ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว แพรรัมภาใช้ชีวิตเหมือนกับคนว่างงาน
ไม่ดูทีวี เล่นเกม นั่งเช็คข่าวสารในโลกของอินเตอร์เน็ต วันแรกก็ยังพอทน ล่วงเลยมาเดือนหนึ่งแล้วจะให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกสักสองวัน
เธอจะต้องตายแน่ๆ เป็นบ้าตายไม่เอาแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องขอพูดกับเขา เธอไม่เคยใช้ชีวิตแบบหายใจทิ้งไปวันๆ
ลูอิสช่วงนี้เอะอะก็อยากจะกลับไปที่ห้อง ที่มีคู่กัดรอเขาอยู่
วันไหนที่เขากับแพรรัมภาไม่ทะเลาะกัน นั้นแทบจะไม่มีเลยสักวันเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เราสองคนจับประเด็นมาทะเลาะกันได้หมดสำหรับเขานั่นโครตจะรู้สึกดี
ที่เธอมีปฏิกริยาโต้ตอบเขา มีเงียบบ้างแต่ไม่มากนัก
เจมส์เดินเอางานเข้ามาให้คุณลูอิสเจ้านายเขาที่ช่วงนี้รู้สึกว่าชีวิตจะมีสีสันมาก
ตั้งแต่คุณบีมมาอยู่ด้วยบางวันก็เห็นรอยเล็บตรงลำคอ บางครั้งก็เห็นแก้มมีรอยฝ่ามือนี่เจ้านายเขาเป็นพวกชอบความรุนแรงหรือเปล่าชอบแหย่ให้คุณบีมทำร้ายร่างกาย
“วันนี้อารมณ์ดีนะครับ
คุณลูอิสดูจากใบหน้าแล้วดูมีความสุขมากๆ”
เจมส์คิดในใจต่างจากคุณบีมที่ทำหน้าเครียดหงุดหงิดตลอดเวลา
ก็สมควรเล่นจับขังไว้แต่ในห้องที่คอนโดแบบนั้นคอยดูเดียวนกน้อยจะแหกกรงออกมาท่องโลกกว้างสักวัน
“ก็ปกตินิ ไม่มีอะไรแปลกเลย เออ!!
วันนี้นายสั่งดอกไม้ให้ฉันช่อหนึ่งสิ จะเอาไปให้คนที่คอนโดหน่อยช่วงนี้ดูเรียบร้อยเป็นพิเศษ”
เจมส์ได้ยินคำว่าเรียบร้อยเป็นพิเศษภายในใจเขาคิดว่าไม่น่าจะใช่
เขาคิดว่าคุณบีมต้องวางแผนทำอะไรสักอย่างแน่ๆ เขื่อเซนส์ไอ้เจมส์คอยดูเถอะไม่นาน
จากหน้าที่ยิ้มๆ แบบนี้จะเปลี่ยนเป็นยักษ์แน่ๆ
“คุณลูอิสไม่สงสารคุณบีมเหรอครับ อยู่แต่ห้องที่คอนโดแล้ว คุณลูอิสไม่พาคุณบีมมาศึกษาดูงานที่สถานีละครับ
เผื่อจะมีแรงจูงใจให้ คุณบีมอยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป”
ลูอิสฟังก็รู้สึกว่ามันก็จริง แต่วันนั้นที่เขาเห็นสายตาพวกหนุ่มๆในบริษัทมองเมียเขา
เขาไม่รู้สึกไม่ชอบและหากให้แพรรัมภาทำงาน
เขาฟันธงได้เลยว่าเธอจะไม่มีเวลาให้เขาแน่นอน
“ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาก็ชอบความสบาย
นั่งๆนอนๆไม่ต้องทำงาน ช็อปปิ้งซื้อโน่นนี่นะแหละอยู่แบบนั้นนะดีแล้ว”
“คุณลูอิสคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอครับว่า คุณบีมมีนิสัยแบบนั้น”
“เออ!! จริงสิ เอ๊ะ!!นายต้องการอะไรเจมส์ มาๆ
เซ็นเอกสารแล้วฉันจะได้กลับห้องพักผ่อน”
เจมส์ได้ยินและแอบชำเลืองมองนาฬิกาในข้อมือ นี่มันพึ่งบ่ายโมง
เจ้านายเขาจะกลับห้อง พักหลังๆ นี่อยู่บริษัทไม่เกินบ่ายสองสักวันอย่างนี้แหละน่ะ
