมภา อัศวนนท์”
ลูอิสอ่านทุกบรรทัดซ้ำไปซ้ำมา ใจของเขารู้สึกสั่นมันอ่อนไหวตอนนี้เขาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงแต่มันไม่โอเคกับเขาเลยรูปภาพรูปอะไร
ลูอิสนึกได้รีบวิ่งไปยังรถที่เขาจอดไว้เพื่อไปยังออฟฟิศที่ทำงานทันที
เจมส์ที่เห็นคุณลูอิสวิ่งไปยังรถ รู้สึกสงสัยว่านั่นคุณลูอิสจะรีบไปไหน
ไปทำอะไรแต่น่าจะเป็นเรื่องของคุณบีมแน่นอนเขารับรู้ได้
ลุอิสจอดรถหน้าบริษัท
พนักงานรับรถรีบรับกุญแจจากเจ้านายเพื่อทำการย้ายรถไปจอดที่อื่นต่อ
ยังไม่ทันจะพูดอะไรเจ้านายก็วิ่งขึ้นไปบนตึกทันที
ลูอิสที่เดินจนมาถึงหน้าห้องทำงานใจเขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับภาพที่บีมได้วาดทิ้งไว้ถึงแม้มันอาจจะช้าไปที่จะได้ขอบคุณเจ้า
ลูอิสค่อยเปิดประตูและเอื้อมมือไปเปิดไฟมองไปยังโต๊ะทำงานที่เขาจัดไว้ให้สำหรับแพรรัมภา
ที่ตอนนี้เขามองก็ยังเหมือนความรู้สึกว่าเธอนั่งอยู่
เขาเดินมาถึงและมองไปยังบนโต๊ะที่มีสมุดวาดภาพวางอยู่ เขาค่อยเปิดไปทีละหน้า
มันคือภาพวาดนาฬิกาในแบบที่เขาเคยบอกให้เธอลองวาดมันดู เธอออกแบบได้สวยงามมากๆ
ไล่ไปที่ละหน้า จนมาถึง ใบหน้าของเขาที่เธอลงทุนวาดมันแต่ละรูปที่เธอวาด
คงจะเป็นแต่ละช่วงเวลาที่เธอโมโหเขา บางรูปคล้ายๆกับปิศาจ น้ำตาของเขาค่อยๆ
ไหลออกมา มันคิดถึง คิดถึงคนวาดเป็นที่สุด
จนถึงรูปสุดท้ายไม่แน่ใจว่าวันนั้นเขาทำอะไร มันเป็นรูปที่เขานั่งเหม่อมอง
ไปยังหน้าต่าง
“คุณคิดอะไรอยู่คะคุณจะรู้ตัวไหมว่าคุณนะขี้เหงา”
ลูอิสทรุดนั่งไปกับพื้น
เขาคิดเสมอว่าเธอไม่เคยสนใจเขาเลยบางครั้งเธอก็ทำเฉยใส่เขามีแต่เขาที่เป็นฝ่ายเรียกร้องเธอตลอดมา
เขาพึ่งรู้ว่าจริงๆ เธอแอบมองเขาอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
“บีม ผมคิดถึงคุณทำไมคุณทำกับผมแบบนี้
จากผมไปแบบไม่ต้องลากันก็ได้ คุณทำแบบนี้คุณใจร้ายมาก ผมจะทำยังไง ทุกๆ ที่
ผมเห็นแต่คุณ”
ลูอิสที่เอาศีรษะพิงไปกับโต๊ะทำงานของแพรรัมภา สภาพตอนนี้ใครมาเห็นคงจะสมเพชเขาอยู่ในใจอย่างแน่นอน
คนใจร้าย เธอใจร้ายมากๆ สำหรับเขา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 53
Comments