Day3, 31/12/2020

เสียงนกเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี​ ฉันออกจากถุงนอนแล้วพับมันเก็บ​ ฉันไม่ยอมล้างหน้าแต่แปรงฟันด้วยน้ำทะเลแทนยาสีฟันไปเลยเพราะน้ำจืดใกล้จะหมดแล้ว​ ภายในวันนี้​ฉันจะต้องหาน้ำจืดให้ได้ไม่อย่างนั้นต้องยอมแพ้เพราะขาดน้ำแน่​ ฉันเอาน้ำดื่มและอาหารใส่เป้สะพายหลัง​ หิ้วขวดน้ำอัดลมเปล่า(ที่เก็บมาจากชายหาด)​เปิดไฟฉายเดินออกจากที่พักไปยังจุดหมายทันที​ เดินเลียบไปเรื่อยๆริมชายหาด​ แสงไฟฉายสาดกระทบกับปูตัวเล็กๆที่เดินกระจัดกระจาย​อยู่เต็มชายหาด​ ปูพวกนี้มันกินได้ไหมนะ? แต่ตัวขนาดนี้คงไม่มีเนื้อให้พออิ่มหรอก​ เดินไปสักพักเตะเข้ากับบางอย่างจนเกือบล้มหน้าคว่ำ​ ฉันส่องไปยังตัวต้นเหตุเห็น​เป็นห่วงพ้นขึ้นมาจากพื้นทราย​ ฉันใช้มีดพกขูดทรายออกแล้วค่อยๆขุดมันขึ้นมา​ มันเป็นถังน้ำอลูมิเนียมมีหูหิ้วสภาพบุบบู้บี้​แต่ไม่มีรูรั่ว​ โชคดีชะมัด! ฉันหิ้วมันไปด้วยอย่างอารมณ์ดี​ จนมาถึงโขดหินแหลมฉันสำรวจไปตามซอกหินพบกับแอ่งน้ำขังที่มีสัตว์​ทะเลตัวเล็กตัวน้อยอยู่ด้วย​ มันคงติดอยู่ตอนที่น้ำลด​ มีหอยนางรมและหอยแมลงภู่​เกาะอยู่ตามหินอีกด้วย​ โชคดีชั้นสอง!​ แหล่งอาหารทะเลชัดๆ​ แต่เอาไว้วันหน้า​ก็แล้วกันตอนนี้ฉันต้องการน้ำจืดมากที่สุด

ฉันปีนป่ายไปตามโขดหินขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงข้างบน​ แสงอาทิตย์​สว่าง​ทั่วทั้งผืนฟ้า​ ฉันนั่งลงพักเหนื่อยเอาอาหารขึ้นมากินรับแสงแดดยามเช้า​ฉลองวันสิ้นปีกับตัวเอง​ คิดถึงแม่กับลูกอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับตัวฉันในตอนนี้หรอก​ หลังหายเหนื่อยแล้วฉันเริ่มต้นเดินสำรวจรอบๆทันที​ โดยไม่ลืมที่จะทำสัญลักษณ์​ไว้ด้วย​ สักพักฉันได้พบกับต้นไทร(หรือต้นอะไรสักอย่างที่อยู่​ใน​วงศ์​เดียวกัน)​ที่เหมือนกับต้นที่เต็นท์​ของฉัน​ แต่ต้นนี้มันใหญ่​กว่า​หลายเท่า​ กิ่งก้านใบดกหนาบังแสงอาทิตย์​จนสลัว​ รากของมันเกาะยึดชอนไช​ตามซอกหิน​ไปทั่ว​ ฉันสำรวจไปตามรากของมัน​ เพราะสังหรณ์​ว่ามันจะพาไปหาแหล่งน้ำได้​ หาไปสักพักจนเริ่มท้อเพราะมีแต่ซอกหินแตกๆที่รากต้นไทรมันเลื้อยเข้าไปไม่มีร่องรอย​ของแอ่งน้ำ​เลยสักนิด

ฉันนั่งลงข้างโคนต้นไทรถอนหายใจด้วยความเหนื่อยก่อนค่อยๆเอนหลังพิงลงไปหวังจะหลับสักงีบ

"เหวยยยย!?" ฉันร้องตกใจ​ที่จู่ๆหงายหลังตึง​ รีบลุกขึ้นอย่างลนลาน​

ฉันแหวกรากฝอยของต้นไทรตรงที่ฉันหงายหลังออกดู​ มันมีโพรงขนาดเท่าคนตัวเล็กลอดได้อยู่​ ฉันคาบไฟฉายไว้ในปากแล้วใช้มีดพกค่อยๆตัดรากต้นไม้ออก​และเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆ​

ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ​ รากต้นไม้ไม่มีแล้วกลับ​มีกลิ่นเหม็นฉุนโชยมาเข้าจมูก ทางเดินก็เหมือนจะสูงและกว้างขึ้นด้วยตามลำดับ​ อยู่ๆมีเสียงพรึ่บ​พรั่บอยู่เหนือหัวเมื่อ​ส่องไฟฉายขึ้นดูค้างคาวที่เกาะอยู่ตกใจพากันบินโฉบใส่หัว ฉันตกใจจนทำไฟฉายร่วงพื้น​แล้วนั่งลงเอามือกุมหัว หลังตั้งสติได้จึงรีบหยิบไฟฉายมาปิดทันที​ นั่งรออยู่สักพักจนพวกมันสงบลงจึงเปิดไฟฉ่ายส่องลงพื้นแล้วเดินต่อไป​ ไฟฉายเปรอะขี้ค้างคาวเหม็นติดมือเลย​ แหวะ! เดินมาเรื่อยๆเหมือนว่ามันสว่างขึ้น​ เป็นดังที่ได้หวังเอาไว้​ ฉันปิดไฟฉายแล้วรีบวิ่งไปยังจุดที่สว่างที่สุดทันที​ แหงนหน้าขึ้นดูเห็นปล่องที่สูงขึ้นไปมีแสงแดดส่องลงมาจนตาพร่า​ ค้างคาวพวกนั้นคงเข้าออกกันทางปล่องนี้​ มองไปรอบๆเห็นแอ่งน้ำสะส้อนแสงแดดระยิบอยู่ตรงหลืบชะง่อนหิน​ ฉันเข้าไปนั่งยองๆแล้ววักมันขึ้นมาล้างมือและลองชิมดูนิดหน่อย​

"วู้ววววว!!!!!" ฉันแหงนหน้าเอามือป้องปากแล้วตะโกนออกไปจนสุดเสียงด้วยความดีใจ​ ปลดเอาขวดน้ำอัดลมมาล้างทำความสะอาดแล้วกรอกน้ำจนเต็มทุกขวด​(เพื่อความปลอดภัย​น้ำพวกนี้ต้องเอากลับไปต้มเสียก่อน)​ นั่งพักล้างหน้าล้างตาจนสดชื่นหายเหนื่อยแล้วกลับไปยังทางเดิมทันที​ ออกมาถึงทางลงก็พบว่าน้ำทะเลได้ขึ้นสูงเสียแล้ว​ บ้าบอ! ฉันกลับไปยังโคนต้นไทรหน้าถ้ำอีกครั้ง​ คงต้องพักที่นี่แล้วล่ะ​! ไม่เสี่ยงตายกับคลื่นที่บ้าคลั่งกับหินที่แหลมคมเหล่านั้นหรอก​ ฉันเดินหาเก็บฟืนมาไว้เตรียมก่อกองไฟในคืนนี้​ ที่นอนก็เอาใบต้นไทรปูรองนอนข้างในปากถ้ำ​คงพอรอดไปได้สักคืน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!