ที่เขาบอกว่าช่วงข้าวใหม่ปลามัน
ส่วนลูอิสที่ก้มหน้าเซ็นเอกสารต่างๆ อย่างมีสมาธิถึงแม้เขาจะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่เคยพลาดส่วนสำคัญต่างๆ
ในเอกสารที่เซ็นแม้แต่เรื่องเดียว จนถึงแผ่นสุดท้าย
“โอเค เสร็จละนะ ฉันกลับแล้วมีอะไรก็โทรหาฉันนะเจมส์”
“เจ้านาย! นี้บ่ายโมงตรงแป๊ะ เลยนะครับ”
“อือ...นายมีปัญหาอะไร เจมส์ ข้องใจตรงไหนบอกมา”
“เออ...ไม่มีครับเชิญ
เชิญเจ้านายกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
ใครมันจะกล้ามีปัญหากับเจ้าของบริษัท ว๊ะ!! ตัวเขาทุกวันนี้
นั่งเคลียงานให้ยันห้าทุ่ม เที่ยงคืน ดีนะรายได้ต่อเดือนมากโขอยู่สำหรับเขา
ถึงแม้จะเหนื่อยเพื่อความสุขของเจ้านายไอ้เจมส์คนนี้ยินดีทำให้
ลูอิสได้ยินก็เอื้อมไปหยิบสูทที่พลาดอยู่ตรงเก้าอี้ด้านหลัง
สวมเสร็จก็เดินออกไปพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิท
“ขอให้เธอไปดี ขอให้มีความสุข” เจมส์ที่ได้ยินเพลงนี้จากคุณดาววันนั้น
ที่เธอตั้งเป็นสายเรียกเข้าซึ่งมันดังตลอดเวลาจนติดหูเขา ก็เผลอร้องออกมา
เพราะเขาแอบถามความหมายมาแล้วว่าคืออะไร ชีวิตเน้อชีวิต ชีวิตผู้ชายโสด
แพรรัมภาที่เดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปมากดถ่ายรูปเล่นๆ
ภายในห้องหรูคอนโดของลูอิส ตรงสวนข้างๆ และมุมต่างๆของสระวายน้ำ แก้เหงาไปพลางๆ
“เบื่อจริงๆ โทรหาเพื่อนดาวดีกว่า
ทำไมฉันต้องติดอยู่กับ ไอ้บ้านี่ด้วย”
แพรรัมภาก้มหน้ากดเบอร์เพื่อโทรหาเพื่อนสนิท
ที่อยู่เมืองไทยจากเวลาน่าจะคุยได้
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
“สวัสดีคะ คุณแพรรัมรัมภา”
“เรียกซะเต็มยศเลยนะ”
“ไม่ได้สิ
เผื่อเพื่อนได้ดีแล้วจะไม่ลืมยัยดาวคนนี้ไงคะ”
“บ้าแก อย่ามาแซว
แกก็รู้ว่าฉันต้องอยู่ที่นี่เพราะอะไร ฉันเบื่อ ฉันอยากกลับเมืองไทยแล้วเนี่ย”
“อยู่ยังไม่ถึงเดือนก็เบื่อแล้วเหรอเพื่อน”
“แกไม่ใช่ฉัน แกไม่รู้หรอกว่าเซ็งแค่ไหน
คนเคยทำงานมานั่งๆ นอนๆ แบบนี้ คิดแล้วโครตจะกลุ้มเลย”
เสียงถอนหายใจของแพรรัมภา ทำให้เพื่อนสนิทถึงกับขำ
น้ำเสียงของเพื่อน
“เอาน่า เขาคงรอให้แกปรับตัวได้แล้ว
คงจะหาอะไรให้แกทำแก้เหงามั้ง”
“คะ!! คุณเพื่อนเหมือนแกรู้ใจนายนั่น ดีจริงๆ นะ”
“อ้าว!! ก็จริง ใจเย็นสิ ช่วงนี้เขาก็คงอยากจะศึกษานิสัยในคอของแก
ว่าแกชอบอะไร ไม่ชอบอะไร พอเขารู้ แล้วเขาคงจะปล่อยให้แกทำงาน
แกก็อย่าดื้อกับเขาให้มากสิ พูดจาให้อ่อนหวานมั้ง
ไม่ใช่แต่จะคอยจ้องจะกัดเขาแบบนั้น ผู้ชายเขาชอบคนเอาใจ แกก็เอาใจเขานิดๆ หน่อยๆ
เดี๋ยวเขาก็ยอมแกเองแหละ”
“นี่! ฉันว่าแกรู้จักนายนั่นดีกว่าฉัน
ทำไมนายนั่นไม่ไปยุ่งกับแกว๊ะ แกจะได้สบาย”
“คิก คิก สเปกคนเรามันไม่เหมือนกัน เว้ย!!
เขาคงจะชอบโหดๆ แบบแก มากกว่าสวยหวานแบบฉัน”
“ถึงว่า ทำไมคุณเจมส์เอ่ยชื่อแกต้อง ทำหน้าเคลิ้มๆ”
“ เดี๋ยว!! อย่ามามั่ว
ฉันกับคุณเจมส์ไม่ได้เป็นอะไรกัน เว้ย!!”
“เหรอ...จ้ะ คุณดาว”
“แค่นี้นะแก ทำงานต่อ พอดีไม่ว่าง
โสดต้องหาเงินใช้เอง ไม่มีคนรวยๆ มาติดกับดัก คิดถึงนะคะมาดาม”
“เดี๋ยวเหอะแก ปากแบบนี้มันน่าจับตีให้เข็ด”
ลูอิสที่เดินเข้ามาภายในห้องที่คอนโด มองไม่เห็นคนตัวเล็กทุกที่จะเห็นไม่หน้าจอคอมก็หลับบนโซฟา
นี่หายไปไหนเดินดูรอบห้อง จนมาได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์อยู่ตรงสวนข้างๆ ห้อง
ดูท่าทางจะคุยจนไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในห้องอีกคน
เขาเดินอ้อมไปกอดทางด้านหลังของคนตัวเล็ก
“อุ้ย!! ใคร”
แพรรัมภาตกใจ มีใครเข้ามากอดเธอจากทางด้านหลังพึ่งจะวางสายเพื่อนสนิทไป
และมาพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีขาว ยื่นมาให้
“ตกใจอะไร นี่ห้องของผม ใครมันจะกล้าเข้ามา
ลองเข้ามาสิพ่อจะยิงให้ไส้พรุนเลย”
“ใครจะไปรู้ อยู่ดีก็มากอด ฉันก็ต้องตกใจสิ”
“คิดถึงจังเลยครับ”
พร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งฟอด เวลาหอมแก้มของแพรรัมภา
นั้นมักจะได้กลิ่นแป้งเด็กติดตรงจมูกของเขาตลอดเวลา ยิ่งตอนนอนเขาชอบเอาหน้าไปไว้ตรงซอกคอของเธอ
แพรรัมภาที่เห็นช่อดอกกุหลาบก็รู้สึกแปลก
ปกติเธอไม่เคยได้รับช่อดอกไม้จากใคร เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยจะมีใครกล้ามาจีบ
“นี่มันพึ่งบ่ายโมงกว่าๆ ทำไมรีบกลับ
เป็นเจ้านายภาษาอะไร กินแรงลูกน้อง ไม่อยากจะทำงาน โอนมาให้ฉันทำก็ได้นะ
ฉันอยากจะทำงานจะตาย เบื่อที่จะมาอยู่แบบนี้แล้วเนี่ย”
“อ้าว!! ผมเจ้าของบริษัท
ผมทำงานในส่วนของผมเสร็จแล้วผมก็กลับได้ ส่วนคุณอย่ามาบ่น
ผู้หญิงเขาชอบอยู่กับห้องสวยๆ มีสามีเอาเงินมาให้ไปช็อปปิ้ง
ไม่งั้นก็ออกไปเสริมสวยโน้นนี่ แล้วทำไมคุณไม่ทำ ผมไม่ได้ห้ามคุณแค่อยากจะไปไหน ก็เรียกเจมส์พาไป
ไม่งั้นถ้าผมว่างบอกมา ผมก็พาคุณไปได้หมดนะแหละ”
“โอ๊ย!!! นั่นมันคนอื่น ผู้หญิงของคุณ แต่สำหรับฉันไม่ใช่
ฉันชอบทำงานให้แรงงานและสมองมากกว่า มานั่งหายใจทิ้งไปวันๆ แบบนี้
คุณเข้าใจไหมเนี่ย”
“เบื่อว่างั้น ทั้งหมดที่พูดมาใช่ไหม”
