เสียงนกเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี ฉันออกจากถุงนอนแล้วพับมันเก็บ ฉันไม่ยอมล้างหน้าแต่แปรงฟันด้วยน้ำทะเลแทนยาสีฟันไปเลยเพราะน้ำจืดใกล้จะหมดแล้ว ภายในวันนี้ฉันจะต้องหาน้ำจืดให้ได้ไม่อย่างนั้นต้องยอมแพ้เพราะขาดน้ำแน่ ฉันเอาน้ำดื่มและอาหารใส่เป้สะพายหลัง หิ้วขวดน้ำอัดลมเปล่า(ที่เก็บมาจากชายหาด)เปิดไฟฉายเดินออกจากที่พักไปยังจุดหมายทันที เดินเลียบไปเรื่อยๆริมชายหาด แสงไฟฉายสาดกระทบกับปูตัวเล็กๆที่เดินกระจัดกระจายอยู่เต็มชายหาด ปูพวกนี้มันกินได้ไหมนะ? แต่ตัวขนาดนี้คงไม่มีเนื้อให้พออิ่มหรอก เดินไปสักพักเตะเข้ากับบางอย่างจนเกือบล้มหน้าคว่ำ ฉันส่องไปยังตัวต้นเหตุเห็นเป็นห่วงพ้นขึ้นมาจากพื้นทราย ฉันใช้มีดพกขูดทรายออกแล้วค่อยๆขุดมันขึ้นมา มันเป็นถังน้ำอลูมิเนียมมีหูหิ้วสภาพบุบบู้บี้แต่ไม่มีรูรั่ว โชคดีชะมัด! ฉันหิ้วมันไปด้วยอย่างอารมณ์ดี จนมาถึงโขดหินแหลมฉันสำรวจไปตามซอกหินพบกับแอ่งน้ำขังที่มีสัตว์ทะเลตัวเล็กตัวน้อยอยู่ด้วย มันคงติดอยู่ตอนที่น้ำลด มีหอยนางรมและหอยแมลงภู่เกาะอยู่ตามหินอีกด้วย โชคดีชั้นสอง! แหล่งอาหารทะเลชัดๆ แต่เอาไว้วันหน้าก็แล้วกันตอนนี้ฉันต้องการน้ำจืดมากที่สุด
ฉันปีนป่ายไปตามโขดหินขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงข้างบน แสงอาทิตย์สว่างทั่วทั้งผืนฟ้า ฉันนั่งลงพักเหนื่อยเอาอาหารขึ้นมากินรับแสงแดดยามเช้าฉลองวันสิ้นปีกับตัวเอง คิดถึงแม่กับลูกอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับตัวฉันในตอนนี้หรอก หลังหายเหนื่อยแล้วฉันเริ่มต้นเดินสำรวจรอบๆทันที โดยไม่ลืมที่จะทำสัญลักษณ์ไว้ด้วย สักพักฉันได้พบกับต้นไทร(หรือต้นอะไรสักอย่างที่อยู่ในวงศ์เดียวกัน)ที่เหมือนกับต้นที่เต็นท์ของฉัน แต่ต้นนี้มันใหญ่กว่าหลายเท่า กิ่งก้านใบดกหนาบังแสงอาทิตย์จนสลัว รากของมันเกาะยึดชอนไชตามซอกหินไปทั่ว ฉันสำรวจไปตามรากของมัน เพราะสังหรณ์ว่ามันจะพาไปหาแหล่งน้ำได้ หาไปสักพักจนเริ่มท้อเพราะมีแต่ซอกหินแตกๆที่รากต้นไทรมันเลื้อยเข้าไปไม่มีร่องรอยของแอ่งน้ำเลยสักนิด
ฉันนั่งลงข้างโคนต้นไทรถอนหายใจด้วยความเหนื่อยก่อนค่อยๆเอนหลังพิงลงไปหวังจะหลับสักงีบ
"เหวยยยย!?" ฉันร้องตกใจที่จู่ๆหงายหลังตึง รีบลุกขึ้นอย่างลนลาน
ฉันแหวกรากฝอยของต้นไทรตรงที่ฉันหงายหลังออกดู มันมีโพรงขนาดเท่าคนตัวเล็กลอดได้อยู่ ฉันคาบไฟฉายไว้ในปากแล้วใช้มีดพกค่อยๆตัดรากต้นไม้ออกและเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆ
ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ รากต้นไม้ไม่มีแล้วกลับมีกลิ่นเหม็นฉุนโชยมาเข้าจมูก ทางเดินก็เหมือนจะสูงและกว้างขึ้นด้วยตามลำดับ อยู่ๆมีเสียงพรึ่บพรั่บอยู่เหนือหัวเมื่อส่องไฟฉายขึ้นดูค้างคาวที่เกาะอยู่ตกใจพากันบินโฉบใส่หัว ฉันตกใจจนทำไฟฉายร่วงพื้นแล้วนั่งลงเอามือกุมหัว หลังตั้งสติได้จึงรีบหยิบไฟฉายมาปิดทันที นั่งรออยู่สักพักจนพวกมันสงบลงจึงเปิดไฟฉ่ายส่องลงพื้นแล้วเดินต่อไป ไฟฉายเปรอะขี้ค้างคาวเหม็นติดมือเลย แหวะ! เดินมาเรื่อยๆเหมือนว่ามันสว่างขึ้น เป็นดังที่ได้หวังเอาไว้ ฉันปิดไฟฉายแล้วรีบวิ่งไปยังจุดที่สว่างที่สุดทันที แหงนหน้าขึ้นดูเห็นปล่องที่สูงขึ้นไปมีแสงแดดส่องลงมาจนตาพร่า ค้างคาวพวกนั้นคงเข้าออกกันทางปล่องนี้ มองไปรอบๆเห็นแอ่งน้ำสะส้อนแสงแดดระยิบอยู่ตรงหลืบชะง่อนหิน ฉันเข้าไปนั่งยองๆแล้ววักมันขึ้นมาล้างมือและลองชิมดูนิดหน่อย
"วู้ววววว!!!!!" ฉันแหงนหน้าเอามือป้องปากแล้วตะโกนออกไปจนสุดเสียงด้วยความดีใจ ปลดเอาขวดน้ำอัดลมมาล้างทำความสะอาดแล้วกรอกน้ำจนเต็มทุกขวด(เพื่อความปลอดภัยน้ำพวกนี้ต้องเอากลับไปต้มเสียก่อน) นั่งพักล้างหน้าล้างตาจนสดชื่นหายเหนื่อยแล้วกลับไปยังทางเดิมทันที ออกมาถึงทางลงก็พบว่าน้ำทะเลได้ขึ้นสูงเสียแล้ว บ้าบอ! ฉันกลับไปยังโคนต้นไทรหน้าถ้ำอีกครั้ง คงต้องพักที่นี่แล้วล่ะ! ไม่เสี่ยงตายกับคลื่นที่บ้าคลั่งกับหินที่แหลมคมเหล่านั้นหรอก ฉันเดินหาเก็บฟืนมาไว้เตรียมก่อกองไฟในคืนนี้ ที่นอนก็เอาใบต้นไทรปูรองนอนข้างในปากถ้ำคงพอรอดไปได้สักคืน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments