“ภูมิ” เด็กปีหนึ่งผู้เงียบขรึมและไม่ค่อยชอบเป็นจุดสนใจของใคร ชีวิตของเขาในมหาวิทยาลัยผ่านไปอย่างเงียบสงบ จนกระทั่งวันที่เขาได้เจอ “พี่ติน” รุ่นพี่ปีสามที่เป็นทั้งหล่อ เท่ และเก่งกาจในหลายด้าน ตินเป็นหัวหน้าชมรมบาสเกตบอลที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งนักศึกษาหญิงและชาย ความมั่นใจในตัวเองและท่าทางสุขุมทำให้ภูมิเริ่มสนใจและแอบมองตินอยู่ห่างๆ
ทุกครั้งที่ภูมิเห็นตินในมหาวิทยาลัย หัวใจของเขามักจะเต้นแรงเสมอ แต่เขาไม่เคยกล้าแม้แต่จะทักทายหรือเข้าใกล้ เพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะคิดว่าเขาแปลกหรือไม่เป็นปกติ นอกจากนี้ภูมิยังรู้สึกสับสนกับตัวเอง เขาไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนหนึ่ง
วันหนึ่ง โชคชะตาพลิกผันเมื่อภูมิเข้ามาร่วมกิจกรรมรับน้องของชมรมบาสเกตบอล ซึ่งมีตินเป็นคนดูแล ภูมิที่ไม่ถนัดกีฬาเลยแม้แต่น้อย พยายามเล่นตามที่พี่ๆ บอก แต่ก็เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยเมื่อเขาลื่นล้มและข้อเท้าแพลง ตินที่อยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาช่วยประคอง
“เจ็บมากไหม?” ตินถามพร้อมกับช่วยประคองภูมิไปนั่งที่ข้างสนาม
ภูมิรู้สึกตื่นเต้นและกระอักกระอ่วนเมื่อได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ที่เขาแอบชอบมานาน เขาพยายามเก็บอาการและตอบกลับไป “ไม่เป็นไรมากครับพี่ แค่ข้อเท้าแพลงนิดหน่อย”
ตินยิ้มเล็กน้อยและบอก “รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวพี่ไปหายามาทาให้”
หลังจากเหตุการณ์นั้น ภูมิเริ่มมีโอกาสได้คุยกับตินมากขึ้น เพราะตินเป็นคนใจดีและเอาใจใส่คนในชมรม แม้ว่าภูมิจะรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้รุ่นพี่คนนี้ แต่เขาก็รู้สึกดีที่ได้พูดคุยและเห็นรอยยิ้มของติน
วันหนึ่ง ตินชวนภูมิไปนั่งเล่นหลังเลิกเรียน ทั้งสองคนพูดคุยเรื่องทั่วไป เรื่องบาส เรื่องชีวิตในมหาวิทยาลัย จนภูมิเริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้น และได้รู้ว่าตินไม่ใช่แค่คนที่เก่งแต่ภายนอก แต่เขายังเป็นคนอบอุ่นและใส่ใจคนอื่นมาก
แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกแอบชอบก็ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น ภูมิไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ เขากลัวว่าถ้าตินรู้ เขาอาจจะต้องเสียเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ไป
“ภูมิ… ทำไมเงียบไปล่ะ?” ตินถามขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันในสวนหลังมหาวิทยาลัย
“พี่ติน…” ภูมิกลืนน้ำลายก่อนจะตัดสินใจพูด “ผมมีเรื่องอยากบอกพี่… แต่ผมไม่รู้ว่าพี่จะคิดยังไง”
ตินหันมามองด้วยสายตาที่สงสัย “มีอะไรเหรอ?”
ภูมิรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป “ผม… ผมแอบชอบพี่ตินครับ”
บรรยากาศเงียบลงทันที ตินนิ่งไปชั่วครู่ ทำให้ภูมิรู้สึกว่าเวลาหยุดหมุน เขากลัวว่าคำตอบของตินจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ตินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ภูมิ… พี่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินแบบนี้จากนาย แต่พี่อยากให้นายรู้ว่า พี่ไม่ได้มองนายในแบบเดียวกัน”
คำพูดนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่ใจของภูมิ แม้ว่าจะคาดเดาไว้อยู่แล้ว แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
“แต่พี่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนะ” ตินพูดต่อ “พี่เข้าใจความรู้สึกของนาย และอยากให้นายรู้ว่า เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
ภูมิยิ้มเศร้า ๆ และพยักหน้า “ผมเข้าใจครับ ขอบคุณที่พี่ไม่รังเกียจ”
หลังจากนั้น แม้ความสัมพันธ์ระหว่างภูมิและตินจะไม่เป็นอย่างที่เขาหวัง แต่ภูมิก็ได้เรียนรู้ว่า ความรักนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการตอบรับเสมอไป การยอมรับในตัวเองและความรู้สึกที่มี เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตินยังคงเป็นรุ่นพี่ที่เขานับถือ และภูมิก็ยอมรับที่จะเก็บความรู้สึกนั้นไว้เป็นความทรงจำที่ดี