“ใช่ ให้ฉันไปทำงานเหอะน๊ะ!! นะคุณ
ตำแหน่งอะไรก็ได้ในบริษัทคุณ”
ลูอิสเห็นใบหน้าของคนตัวเล็กคงจะไม่รู้ตัวว่าทำใบหน้าออดอ้อนแบบนี้แล้วมันน่ามั่นเขี้ยวนักเชียว
คิดๆ แล้วจัดการเลยดีกว่า
ส่วนงานนั้นค่อยคิดหาว่าจะให้ทำอะไรหลังจากที่จัดการคนตรงหน้าเสร็จ
“ได้!! ผมจะทำให้คุณไม่เหงา และรู้สึกเบื่ออีกเลย”
“จริงเหรอ ไหนๆ งานอะไร”
ลูอิสเห็นแพรรัมภาทำหน้าตาดีใจ เผลอยิ้มออกมา จ้องมองคนตรงหน้า
ไม่ต้องพูดมากจัดการเลยดีกว่า
“อือ...อือ”
แพรรัมภารู้สึกตกใจ นี่อะไรงานอะไร ไอ้บ้านี่เอาอีกแล้วนะ
ลูอิสจัดการปิดปากของแพรรัมภาและจัดการปลุกอีกด้านของตัวเธอขึ้นมา
ซึ่งมันทำให้เขาหลงเธอ คิดถึงเธอ ตลอดเวลา
ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนแบบนี้แล้วมันยิ่งคึกคัก
ลูอิสใช้ความชำนาญและจับสังเกตุคนด้านหน้าว่าทำอย่างไร
เธอถึงจะลุกมาเป็นแม่เสือสาวคอยขย้ำเขา มันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะรู้
แพรรัมภาที่หลงเข้าไปในวังวนเกมเสน่หาที่ถูกปลุกด้วยความชำนาญ
มันสร้างความต้องการให้เธอลุกโชนขึ้นมา อย่างเช่นทุกครั้ง
ต่างคนต่างสนองความต้องการของกันและกัน
จวบจนล่วงเลยมาช่วงค่ำ ลูอิสที่นอนมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ เขาเริ่มคิด
สิ่งที่เธอขอร้อง อ้อนวอนตลอดช่วงที่พูดคุยกัน ถึงแม้อาจจะใช้ภาษากายมากกว่า
แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดี และรู้สึกหวงแหนร่างนี้ที่เขามีสิทธิที่จะได้เห็นมันคนเดียว
“ผมจะให้คุณทำตำแหน่งอะไรดี”
แพรรัมภาที่ถูกเขาสอนบทเรียนไปหลายต่อหลายครั้ง
จนหมดแรงจากที่อ้อนวอนของาน จากเขามันน่าจริงๆ น่าโมโหตัวเอง แค่ถูกเขาปลุกขึ้นมาสัญญาณภายในของเธอก็ตอบสนองเขาทันที
“หิวข้าวยังครับ ตื่นมาทานข้าวก่อนไหม”
“คนบ้า ฉันของานทำ ไม่ใช่มาขอให้คุณทำแบบนี้นะคนบ้า”
“อ้าว!! ใครใช้ ให้เมียน่ารักละครับ”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่ใช่เมียของคุณ”
“ทำขนาดนี้ ยังคิดว่าไม่ใช่เหรอ อย่าทำให้โมโห
เดี๋ยวจะไม่ให้ไปทำงานนะ”
แพรรัมภาที่ได้ยินคำว่าทำงาน
ก็รีบลุกขึ้นมาจนหลงลืมว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไร ซึ่งมันออกมาทิ่มตาคนด้านหน้า
ลูอิสเห็นแล้วลมหายใจก็ติดขัดอีกครั้ง มันช่างน่าเย้ายวน ชวนให้ฟัดจริงๆ
แพรรัมภาที่สังเกตเห็นสายตาของคนด้านหน้า แล้วก้มดู
ก็ตกใจรีบเอาผ้าห่มมาปิดบังไว้ หื่นจริงๆ คนบ้า
“ฉันหิวข้าวแล้ว ลุกหนีฉันจะไปอาบน้ำ”
ลูอิสเห็นแพรรัมภาที่ลุกขึ้นก็รีบวิ่งเข้าห้องไปทันที
เขากำลังจะคว้าลำตัวแต่ก็ช้าไปแล้ว ลูอิสถึงกับหัวเราะ
ตั้งแต่มีเธอเข้ามาทำให้ห้องนี้มันช่างมีสีสันจริงๆ
จากที่เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยจะกลับมาห้องสักเท่าไหร่
ลูอิสลุกขึ้นไปส่วมกางเกงขายาวใส่เพื่อจะลุกไปจัดการทำอาหารง่ายๆ
ให้กับคนที่บ่นว่าหิว
ซึ่งเขาพอจะรู้จักเพื่อนคนไทยสมัยเรียนที่มันชอบทำกับข้าวและไข่เจียวเป็นเมนู
ง่ายๆที่สุดแสนจะอร่อย
ลูอิสที่จัดการหุงข้าว และเดินไปหาของสดในตู้เย็นซึ่งเขาพึ่งจะให้เจมส์ซื้อเขามาใส่ไว้
แพรรัมภาที่อาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น
เดินออกมาสวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเดินออกมา ตามกลิ่นหอมๆ
“คุณทำอะไรนะ ให้ฉันช่วยไหม”
“ไม่เป็นไรครับ แค่ไข่เจียวเอง คุณทานได้ไหม”
แพรรัมภาที่ได้ยินคำว่าไข่เจียว
ก็มองหน้าเขาฝรั่งส่วนมากจะไม่รู้จักไข่เจียวแบบคนไทยส่วนใหญ่จะออกมาหน้าตาคือออมเล็ต
แต่มองดูที่กะทะแล้ว ไม่น่าจะใช่ ลูอิสที่ปล่อยไข่เจียวให้เหลืองกรอบสักพักก็หันไปตักข้าวในหม้อหุงข้าว
มาวางบนจาน แล้วค่อยๆ ตักไข่เจียวราดไปบนข้าว
“โอ้โห!! น่าทานมากเลยคะ หอมมาก”
ลูอิสส่งรอยยิ้ม มาให้ก็อดที่จะภูมิใจไม่ได้
เพียงเท่านี้แหละที่เขาสามารถทำให้คนตรงหน้ายิ้มได้ โดยไม่ต้องบังคับขู่เข็ญ
แพรรัมภาเดินถือจานข้าวไข่เจียวไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว
พร้อมกับหยิบแก้วน้ำไปวาง
ลูอิสเดินมาตรงโต๊ะทานข้าวที่เห็นแพรรัมภานั่งรออยู่ คงจะหิวน่าดู
ก็เล่นจัดการเธอไปหลายรอบมาก
“ทานเลยครับ หิวแล้วละสิ”
“ขอบคุณคะ”
“อืม พรุ่งนี้เข้าบริษัทกับผมนะ
เดี๋ยวผมจะหาให้ว่าคุณจะทำงานส่วนไหน”
แพรรัมภาได้ยินก็รู้สึกดีขึ้น ไม่เสียแรงที่เขาทำเธอเหนื่อยมาก
ต่างคนต่างทาน ด้วยความอร่อยของกินแสนจะถูกและง่าย มันกับทำให้ลูอิสมีความสุขมาก มันสามารถเรียกรอยยิ้มของคนตรงหน้าได้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 53
Comments